1. เดือนที่แล้วมีวันหยุดพิเศษ 1 วันค่ะ เราเลยแว่บไปเที่ยวสุพรรณบุรี เป็น one day trip สั้นๆ
2. แน่นอนค่ะว่าออกจากบ้านแต่เช้ามืด… รถจะได้ไม่ติด คนจะได้ไม่เยอะ ขับไม่นานก็ถึงสุพรรณบุรีแล้วค่ะ
3. ที่เที่ยวที่แรกวัดเขาทำเทียมค่ะ วัดตั้งอยู่ที่อ.อู่ทอง ใกล้เขาทำเทียมค่ะ เลยเอาชื่อเขามาเป็นชื่อวัดซะเลย
4. ถนนเข้าวัดค่ะ ถนนดีแต่ต้องคอยหลบหมาเป็นระยะๆ ไม่รู้เป็นไรชอบมานอนกันกลางถนน แถมไม่หลบรถด้วยนะคะ
5. ขับเข้าไปได้สักพักก็ถึงวัดค่ะ มีที่จอดรถ มาเช้าก็จะได้จอดหน้าวัด แต่ถ้าเต็มอาจจะต้องไปจอดลานจอดที่ทางวัดเตรียมไว้ให้แล้วเดินมาค่ะ
6. สัญลักษณ์ของวัดนี้ค่ะ “พระปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” เป็นพระพุทธรูปแกะสลักบนหินผาทีใหญ่ที่สุดในประเทศไทยค่ะ
7. ชื่อพระรุทธรูป 5 พยางค์หน้า “ปุษยคีรี” ได้มาจากคำที่บนศิลาจารึกภาษาสันสกฤษโบราณที่ขุดพบบริเวณนี้ค่ะ
8. “ปุษยคีรี” จะแปลว่าดอกไม้หรือภูเขาก็ได้ค่ะ แต่เชื่อกันว่าน่าจะหมายถึงภูเขาทำเทียมที่เป็นที่ตั้งวัดแห่งนี้ค่ะ
9. นอกจากศิลาจารึกแล้วยังขุดเจอเสมา ธรรมจักร พระพุทธรูป เสาฐานต่างๆ อีกด้วยค่ะ
10. วัตถุโบราณทีค้นพบมีอายุอยู่ในช่วงทวารวดีจนถึงอยุธยาค่ะ
11. การพบศิลาจารึกปุษยคีรีทำให้นักวิชาการสันนิษฐานว่าแถวนี้เป็นที่ตั้งวัดแห่งแรกในประเทศไทยสร้างตั้งแต่ยุคเผยแพร่ศาสนาพุทธสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชค่ะ
12. เห็นว่าชื่อปุษยคีรีที่อยู่บนศิลาจารึกไปพ้องกับชื่อภูเขาศักดิ์ที่อินเดียด้วยค่ะ
13. ด้านหลังมีอุโมงค์เจาะทะลุภูเขาคะ เป็นที่ไหว้พระทำบุญ
14. นอกจากองค์พระใหญ่แล้วที่นี่ยังมี sky walk ให้เดินดูวิวเลียนหน้าผาด้านหลังองค์พระ มีสวนสาธารณะ
15. แต่ทั้ง sky walk กับสวนสาธารณะยังไม่เปิดนะคะ อยู่ระหว่างการก่อสร้างนะคะแต่ใกล้เสร็จแล้วค่ะ
16. ไปกันต่อที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอู่ทองค่ะ จากวัดเขาทำเทียมขับไปอีกไม่ไกลค่ะ
17. มีค่าเข้าชม 30 บาทสำหรับคนไทยและ 150 บาทสำหรับตช.ค่ะ
18. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอู่ทองเน้นจัดแสดงโบราณวัตถุที่ขุดพบในจ.สุพรรณบุรีค่ะ
19. วัตถุโบราณที่ขุดพบมีตั้งแต่ข้าวของเครื่องใช้ในยุคหินใหม่ ยุคสัมฤทธิ์ จนถึงยุคทวราวดีค่ะ
20. บริเวณที่ตั้งพิพิธภัณฑ์เองก็เป็นที่ตั้งเมืองโบราณอู่ทองค่ะ
21. ด้านนอกพิพิธภัณฑ์มีบ้านของชาวลาวโซ่งซึ่งจัดแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลาวโซ่งไว้ในบ้านค่ะ
22. ลาวโซ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ตั้งแต่อดีตค่ะ แต่ตอนนี้ผสมกลมกลืนกับคนพื้นที่ไปแล้วค่ะ
23. เราไม่ได้ขึ้นไปดูด้านบนนะคะ แต่คร่าวๆ คือจะมีส่วนที่อยู่อาศัย ยุ้งฉาง ครัว กะล้อห่องหรือห้องไหว้ผีซึ่งน่าจะคล้ายๆ ห้องพระสมัยนี้ค่ะ
24. บนยอดจั่วจะมีไม้แกะสลักเป็นรูปเขาควายติดอยู่ค่ะ ชาวลาวโซ่งเรียกไม้แกะสลักนี้ว่าขอกุดค่ะ
