สวัสดีครับ ขออนุญาตมาเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมกับเพื่อน ตอนนั้นผมยังเป็นเด็ก อยู่บ้านแถว ๆ วัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด ซึ่งเรื่องนี้ผมจำไม่เคยลืมเลย...
ผมชื่อแบงค์ครับ ตอนนั้นประมาณ ป.6 เป็นเด็กแสบ ๆ ที่ติดการตกปลาแบบงอมแงม วันไหนไม่ได้ตกเหมือนขาดใจ จะบ่อปลา คลองน้ำ หนองน้ำ ผมไปมาหมด
วันนั้นมันดึกแล้ว ประมาณ 3 ทุ่มได้ แต่ดันนึกคึก อยากไปตกปลาอีก ก็เลยไปชวนเพื่อนสนิทชื่อ "เท่" ให้ไปเป็นเพื่อน
ตอนแรกเท่ก็ลังเล บอกว่า “ดึกขนาดนี้จะไปตกที่ไหนวะ? ถ้าจะไปจริง ๆ ก็แม่น้ำหน้าวัดโน่น ปลาน่าจะมี แต่... กูไม่ไปนะเว้ย หน้ากลัว”
ผมก็เซ้าซี้ บอกว่า “กลัวอะไรล่ะ ก็อยู่แถวนี้เหมือนกัน หลวงพ่อก็รู้จักเรา ไม่ด่าหรอก แค่ตกปลาเดี๋ยวเดียว”
พอดีแม่เท่เดินออกมาหลังบ้าน ได้ยินเราคุยกันพอดี แกเลยเอ็ดเสียงดัง
“ไอ้พวกเด็กบ้า! ตกที่ไหนไม่ตก ดันจะไปตกหน้าวัด! ระวังเหอะ เปรตแถวนั้นมันดุนะ เดี๋ยวเจอดี!”
ผมก็ขำ ๆ ไป บอกป้าตุ (แม่เท่) ว่า “ผมอยู่แถวนี้ตั้งแต่เกิด ยังไม่เคยเห็นซักตัวเลยป้า ฮ่า ๆๆ”
สุดท้าย เท่ก็ยอมไปกับผมครับ เพราะผมใช้ไม้ตาย “เพื่อนไม่ทิ้งกันเว้ย”
เราสองคนปั่นจักรยานมาถึงหน้าวัดเวลาประมาณ 4 ทุ่ม วัดเงียบกริบแบบหลอน ๆ เลย
เท่ถึงกับพูดว่า “เฮ้ยแบงค์... กูว่าเรากลับบ้านกันเถอะ มันน่ากลัวจริง ๆ นะเว้ย”
ผมเลยบอกไปว่า “จะกลัวอะไร ก็มานี่ทุกวัน แค่มืด ๆ เอง รีบ ๆ ดูต้นทางให้กู เดี๋ยวรีบตกรีบกลับ”
ตรงหน้าวัดมีศาลาริมน้ำที่คนชอบเอาอาหารมาโปรยให้ปลา ผมก็เอาเบ็ดไปนั่งตกตรงนั้น ส่วนเท่เฝ้าอยู่ด้านบน
ตกไปได้ประมาณ 15-20 นาที ผมได้ปลาอยู่หลายตัวเลย กะจะเก็บของกลับ แต่จู่ ๆ เบ็ดก็ถูกดึงอย่างแรง เหมือนมีอะไรใหญ่มากติดเบ็ดอยู่!
ผมรีบเรียกเท่ให้ลงมาช่วย ตอนที่เท่วิ่งลงมาได้ครึ่งทาง เขาก็ชะงัก...
เท่เห็น... มีบางอย่าง "โผล่ขึ้นมาจากแม่น้ำ"
ผมยังไม่รู้เรื่องอะไร หันไปเห็นเท่ยืนนิ่ง ๆ แล้วก็ได้ยินเสียงแหลมสูง เสียงแบบ... “ปี้ดดดดดดดดดด”
ผมหันไปทางเสียง เห็นกับตาเลยครับ...
