JJNY : ‘ศิริกัญญา’ชวนจับตา│"รังสิมันต์ โรม" กดดัน "บิ๊กต่าย"│ใต้เดือดระอุ ยิง อส.ปัตตานี 2 ศพ│ เผยรัสเซีย-ยูเครนจะเจรจา

ศิริกัญญา’ชวนจับตาแผนใช้เงิน 1.57 แสนล้านบาทของรัฐบาล
.
.
‘ศิริกัญญา’ ชวนจับตาแผนใช้เงิน 1.57 แสนล้านบาทของรัฐบาล หวังไม่ซ้ำรอยงบฟื้นโควิดยุค ‘ประยุทธ์’ ชี้เป้าเติมงบกลาง เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายปีงบ 68 พร้อมชำแหละจีดีพีไตรมาส 1 โต 3.1% มาจากไหน ชี้ไม่ใช่เรื่องน่าดีใจ เพราะพื้นฐานเปราะบางกว่าฟองสบู่ คาดทั้งปีโตเหลือแค่ 1.8% หวังรัฐบาลมีแผนรับมือ
.
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ช่วยรัฐบาลหางบ โค้งสุดท้ายของงบประมาณปี 68 วันนี้ รัฐบาลได้ตัดสินใจเรื่องสำคัญ คือมีมติชะลอการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตออกไป เพื่อนำงบค่าใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน จากเดิมที่จะใช้กระตุ้นการบริโภค เปลี่ยนไปเน้นกระตุ้นการลงทุนภาครัฐ ผ่าน โครงสร้างพื้นฐาน (น้ำ คมนาคม) ท่องเที่ยว ลดผลกระทบการส่งออก และการลงทุนระดับชุมชนอื่นๆ
.
รายละเอียดว่าจะเอาไปทำอะไรบ้างคงต้องรอดู หวังว่าจะไม่ซ้ำรอยแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของ พ.ร.ก.เงินกู้ช่วงโควิดสมัยรัฐบาลประยุทธ์ที่ใช้กันอย่างตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ งบ 1.57 แสนล้าน ต้องใช้ทั้ง 1.เยียวยาผลกระทบ trump tariff 2.กระตุ้นการลงทุน+ท่องเที่ยว ก็เกรงว่าจะไม่เพียงพอ จึงอยากช่วยรัฐบาลหางบเพิ่มของปี 68 งบกลาง เงินสำรองฉุกเฉินที่สภาอนุมัติไป 96,000 กว่าล้าน เพิ่งใช้ไปประมาณ 30,000 ล้าน (เท่าที่ค้นเจอจากมติ ครม.) ยังเหลือวงเงินอีก 66,000 ล้านบาทเศษ งบปี 68 ใช้มาจนเหลือ 4 เดือนแล้ว งบกลางยังใช้ไป 1 ใน 3 ถ้านำมารวมกัน รัฐบาลจะได้วงเงินเพิ่มเป็น 223,000 ล้านบาท ในการกระตุ้นโค้งสุดท้ายในอีก 4 เดือนที่เหลือ ส่วนงบปี 69 จะช่วยรัฐบาลหางบมาจากไหน ต้องรอติดตามการอภิปรายงบประมาณวาระ 1 28-31 พ.ค. นี้ค่ะ
.
ต่อมา น.ส.ศิริกัญญา โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้งว่า GDP ไตรมาส 1 โต 3.1% มาจากไหน มาดูกันค่ะ ส่งออกเป็นพระเอกหรือผู้ร้าย? แน่นอนว่าการส่งออกโตดีมาก โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าที่โต 13.8% ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะมีการเร่งส่งออกเพื่อหนีการขึ้นภาษีของสหรัฐ สอดคล้องกับการส่งออกไปตลาดสหรัฐที่โต 25%! ในไตรมาส 1 แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ ภาคอุตสาหกรรมที่แทบไม่โตเลย (+0.6%) แสดงว่าแทบไม่ได้มีการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมในประเทศเพิ่มขึ้นเลย แล้วเราเอาสินค้าจากไหนไปส่งออก?