25. ตามตำนานลาวโซ่งเชื่อว่าเทวดาส่งควายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของชาวลาวโซ่ง ควายช่วยช่วยทำไร่ไถนา ช่วยทำทำโน่นทำนี่
26. เพื่อระลึกถึงและให้เกียรติควายชาวลางโซ่งจึงสร้างขอกุดมาประดับไว้บนยอดจั่วค่ะ
27. นอกจากนั้นขอกุดยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นอดทนไม่ย่อท้อตอความยากลำบากและยังหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ด้วยค่ะ
28. อาคารหลังนี้นี่จะเป็น office ของจนท.พิพิธภัณฑ์หรือจนท.โบราณคดีค่ะ
29. เข้าไปดูด้านในพิพิธภัณฑ์กันค่ะ เริ่มจากคลิปสั้นๆ ให้เราเข้าใจความเป็นมาของทวารวดีแบบคร่าวๆ กันก่อนค่ะ
30. สันนิษฐานกันว่าอาณาจักรทวารวดีเกิดจากการเดินทางมาค้าขายของชาวมอญโบราณค่ะ ประมาณวามาบ่อยๆ มาถี่ๆ เลยตั้งเมืองท่ามันซะเลย
31. จากนั้นก็พัฒนามาเรื่อยๆ กลายเป็นอาณาจักรทวารวดี ละโว้ หริภุญชัย……. จนเป็นสยามค่ะ
32. จากบันทึกการเดินทางเผยแพร่พระธรรมของพระภิกษุจีนจิ้นฮงหรือพระถังซัมจั๋งทำให้เรารู้ว่ามีอาณาจักรโบราณแห่งนึงตั้งอยู่บริเวณนี้ค่ะ ตอนนั้นพระจิ้นฮงเรียกอาณาจักรนี้ว่าโตโลโปตี้
33. มีการขุดพบโบราณวัตถุ โบราณสถาน บริเวณนี้แต่ดันมีลักษณะแตกต่างจากชิ้นอื่นๆ ที่เคยขุดเจอบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ
34. ความมีอยู่ของอาณาจักรทวารวดีจึงคลุมเครือมากๆ ในช่วงนั้นค่ะ แต่สุดท้ายมีการขุดพบเหรียญจารึกภาษาสันษกฤตไว้ว่า “ศรีทวารวดีศวรปุณยะ” ทำให้อาณาจักรทวารวดีเป็นที่ยอมรับว่ามีอยู่จริงค่ะ
35. เหรียญที่เจอในข้อ 34 นี่ขุดเจอที่นครปฐมนะคะ แต่เจอเพิ่มที่อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี หลังจากนั้นยังเจอเพิ่มเติมที่ลพบุรีและสิงห์บุรีค่ะ
36. เพราะเจอเหรียญโบราณที่ว่านี้เลยเชื่อกันว่าเมืองหลวงของอาณาจักรน่าจะเป็นเมืองใดเมืองนึงใน 3 เมืองดังกล่าวค่ะ แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าน่าจะเป็นเมืองอู่ทองค่ะ
37. คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ค่ะ ยังมีคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้อีกเยอะค่ะ เช่น ที่ตั้งเมืองหลวง ขนาดของอาณาจักร…. ปล่อยเรื่องน่าปวดหัวแบบนี้ให้นักวิชาการไปค้นหาคำตอบค่ะ
38. ศิลาจารึกคำว่า “ปุษยครี” ที่ขุดเจอแถวๆ วัดเขาทำเทียมค่ะ
39. board นี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนค่ะ ทางด้านซ้ายเป็นเส้นทางการเดินเรือและเส้นทางค้าขายทางบกในสมัยก่อนคะ
40. ส่วนขวาเป็น timeline ของอาณาจักรต่างๆในยุคสมัยนั้นค่ะ
41. ส่วนอันนี้เป็นเหรียญอาหรับค่ะ สันนิษฐานว่ามาพร้อมกับพ่อค้าอาหรับที่เข้ามาค้าขายที่นี่ค่ะ
42. ภาชนะดินเผาค่ะ
43. เหรียญกษาปณ์โรมันจักรพรรดิ์ Victorinus ค่ะ ตั้งแต่ค.ศ. 270 ค่ะ
43. เหรียญนี้มีคนมอบให้พิพิธภัณฑ์อู่ทองค่ะ ผู้มอบแจ้งว่าเจอบริเวณเมืองโบราณอู่ทองค่ะ ทางพิพิธภัณฑ์ไม่ได้ขุดเจอโดยตรง
44. “จักรพรรดิซีซาร์ มาร์คุส พิอาโวนิอุส วิกโตรินุส” คือชื่อเต็มของเจ้าของพระพักษณ์บนเหรียญค่ะ ชื่อยาวมากกกกกกกกกกกก…..
