อุตุฯ ฉบับ 2 พายุ "โคโตะ" ไม่เข้าไทย แต่ช่วง 27-29 พ.ย. ไทยตอนบนอุณหภูมิจะลด


อุตุฯ ประกาศฉบับ 2 พายุ "โคโตะ" ไม่เคลื่อนเข้าไทย แต่ช่วง 27-29 พ.ย. ไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลด ภาคอีสานจะลดลง 4-7 องศาฯ ยอดดอย และยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด
วันที่ 27 พ.ย. 68 เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง พายุ "โคโตะ" และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 2  (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 27-30 พฤศจิกายน 2568) 
โดยระบุว่า พายุโซนร้อนกำลังแรง "โคโตะ" (KOTO) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว โดยเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (27 พ.ย. 68) มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 13.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 114.3 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 113 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนใต้ โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย
สำหรับประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 27-29 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง และมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาเซลเซียส ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย และยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและอุณหภูมิต่ำสุด 3-12 องศาเซลเซียส 
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย 
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และห่างฝั่งของทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือโทร 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

https://www.thairath.co.th/news/local/2898254
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่