ร่างสูงโย่ง ดำทะมึน มือใหญ่เท่าใบลาน ตัวสูงเท่าต้นตาล... "เปรต"
เท่าตะโกนลั่น “ไอ้แบงค์! เปรต!!!” ผมยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นไปหลายวินาที เท่วิ่งเข้ามาคว้ามือผมให้ปล่อยเบ็ดแล้วรีบพาวิ่งหนี
ตอนนั้นเปรตมันเดินข้ามศาลาริมน้ำ แล้วตรงมาทางพวกผมเลยครับ!
เราสองคนวิ่งสุดชีวิต ขึ้นมาบนวัด ขึ้นจักรยานปั่นหนีแบบไม่คิดชีวิต แต่เสียง “ปี้ดดดดดดดดด” มันดังตามหลังมาตลอด
เหมือนเงาใหญ่มาก กำลังโถมลงมาจากฟ้า ทั้งวัดมีแต่เสียงร้องของพวกเรา
“หลวงพ่ออออ!!! ช่วยด้วยยย!!!”
โชคดีมากครับ หลวงพ่อได้ยินเสียงพวกเรา แกเปิดประตูวัดแล้วตะโกนเรียก “ไอ้แบงค์เหรอ! วิ่งมาทางนี้!”
ผมกับเท่วิ่งพรวดเข้าไปในวัด หลวงพ่อปิดประตูทันที เสียง “ปี้ดดดดดด” ยังได้ยินลอดมานอกประตู
คืนนั้นเราสองคนตัวสั่น ร้องไห้ แล้วหลับไปใต้ผ้าห่มที่หลวงพ่อเอามาให้
เช้ามา หลวงพ่อถามว่าเมื่อคืนไปทำอะไรกัน เท่เล่าให้ฟังทั้งหมด
หลวงพ่อส่ายหน้าแล้วพูดว่า “รู้อยู่แล้วว่าเป็นเขตอภัยทาน เขาห้ามตกปลา ยังจะไปดื้ออีก ถ้าเปรตมันไม่แค่ไล่นะ มันลากลงน้ำไปด้วยแล้ว!”
ผมกับเท่าขอโทษแกยกใหญ่ แล้วสัญญาว่าจะไม่ทำอีก หลวงพ่อให้ไปอาบน้ำมนต์ก่อนกลับบ้าน
แต่ก่อนจะกลับ ผมดันนึกขึ้นได้ว่า... ลืมของไว้ที่ศาลา
ผมเลยชวนเท่าลงไปเอาด้วยกัน
เท่าถึงกับสะดุ้ง “จะบ้าเหรอ!?”
ผมหัวเราะ “เช้าแล้วเว้ย ผีไม่ออกหรอก”
เราสองคนลงไปเก็บของ... แล้วผมลองหมุนลอกเบ็ดดูอีกครั้ง
ทันใดนั้น... มีหัวคนขนาดใหญ่ “ค่อย ๆ ลอยขึ้นมาจากน้ำ...”
ผมไม่รอดูต่อ รีบทิ้งเบ็ดแล้ววิ่งหนีสุดชีวิต ไม่คิดจะกลับไปเอาอีกเลยจนถึงทุกวันนี้
---
สรุป
นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อตอนผมเป็นเด็กครับ ตอนนี้โตแล้ว แต่แค่คิดย้อนกลับไปก็ยังขนลุกอยู่เลย
ใครที่บ้านอยู่ใกล้วัด หรือชอบไปตกปลาตอนกลางคืน... อย่าลองของแบบผมครับ
“เขตอภัยทาน” เขาไม่ให้ทำอะไรผิดศีล ผิดเขตด้วยเหตุผลบางอย่าง...
บางที... คนเราอาจไม่ได้อยู่ที่นั่นกันแค่ฝ่ายเดียวก็ได้ครับ...