45. อักษรล้อมรอบอ่านไม่ออกค่ะ ไม่แน่ใจว่าภาษาอะไร
46. เห็นบอกว่าอีกด้านเป็นรูปเทพีซาลัส (Salus) เทพีแห่งสุขภาพและความสุขในยุคโรมันค่ะ
47. เหรียญพวกนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยยืนยันว่าการค้าขายทางเรือระหว่างอาณาจักรแถวนี้กับอาณาจักรโพ้นทะเลอย่างโรมันหรืออาหรับมีมาตั้งแต่สมัยทราวดีแล้วค่ะ
48. ตัวอย่างวัตถุโวราณที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ค่ะ
49. ตัวธรรมจักรส่วนที่สีเข้มๆ เป็นของดั้งเดิมค่ะ ส่วนที่สีอ่อนๆ เป็นของที่ทำขึ้นมาใหม่ค่ะ
50. มี hologram ให้ชมด้วยนะคะ
51. มีแบบจำลองด้านในของเรือที่พ่อค้าสมัยนั้นใช้ล่องมาค้าขายในแถบทราวดีให้ชมด้วยค่ะ อันนี้ surprise มากค่ะ ไม่คิดว่าจะมีเรืออยู่ในพิพิธภัณฑ์
52. เป็นส่วนท้องเรือด้านล่างที่ใช้เก็บสินค้าที่นำมาขายหรือซื้อกลับไปเพื่อขายที่เมืองท่าถัดไปค่ะ
53. เหรียญและเบี้ยที่ขุดเจอค่ะ
54. นอกจากนั้นยังมีพวกเครื่องประดับต่างๆ ด้วยนะคะ ส่วนใหญ่ทำจากทองหรือหินสีต่างๆ ค่ะ
55. บางอันเห็นแล้วก็งงว่าทำออกมาได้ยังไงทั้งๆ ที่ไม่มีเครื่องมือล้ำๆ แบบในสมัยนี้
56. บางชิ้นก็เล็กมากค่ะ มีทั้งแหวน จี้ สร้อยคอ ตุ้มหู แต่ตุ้มหุบางอันก็ใหญ่มากจนสงสัยว่าใส่ได้จริงๆ เหรอ
57. รูปปั้นต่างๆ ค่ะ มีทั้งคน ยักษ์ และคนแคระค่ะ
58. อันนี้เป็นธรรมจักรอันที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยขุดเจอค่ะ เป็นชิ้น highlight ของพิพิธภัณฑ์อู่ทองเลยค่ะ
59. ตอนที่เราเห็นป้ายข้างหน้าพิพิธภัณฑ์เราก็ไม่คิดว่าจะสูงใหญ่ขนาดนี้!!! สูงถึงชั้น 2 ของพิพิธภัณฑ์เลยนะคะ
60. รูปแรกเป็นรูปที่ถ่ายจากชั้น 2 ค่ะ ส่วนรูปที่ 2 ถ่ายจากชั้น 1 ค่ะ สูงมากกกกกกกกกกกกกก……
61. ปกติแล้วตัวธรรมจักรที่เจอตามวัดจะอยู่ระดับสายตา แต่ฐานธรรมจักรอันนี้สูงมากจนอยากรู้ว่าเขาตั้งสูงๆ แบบนี้เลยหรือมีบางส่วนอยู่ในดินค่ะ
แชร์ประสบการณ์ : One Day Trip - สุพรรณบุรี
1. เดือนที่แล้วมีวันหยุดพิเศษ 1 วันค่ะ เราเลยแว่บไปเที่ยวสุพรรณบุรี เป็น one day trip สั้นๆ
2. แน่นอนค่ะว่าออกจากบ้านแต่เช้ามืด… รถจะได้ไม่ติด คนจะได้ไม่เยอะ ขับไม่นานก็ถึงสุพรรณบุรีแล้วค่ะ
3. ที่เที่ยวที่แรกวัดเขาทำเทียมค่ะ วัดตั้งอยู่ที่อ.อู่ทอง ใกล้เขาทำเทียมค่ะ เลยเอาชื่อเขามาเป็นชื่อวัดซะเลย
4. ถนนเข้าวัดค่ะ ถนนดีแต่ต้องคอยหลบหมาเป็นระยะๆ ไม่รู้เป็นไรชอบมานอนกันกลางถนน แถมไม่หลบรถด้วยนะคะ
5. ขับเข้าไปได้สักพักก็ถึงวัดค่ะ มีที่จอดรถ มาเช้าก็จะได้จอดหน้าวัด แต่ถ้าเต็มอาจจะต้องไปจอดลานจอดที่ทางวัดเตรียมไว้ให้แล้วเดินมาค่ะ