.
น.ส.ศิริกัญญา ระบุอีกว่า คนอาจจะคิดว่ามาจากการเอาสินค้าในสต๊อกไปขาย ซึ่งไตรมาส 1 สต๊อกก็ลดลงไปค่อนข้างมาก แต่ก็ยังมีส่วนเพิ่มของการส่งออกที่อธิบายไม่ได้อยู่ดีว่ามาจากไหนกันนะ สมมุติฐานหนึ่งคือ มาจากสินค้าสวมสิทธิ ไม่ได้ผลิตในไทย แต่มาส่งออกจากไทยนั่นเองที่ดันตัวเลขส่งออกไทยให้พุ่งทะยานขนาดนี้ ซึ่งหมายความว่า ต่อจากนี้การส่งออกในช่วงหลังของปีก็คงไม่ดีเหมือนเดิมเพราะเร่งส่งออกไปเยอะแล้ว แถมภาษีนำเข้าก็จะเริ่มเก็บจริงแล้ว มิหนำซ้ำหากเราปราบปรามสินค้าสวมสิทธิได้หมดสิ้น ตัวเลขส่งออกเราก็จะยิ่งแย่กว่าเดิมอีก แต่เราก็จะเห็นภาพการส่งออกไทยที่แท้จริงที่สะท้อนการผลิตสินค้าภายในประเทศด้วย ยังไม่ต้องพูดถึงสงครามการค้า ที่สภาพัฒน์คาดว่าน่าจะทำให้มูลค่าส่งออกทั้งปีโต 1.8% แค่นี้ก็ทำให้ต้องหั่น GDP ออกไป 1% จากที่คาดว่า ปี 2568 จะโต 2.8% เหลือแค่ 1.8%
.
น.ส.ศิริกัญญา ระบุต่อว่า ผลของงบ 67 ออกล่าช้า  เนื่องจากตัวเลขการเติบโต การลงทุนรวม +4.7% อาจทำให้เราหลงดีใจเก้อว่าการลงทุนกลับมาแล้ว ที่กลับมาจริง คือการลงทุนภาครัฐ (+26.3%) ที่เป็นผลมาจากงบ 67 ที่ออกล่าช้าจำกันได้ไหมคะ ทำให้ไตรมาส 1 ปีที่แล้วเรายังเบิกจ่ายงบลงทุนกันไม่ได้อยู่เลย พอปีนี้กลับมาเป็นปกติก็เลยโตแบบพุ่งๆ เพราะฐานต่ำ ถ้าดูการลงทุนภาคเอกชนอย่างเดียวจะพบว่าติดลบ -0.9% และหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 แล้ว เฉพาะแค่การลงทุนภาครัฐอย่างเดียวที่โตกระฉูดเพราะงบออกล่าช้า ส่งผลให้ GDP โตขึ้นถึง 1.5% ผลของงบ 67 ล่าช้า จะเกิดไตรมาสนี้ไตรมาสสุดท้ายแล้ว เพราะงบออกเดือน เม.ย. 67 หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติตามยถากรรม
.
น.ส.ศิริกัญญา ระบุต่อว่า ท่องเที่ยวกำลังหมดแรง ตัวเลขท่องเที่ยว เราจะดูจากการส่งออกบริการซึ่งโต +7% ซึ่งไม่เลวเลย แต่พอเหลือบไปดูตัวเลขท่องเที่ยวปีที่แล้ว เคยโตเฉลี่ยตั้ง +25% ที่เป็นแบบนี้เพราะการท่องเที่ยวที่เพิ่งฟื้นตัวจากโควิด กำลังค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปที่จุดเดิม (40 ล้านคนต่อปี) พอใกล้ถึงยอดเดิมก็จะค่อยๆ โตช้าลงๆ ดังนั้นการเติบโตจากการท่องเที่ยวจะไม่ได้ฟู่ฟ่าเหมือนปี 2 ปีที่ผ่านมาแล้วอันนี้ต้องทำใจ และจะเป็นแรงส่งให้ GDP ไทยน้อยลงกว่าเดิมมากๆ แต่ที่จะแย่ไปกว่าเดิมเพราะหลังจากไตรมาส 1 เราเริ่มเห็นสัญญาณนักท่องเที่ยวที่แผ่วลงกว่าเดิม ทั้งจากจีน และมาเลเซีย ที่เคยเป็นกลุ่มหลัก สุ่มเสี่ยงว่าปีนี้อาจจะมีนักท่องเที่ยวมาต่ำกว่าเป้าที่ 39 ล้านคน
.