[เรื่องเล่าหลอน] คืนตกปลาหน้าวัด... ที่ไม่ควรไป
สวัสดีครับ ขออนุญาตมาเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมกับเพื่อน ตอนนั้นผมยังเป็นเด็ก อยู่บ้านแถว ๆ วัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด ซึ่งเรื่องนี้ผมจำไม่เคยลืมเลย...
ผมชื่อแบงค์ครับ ตอนนั้นประมาณ ป.6 เป็นเด็กแสบ ๆ ที่ติดการตกปลาแบบงอมแงม วันไหนไม่ได้ตกเหมือนขาดใจ จะบ่อปลา คลองน้ำ หนองน้ำ ผมไปมาหมด
วันนั้นมันดึกแล้ว ประมาณ 3 ทุ่มได้ แต่ดันนึกคึก อยากไปตกปลาอีก ก็เลยไปชวนเพื่อนสนิทชื่อ "เท่" ให้ไปเป็นเพื่อน
ตอนแรกเท่ก็ลังเล บอกว่า “ดึกขนาดนี้จะไปตกที่ไหนวะ? ถ้าจะไปจริง ๆ ก็แม่น้ำหน้าวัดโน่น ปลาน่าจะมี แต่... กูไม่ไปนะเว้ย หน้ากลัว”
ผมก็เซ้าซี้ บอกว่า “กลัวอะไรล่ะ ก็อยู่แถวนี้เหมือนกัน หลวงพ่อก็รู้จักเรา ไม่ด่าหรอก แค่ตกปลาเดี๋ยวเดียว”
พอดีแม่เท่เดินออกมาหลังบ้าน ได้ยินเราคุยกันพอดี แกเลยเอ็ดเสียงดัง
“ไอ้พวกเด็กบ้า! ตกที่ไหนไม่ตก ดันจะไปตกหน้าวัด! ระวังเหอะ เปรตแถวนั้นมันดุนะ เดี๋ยวเจอดี!”
ผมก็ขำ ๆ ไป บอกป้าตุ (แม่เท่) ว่า “ผมอยู่แถวนี้ตั้งแต่เกิด ยังไม่เคยเห็นซักตัวเลยป้า ฮ่า ๆๆ”
สุดท้าย เท่ก็ยอมไปกับผมครับ เพราะผมใช้ไม้ตาย “เพื่อนไม่ทิ้งกันเว้ย”
เราสองคนปั่นจักรยานมาถึงหน้าวัดเวลาประมาณ 4 ทุ่ม วัดเงียบกริบแบบหลอน ๆ เลย
เท่ถึงกับพูดว่า “เฮ้ยแบงค์... กูว่าเรากลับบ้านกันเถอะ มันน่ากลัวจริง ๆ นะเว้ย”
ผมเลยบอกไปว่า “จะกลัวอะไร ก็มานี่ทุกวัน แค่มืด ๆ เอง รีบ ๆ ดูต้นทางให้กู เดี๋ยวรีบตกรีบกลับ”
ตรงหน้าวัดมีศาลาริมน้ำที่คนชอบเอาอาหารมาโปรยให้ปลา ผมก็เอาเบ็ดไปนั่งตกตรงนั้น ส่วนเท่เฝ้าอยู่ด้านบน
ตกไปได้ประมาณ 15-20 นาที ผมได้ปลาอยู่หลายตัวเลย กะจะเก็บของกลับ แต่จู่ ๆ เบ็ดก็ถูกดึงอย่างแรง เหมือนมีอะไรใหญ่มากติดเบ็ดอยู่!
ผมรีบเรียกเท่ให้ลงมาช่วย ตอนที่เท่วิ่งลงมาได้ครึ่งทาง เขาก็ชะงัก...
เท่เห็น... มีบางอย่าง "โผล่ขึ้นมาจากแม่น้ำ"
ผมยังไม่รู้เรื่องอะไร หันไปเห็นเท่ยืนนิ่ง ๆ แล้วก็ได้ยินเสียงแหลมสูง เสียงแบบ... “ปี้ดดดดดดดดดด”
ผมหันไปทางเสียง เห็นกับตาเลยครับ...