6. สัญลักษณ์ของวัดนี้ค่ะ “พระปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” เป็นพระพุทธรูปแกะสลักบนหินผาทีใหญ่ที่สุดในประเทศไทยค่ะ
7. ชื่อพระรุทธรูป 5 พยางค์หน้า “ปุษยคีรี” ได้มาจากคำที่บนศิลาจารึกภาษาสันสกฤษโบราณที่ขุดพบบริเวณนี้ค่ะ
8. “ปุษยคีรี” จะแปลว่าดอกไม้หรือภูเขาก็ได้ค่ะ แต่เชื่อกันว่าน่าจะหมายถึงภูเขาทำเทียมที่เป็นที่ตั้งวัดแห่งนี้ค่ะ
9. นอกจากศิลาจารึกแล้วยังขุดเจอเสมา ธรรมจักร พระพุทธรูป เสาฐานต่างๆ อีกด้วยค่ะ
10. วัตถุโบราณทีค้นพบมีอายุอยู่ในช่วงทวารวดีจนถึงอยุธยาค่ะ
11. การพบศิลาจารึกปุษยคีรีทำให้นักวิชาการสันนิษฐานว่าแถวนี้เป็นที่ตั้งวัดแห่งแรกในประเทศไทยสร้างตั้งแต่ยุคเผยแพร่ศาสนาพุทธสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชค่ะ
12. เห็นว่าชื่อปุษยคีรีที่อยู่บนศิลาจารึกไปพ้องกับชื่อภูเขาศักดิ์ที่อินเดียด้วยค่ะ
13. ด้านหลังมีอุโมงค์เจาะทะลุภูเขาคะ เป็นที่ไหว้พระทำบุญ
14. นอกจากองค์พระใหญ่แล้วที่นี่ยังมี sky walk ให้เดินดูวิวเลียนหน้าผาด้านหลังองค์พระ มีสวนสาธารณะ
15. แต่ทั้ง sky walk กับสวนสาธารณะยังไม่เปิดนะคะ อยู่ระหว่างการก่อสร้างนะคะแต่ใกล้เสร็จแล้วค่ะ
16. ไปกันต่อที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอู่ทองค่ะ จากวัดเขาทำเทียมขับไปอีกไม่ไกลค่ะ
17. มีค่าเข้าชม 30 บาทสำหรับคนไทยและ 150 บาทสำหรับตช.ค่ะ
18. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอู่ทองเน้นจัดแสดงโบราณวัตถุที่ขุดพบในจ.สุพรรณบุรีค่ะ
19. วัตถุโบราณที่ขุดพบมีตั้งแต่ข้าวของเครื่องใช้ในยุคหินใหม่ ยุคสัมฤทธิ์ จนถึงยุคทวราวดีค่ะ
20. บริเวณที่ตั้งพิพิธภัณฑ์เองก็เป็นที่ตั้งเมืองโบราณอู่ทองค่ะ
21. ด้านนอกพิพิธภัณฑ์มีบ้านของชาวลาวโซ่งซึ่งจัดแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลาวโซ่งไว้ในบ้านค่ะ
22. ลาวโซ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ตั้งแต่อดีตค่ะ แต่ตอนนี้ผสมกลมกลืนกับคนพื้นที่ไปแล้วค่ะ
23. เราไม่ได้ขึ้นไปดูด้านบนนะคะ แต่คร่าวๆ คือจะมีส่วนที่อยู่อาศัย ยุ้งฉาง ครัว กะล้อห่องหรือห้องไหว้ผีซึ่งน่าจะคล้ายๆ ห้องพระสมัยนี้ค่ะ
24. บนยอดจั่วจะมีไม้แกะสลักเป็นรูปเขาควายติดอยู่ค่ะ ชาวลาวโซ่งเรียกไม้แกะสลักนี้ว่าขอกุดค่ะ
25. ตามตำนานลาวโซ่งเชื่อว่าเทวดาส่งควายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของชาวลาวโซ่ง ควายช่วยช่วยทำไร่ไถนา ช่วยทำทำโน่นทำนี่
26. เพื่อระลึกถึงและให้เกียรติควายชาวลางโซ่งจึงสร้างขอกุดมาประดับไว้บนยอดจั่วค่ะ
27. นอกจากนั้นขอกุดยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นอดทนไม่ย่อท้อตอความยากลำบากและยังหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ด้วยค่ะ