น.ส.ศิริกัญญา ระบุต่อไปว่า สรุป ไม่ใช่เรื่องน่าดีใจใดๆ ทั้งสิ้น ที่เศรษฐกิจ 3 เดือนแรกที่โตเกิน 3% เพราะมาจากพื้นฐานที่เปราะบางกว่าฟองสบู่ และเศรษฐกิจทั้งปีที่จะโตเหลือแค่ 1.8% เท่ากับว่าไตรมาสหลังๆ อาจจะเจอเศรษฐกิจหดตัว หรือเกิดเศรษฐกิจถดถอย 2 ไตรมาสติด (technical recession) ก็เป็นไปได้ หวังว่ารัฐบาลจะมีแผนการเตรียมพร้อมรับมือ ผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ที่จะมาถึง ส่วนที่อ้าง 7 ครั้งในประวัติศาสตร์ โหลด excel สภาพัฒน์ไปดูเองเถอะ ว่าอ้างแบบนี้มันตลกขนาดไหน.
.
.
.

.
"รังสิมันต์ โรม" กดดัน "บิ๊กต่าย" เดินหน้าคดี สว.ทรงเอ ปมถอนหมายจับโยงขบวนการวิ่งเต้น
.
วันที่ 20 พ.ค.68 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม ระบุว่า...
.
จากกรณีที่ คณะกรรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (กต.) มีมติให้ผู้พิพากษาที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงการเพิกถอนหมายจับ สว. ทรงเอ ผมคิดว่า การทำหน้าที่ กต. ถูกต้องดีแล้ว เรื่องนี้ต้องชื่นชมการทำงานของ กต. จริงๆ
.
ถ้าใครจำกันได้ เรื่อง สว. ทรงเอ ที่ผมเคยอภิปรายเปิดโปงในสภาตั้งแต่ปี 2566 รวมถึงนำเอกสารเพิกถอนหมายจับที่อดีตรองอธิบดี นามว่า อรรถการ ฟูเจริญ เข้าไปเกี่ยวข้อง ส่งผลให้ สว.ทรงเอ ถูกถอนหมายจับในเวลาห่างจากการออกหมายจับไม่กี่ชั่วโมง คงจะมีการวิ่งเต้นกันน่าดู จึงกล้าถอนหมายจับ และเรียกตำรวจที่ทำคดีนี้ไปตำหนิโดยไม่ให้เกียรติใดๆ
.
เรื่องนี้นอกจากผมได้เคยทำหนังสือร้องไปยัง กต. แล้ว ผมยังเคยร้องเรื่องนี้ไปยัง ปปช. ด้วย ก็คงจะต้องติดตาม ปปช. กันต่อไปว่าเรื่องภายใน กต. มาถึงขนาดนี้แล้วทาง ปปช. จะว่าอย่างไรต่อ
.
อนึ่ง ต้องฝากเรื่องนี้ไปถึงบิ๊กต่าย ผบ.ตร. ว่าคดี สว. ทรงเอ ผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องกับการถอนหมายจับถูกให้ออกจากราชการแล้ว เมื่อไหร่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการย้าย หรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ของหน่วยตำรวจที่ทำหน้าที่จัดการ สว. ทรงเอ จะถูกดำเนินการอะไรบ้าง หรือไม่ต้องรับผิดชอบอะไรกันเลยหรือ นอกจากนี้บิ๊กต่ายไม่คิดว่าเรื่อง สว.ทรงเอ ควรค่าต้องการตั้งทีมในการขยายผลต่อเพื่อจัดการบรรดาคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดตามเส้นเงินเครือข่าย สว.ทรงเอบ้างหรือครับ
.
