ในหมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเล มีเพื่อนรักสองคนชื่อ เวฟ กับ บุ้ง เวฟเป็นเด็กหนุ่มร่าเริง ชอบท่องทะเลด้วยเรือใบเล็กๆ ของเขา บุ้งเป็นเด็กสาวอ่อนโยน ที่ชอบวาดภาพทะเลและท้องฟ้า
วันหนึ่งพายุใหญ่โหมกระหน่ำเข้ามา ทำให้ทั้งหมู่บ้านตกใจกลัว เรือของเวฟถูกคลื่นซัดพังยับเยิน ส่วนบุ้งก็สูญเสียอุปกรณ์วาดภาพไปกับลมแรง ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยน้ำตา แต่ไม่มีใครยอมแพ้ เวฟพูดว่า
"บุ้ง เราอาจจะแพ้พายุครั้งนี้ แต่เราจะไม่แพ้ใจตัวเอง"
บุ้งยิ้มทั้งน้ำตาแล้วตอบว่า
"ใช่! ถึงคลื่นจะโหมแรงแค่ไหน แต่ใจเราต้องนิ่งเหมือนทะเลหลังพายุ"
พวกเขาช่วยกันซ่อมเรือ ทำภาพวาดใหม่ และปลุกชีวิตหมู่บ้านให้กลับมามีความหวังอีกครั้ง ไม่นาน เวฟก็กลับไปล่องเรือกลางทะเลอีกครั้ง บุ้งก็นำภาพวาดงดงามของเธอไปจัดแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าความหวังนั้นไม่เคยจมหาย
ตั้งแต่นั้นมา เวฟกับบุ้งก็กลายเป็นตำนานของหมู่บ้าน เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ และความหวังที่ไม่เคยจางหาย เพราะไม่ว่าพายุจะหนักหนาแค่ไหน ใจที่แข็งแรง...จะพาเราผ่านมันไปได้เสมอ
เวฟกับบุ้ง ผู้พิชิตพายุ