[CR] จากแรงบันดาลใจในปี 2008 สู่ความจริงในปี 2025 — 17 ปีที่ Uluru ยังอยู่ในใจไม่เคยเปลี่ยน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

จาก​ความฝันเมื่อ 17 ปีก่อน สู่ความทรงจำที่งดงามร่วมกันของครอบครัว

สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมอยากมาเล่าเรื่องราวที่มีความหมายมาก ๆ สำหรับผม


​เป็นทริปสั้น ๆ ที่ Uluru (อูลูรู) ดินแดนศักดิ์สิทธิ์กลางทะเลทรายของออสเตรเลีย ​แต่สำหรับผม มันคือทริปที่เชื่อมโยงอดีต ความฝัน และครอบครัวเข้าด้วยกันในที่เดียว


Volley of the wind 2025
---

จุดเริ่มต้นของความฝัน… จากหนังสือเล่มหนึ่ง

ย้อนกลับไปปี 2008 ตอนที่ผมกำลังเตรียมตัวจะมาออสเตรเลียด้วยวีซ่า ​Work and Holiday  ผมซื้อหนังสือแนะนำการใช้ชีวิตในออสเตรเลียจากเมืองไทย และในหนังสือเล่มนั้น… มีภาพของ ภูเขาหินสีแดงกลางทะเลทรายชื่อว่า "Uluru"

แค่เห็นภาพก็รู้สึกได้ถึงพลังบางอย่าง — ความเงียบ ความศักดิ์สิทธิ์ ความยิ่งใหญ่ — ที่สะกิดใจผมตั้งแต่นั้นมา
ผมพกหนังสือเล่มนั้นติดตัวตลอดทั้งปี และบอกกับตัวเองว่า

> "สักวันหนึ่ง ถ้าได้เป็นคนออสเตรเลีย ผมจะไปเยือนที่นั่นให้ได้"

---

ปี 2018: เยือน Uluru ครั้งแรก

หลังจากใช้ชีวิต เรียนรู้ และทำงานในออสเตรเลียหลายปี ในที่สุดผมก็ได้มาเยือน Uluru เป็นครั้งแรกในปี 2018
ตอนนั้นผมมาในฐานะนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง แต่ในใจรู้สึกเต็มไปด้วยความหมาย — เพราะที่นี่คือ “ภาพในหนังสือ” ที่อยู่กับผมมาตลอดเส้นทางชีวิต


รูปนี้ตอนมาครั้งแรก 2018
---

ปี 2025: กลับมาอีกครั้ง… พร้อมพ่อแม่

ในปีนี้ (พฤษภาคม 2025) ผมมีอีกหนึ่งความฝันที่อยากทำให้เป็นจริง

> "พาคนสองคนที่ผมรักที่สุดในชีวิต มาสัมผัสสถานที่พิเศษในหัวใจของผม"



และผมก็ได้ทำสำเร็จครับ


---

Day 1: เดินทางถึง Uluru + พระอาทิตย์ตก

เราบินจากเมลเบิร์นถึงสนามบิน Ayers Rock (Connellan Airport) ตอนเที่ยงสิบห้า

หลังจากรับรถเช่าเสร็จ เราแวะที่ Uluru-Kata Tjuta Cultural Centre เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาว Aṉangu (อะนานู) และเรื่องราวศักดิ์สิทธิ์ของอูลูรู ก่อนจะเช็คอินที่โรงแรม Sails in the Desert บ่ายสอง


ช่วงเย็น เราขับรถไปที่ Uluru Sunset Viewing Area
บรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตกที่นี่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง — หินอูลูรูเปลี่ยนสีจากส้มเป็นแดงเข้มจนเกือบม่วง สวยจนลืมหายใจ






---

Day 2: พระอาทิตย์ขึ้น + เดิน Mala Walk + เยือน Kata Tjuta

เช้าวันนี้เราออกจากโรงแรมก่อน 6 โมง เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Talinguru Nyakunytjaku Viewing Area
มองเห็นอูลูรูและกลุ่มหิน Kata Tjuta ไกล ๆ พร้อมแสงแรกของวัน — ประทับใจสุด ๆ ครับ





กลับมาโรงแรมทานอาหารเช้า จากนั้นเข้าร่วมกิจกรรม Mala Walk ฟรี ที่เจ้าหน้าที่อุทยานพาเดินและเล่าเรื่องราวต่าง ๆ รอบฐานหินอูลูรู ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง (แยกตัวออกมาเดินเองทีหลัง)






ระหว่างทางได้ชม Mutitjulu Waterhole, ภาพวาดโบราณบนผนังหิน

ช่วงบ่ายเราขับรถประมาณ 45 นาที ไปยัง Kata Tjuta (The Olgas) กลุ่มหินทรงโดมที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ Uluru

เราเดินเส้นทางสั้นไปไปจุดชมวิว Volley of the wind  ถึงแม้จะแดดออก แต่อากาศก็ไม่ร้อนจนเกินไปนัก เป็นจุดชมวิวที่ผมชอบมาก มันดูยิ่งใหญ่ ลึกลับ powerful  ยังไงไม่รู้





เราเดินเส้นทางสั้น ๆอีกที่ Walpa Gorge Walk ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สองข้างทางมีหน้าผาสูงและลมพัดเย็นตลอดทาง





จากนั้นขับต่อไปที่ Kata Tjuta Sunset Viewing Area เพื่อชมพระอาทิตย์ตกอีกครั้ง

แสงสุดท้ายของวันที่ส่องผ่านช่องเขา เป็นภาพที่สงบและสวยงามแบบยากจะบรรยาย








---

Day 3:  เดินทางกลับ

เช็คเอาท์ที่โรงแรมตอน 10 โมง แวะ Town Square เล็กน้อยเพื่อซื้อของฝาก แล้วขับรถไปสนามบิน

เครื่องออกตอนเที่ยงสิบห้า เดินทางกลับเมลเบิร์นด้วยหัวใจที่เต็มอิ่ม


---

ความรู้สึกสุดท้าย

การกลับมา Uluru ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การมาเที่ยวอีกครั้ง
แต่เป็นเหมือนการย้อนกลับไปหาความฝันของตัวเองในวัย 20 ต้น ๆ

ได้พาครอบครัวมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำนี้ เป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิต

ขอบคุณ Uluru ที่อยู่ในหัวใจผมมาตลอด
และขอบคุณพ่อแม่ที่ร่วมเดินทางกับผมในครั้งนี้


---

หากเพื่อน ๆ มีโอกาส ผมอยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสที่นี่สักครั้ง
ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปกับหินใหญ่ แต่คือการรู้สึกถึงพลังของธรรมชาติ และถามตัวเองว่า

> “เรากำลังเดินทางไปไหน และมาจากที่ไหนกันแน่”

ขอบคุณที่อ่านมาจนจบครับ Wasu in Aus

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่