28. อาคารหลังนี้นี่จะเป็น office ของจนท.พิพิธภัณฑ์หรือจนท.โบราณคดีค่ะ
29. เข้าไปดูด้านในพิพิธภัณฑ์กันค่ะ เริ่มจากคลิปสั้นๆ ให้เราเข้าใจความเป็นมาของทวารวดีแบบคร่าวๆ กันก่อนค่ะ
30. สันนิษฐานกันว่าอาณาจักรทวารวดีเกิดจากการเดินทางมาค้าขายของชาวมอญโบราณค่ะ ประมาณวามาบ่อยๆ มาถี่ๆ เลยตั้งเมืองท่ามันซะเลย
31. จากนั้นก็พัฒนามาเรื่อยๆ กลายเป็นอาณาจักรทวารวดี ละโว้ หริภุญชัย……. จนเป็นสยามค่ะ
32. จากบันทึกการเดินทางเผยแพร่พระธรรมของพระภิกษุจีนจิ้นฮงหรือพระถังซัมจั๋งทำให้เรารู้ว่ามีอาณาจักรโบราณแห่งนึงตั้งอยู่บริเวณนี้ค่ะ ตอนนั้นพระจิ้นฮงเรียกอาณาจักรนี้ว่าโตโลโปตี้
33. มีการขุดพบโบราณวัตถุ โบราณสถาน บริเวณนี้แต่ดันมีลักษณะแตกต่างจากชิ้นอื่นๆ ที่เคยขุดเจอบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ
34. ความมีอยู่ของอาณาจักรทวารวดีจึงคลุมเครือมากๆ ในช่วงนั้นค่ะ แต่สุดท้ายมีการขุดพบเหรียญจารึกภาษาสันษกฤตไว้ว่า “ศรีทวารวดีศวรปุณยะ” ทำให้อาณาจักรทวารวดีเป็นที่ยอมรับว่ามีอยู่จริงค่ะ
35. เหรียญที่เจอในข้อ 34 นี่ขุดเจอที่นครปฐมนะคะ แต่เจอเพิ่มที่อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี หลังจากนั้นยังเจอเพิ่มเติมที่ลพบุรีและสิงห์บุรีค่ะ
36. เพราะเจอเหรียญโบราณที่ว่านี้เลยเชื่อกันว่าเมืองหลวงของอาณาจักรน่าจะเป็นเมืองใดเมืองนึงใน 3 เมืองดังกล่าวค่ะ แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าน่าจะเป็นเมืองอู่ทองค่ะ
37. คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ค่ะ ยังมีคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้อีกเยอะค่ะ เช่น ที่ตั้งเมืองหลวง ขนาดของอาณาจักร…. ปล่อยเรื่องน่าปวดหัวแบบนี้ให้นักวิชาการไปค้นหาคำตอบค่ะ
38. ศิลาจารึกคำว่า “ปุษยครี” ที่ขุดเจอแถวๆ วัดเขาทำเทียมค่ะ
39. board นี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนค่ะ ทางด้านซ้ายเป็นเส้นทางการเดินเรือและเส้นทางค้าขายทางบกในสมัยก่อนคะ
40. ส่วนขวาเป็น timeline ของอาณาจักรต่างๆในยุคสมัยนั้นค่ะ
41. ส่วนอันนี้เป็นเหรียญอาหรับค่ะ สันนิษฐานว่ามาพร้อมกับพ่อค้าอาหรับที่เข้ามาค้าขายที่นี่ค่ะ
42. ภาชนะดินเผาค่ะ
43. เหรียญกษาปณ์โรมันจักรพรรดิ์ Victorinus ค่ะ ตั้งแต่ค.ศ. 270 ค่ะ
43. เหรียญนี้มีคนมอบให้พิพิธภัณฑ์อู่ทองค่ะ ผู้มอบแจ้งว่าเจอบริเวณเมืองโบราณอู่ทองค่ะ ทางพิพิธภัณฑ์ไม่ได้ขุดเจอโดยตรง
44. “จักรพรรดิซีซาร์ มาร์คุส พิอาโวนิอุส วิกโตรินุส” คือชื่อเต็มของเจ้าของพระพักษณ์บนเหรียญค่ะ ชื่อยาวมากกกกกกกกกกกก…..