ร่างสูงโย่ง ดำทะมึน มือใหญ่เท่าใบลาน ตัวสูงเท่าต้นตาล... "เปรต"
เท่าตะโกนลั่น “ไอ้แบงค์! เปรต!!!” ผมยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นไปหลายวินาที เท่วิ่งเข้ามาคว้ามือผมให้ปล่อยเบ็ดแล้วรีบพาวิ่งหนี
ตอนนั้นเปรตมันเดินข้ามศาลาริมน้ำ แล้วตรงมาทางพวกผมเลยครับ!
เราสองคนวิ่งสุดชีวิต ขึ้นมาบนวัด ขึ้นจักรยานปั่นหนีแบบไม่คิดชีวิต แต่เสียง “ปี้ดดดดดดดดด” มันดังตามหลังมาตลอด
เหมือนเงาใหญ่มาก กำลังโถมลงมาจากฟ้า ทั้งวัดมีแต่เสียงร้องของพวกเรา
“หลวงพ่ออออ!!! ช่วยด้วยยย!!!”
โชคดีมากครับ หลวงพ่อได้ยินเสียงพวกเรา แกเปิดประตูวัดแล้วตะโกนเรียก “ไอ้แบงค์เหรอ! วิ่งมาทางนี้!”
ผมกับเท่วิ่งพรวดเข้าไปในวัด หลวงพ่อปิดประตูทันที เสียง “ปี้ดดดดดด” ยังได้ยินลอดมานอกประตู
คืนนั้นเราสองคนตัวสั่น ร้องไห้ แล้วหลับไปใต้ผ้าห่มที่หลวงพ่อเอามาให้
เช้ามา หลวงพ่อถามว่าเมื่อคืนไปทำอะไรกัน เท่เล่าให้ฟังทั้งหมด
หลวงพ่อส่ายหน้าแล้วพูดว่า “รู้อยู่แล้วว่าเป็นเขตอภัยทาน เขาห้ามตกปลา ยังจะไปดื้ออีก ถ้าเปรตมันไม่แค่ไล่นะ มันลากลงน้ำไปด้วยแล้ว!”
ผมกับเท่าขอโทษแกยกใหญ่ แล้วสัญญาว่าจะไม่ทำอีก หลวงพ่อให้ไปอาบน้ำมนต์ก่อนกลับบ้าน
แต่ก่อนจะกลับ ผมดันนึกขึ้นได้ว่า... ลืมของไว้ที่ศาลา
ผมเลยชวนเท่าลงไปเอาด้วยกัน
เท่าถึงกับสะดุ้ง “จะบ้าเหรอ!?”
ผมหัวเราะ “เช้าแล้วเว้ย ผีไม่ออกหรอก”
เราสองคนลงไปเก็บของ... แล้วผมลองหมุนลอกเบ็ดดูอีกครั้ง
ทันใดนั้น... มีหัวคนขนาดใหญ่ “ค่อย ๆ ลอยขึ้นมาจากน้ำ...”
ผมไม่รอดูต่อ รีบทิ้งเบ็ดแล้ววิ่งหนีสุดชีวิต ไม่คิดจะกลับไปเอาอีกเลยจนถึงทุกวันนี้
---
สรุป
นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อตอนผมเป็นเด็กครับ ตอนนี้โตแล้ว แต่แค่คิดย้อนกลับไปก็ยังขนลุกอยู่เลย
ใครที่บ้านอยู่ใกล้วัด หรือชอบไปตกปลาตอนกลางคืน... อย่าลองของแบบผมครับ
“เขตอภัยทาน” เขาไม่ให้ทำอะไรผิดศีล ผิดเขตด้วยเหตุผลบางอย่าง...
บางที... คนเราอาจไม่ได้อยู่ที่นั่นกันแค่ฝ่ายเดียวก็ได้ครับ...