.

.
ใต้เดือดระอุ ยิง อส.ปัตตานี 2 ศพ ขณะวิ่งออกกำลังกาย เพื่อนระดมทุนคนละ 100 ช่วยครอบครัว
.
สถานการณ์ไฟใต้ลุกโชนอีกระลอก 4 คนร้าย ขี่จยย.แต่งกายคล้ายผู้หญิง ลอบยิงถล่มเจ้าหน้าที่ อส.ปัตตานี ขณะกำลังวิ่งออกกำลังกายบนถนนภายในหมู่บ้าน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ อส.เสียชีวิต 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย นายอำเภอไม้แก่น เผยเพิ่งเน้นย้ำให้ระวัง สุดเศร้า เจ้าหน้าที่ อส. ร่วมกันระดมทุนคนละ 100 บาท เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
.
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ จ.ปัตตานี ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี 4 คนร้ายใช้รถ จยย. 2 คันเป็นพาหนะใช้อาวุธสงครามกราดยิงเจ้าหน้าที่ อส. จำนวน 5 นาย ขณะกำลังวิ่งออกกำลังกายบนถนนภายในหมู่บ้านระเวง ม.3 ต.ดอนทราย อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ซึ่งอยู่ใกล้ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลไม้แก่น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ อส.เสียชีวิต 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย
.
ประกอบด้วย 1.นายซูไฮมี อาบู อายุ 30 ปี ถูกยิงที่ศีรษะ ลำตัว และขาขวา รวม 3 นัด เสียชีวิต 2.นายมะรอซาลี โต๊ะเส้ง ถูกยิงที่ศีรษะและลำตัว รวม 2 นัด เสียชีวิต 3.นายดาหรี แลเมาะ อายุ 46 ปี ได้รับบาดเจ็บ 4.นายมูรีดัน อาบู อายุ 39 ปี ได้รับบาดเจ็บ และ 5.นายมูฮัมมัดเทาเพ็ชร เจะมามะ อายุ 43 ปี ได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
.
ล่าสุดวันนี้ (20 พ.ค.68) พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้ประสานชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน อาก้า จำนวน 6 ปลอก หัวกระสุน 2 นัด ปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 2 ปลอก และหัวกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด ซึ่งเป็นของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุและได้กำชับให้นำไปตรวจสอบว่าอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุใดบ้าง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะรู้ตัวกลุ่มคนร้าย
.
นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่เร่งหาข่าวรวมไปถึงเบาะแสของกลุ่มคนร้าย เนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุเป็นย่านชุมชน เชื่อว่าน่าจะมีพยานซึ่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุเห็นเหตุการณ์และพฤติการณ์ของคนร้าย
.
ขณะที่การตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุปรากฏว่ากล้องวงจรปิดสามารถจับภาพบุคคลต้องสงสัย และเชื่อว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุยิง อส. มีลักษณะแต่งกายคล้ายผู้หญิง ซึ่งตรงกับที่พยานแจ้งเบาะแส โดยคนร้ายกลุ่มนี้มีด้วยกัน 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นพาหนะ
โดยกล้องวงจรปิดจับภาพสองคนแรก คนขับมีลักษณะใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว นุ่งผ้าโสร่ง สวมหมวกไหมพรมสีดำ ใส่แมสก์ และแว่นตาสีดำเพื่อปกปิดใบหน้า ขณะที่คนซ้อนท้ายแต่งกายคล้ายผู้หญิงด้วยการสวมผ้าคลุมศีรษะสีดำ สังเกตได้ว่าภายในผ้าคลุมมีอาวุธปืนยาว ขณะที่สองคนร้ายที่ขับรถจักรยานยนต์ตามหลัง คนร้ายทั้งสองคนมีลักษณะแต่งกายคล้ายกัน โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าทั้งสี่คนน่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุรอบยิง อส. ในครั้งนี้
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่