45. อักษรล้อมรอบอ่านไม่ออกค่ะ ไม่แน่ใจว่าภาษาอะไร
46. เห็นบอกว่าอีกด้านเป็นรูปเทพีซาลัส (Salus) เทพีแห่งสุขภาพและความสุขในยุคโรมันค่ะ
47. เหรียญพวกนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยยืนยันว่าการค้าขายทางเรือระหว่างอาณาจักรแถวนี้กับอาณาจักรโพ้นทะเลอย่างโรมันหรืออาหรับมีมาตั้งแต่สมัยทราวดีแล้วค่ะ
48. ตัวอย่างวัตถุโวราณที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ค่ะ
49. ตัวธรรมจักรส่วนที่สีเข้มๆ เป็นของดั้งเดิมค่ะ ส่วนที่สีอ่อนๆ เป็นของที่ทำขึ้นมาใหม่ค่ะ
50. มี hologram ให้ชมด้วยนะคะ
51. มีแบบจำลองด้านในของเรือที่พ่อค้าสมัยนั้นใช้ล่องมาค้าขายในแถบทราวดีให้ชมด้วยค่ะ อันนี้ surprise มากค่ะ ไม่คิดว่าจะมีเรืออยู่ในพิพิธภัณฑ์
52. เป็นส่วนท้องเรือด้านล่างที่ใช้เก็บสินค้าที่นำมาขายหรือซื้อกลับไปเพื่อขายที่เมืองท่าถัดไปค่ะ
53. เหรียญและเบี้ยที่ขุดเจอค่ะ
54. นอกจากนั้นยังมีพวกเครื่องประดับต่างๆ ด้วยนะคะ ส่วนใหญ่ทำจากทองหรือหินสีต่างๆ ค่ะ
55. บางอันเห็นแล้วก็งงว่าทำออกมาได้ยังไงทั้งๆ ที่ไม่มีเครื่องมือล้ำๆ แบบในสมัยนี้
56. บางชิ้นก็เล็กมากค่ะ มีทั้งแหวน จี้ สร้อยคอ ตุ้มหู แต่ตุ้มหุบางอันก็ใหญ่มากจนสงสัยว่าใส่ได้จริงๆ เหรอ
57. รูปปั้นต่างๆ ค่ะ มีทั้งคน ยักษ์ และคนแคระค่ะ
58. อันนี้เป็นธรรมจักรอันที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยขุดเจอค่ะ เป็นชิ้น highlight ของพิพิธภัณฑ์อู่ทองเลยค่ะ
59. ตอนที่เราเห็นป้ายข้างหน้าพิพิธภัณฑ์เราก็ไม่คิดว่าจะสูงใหญ่ขนาดนี้!!! สูงถึงชั้น 2 ของพิพิธภัณฑ์เลยนะคะ
60. รูปแรกเป็นรูปที่ถ่ายจากชั้น 2 ค่ะ ส่วนรูปที่ 2 ถ่ายจากชั้น 1 ค่ะ สูงมากกกกกกกกกกกกกก……
61. ปกติแล้วตัวธรรมจักรที่เจอตามวัดจะอยู่ระดับสายตา แต่ฐานธรรมจักรอันนี้สูงมากจนอยากรู้ว่าเขาตั้งสูงๆ แบบนี้เลยหรือมีบางส่วนอยู่ในดินค่ะ