พระคาร์ดินัลคาทอลิกตะวันออก ผู้มีสิทธิ์ร่วมโหวตใน Conclave 2025


อ่า พูดกันเยอะแล้วเนาะ มาให้ผมทำคอนเทนต์แหวกแนวตามสไตล์ผมบ้าง (ฮา)

นิกายคาทอลิกไม่ได้มีแค่โรมันคาทอลิก หากแต่ประกอบด้วย 24 ศาสนจักร คือศาสนจักรละติน (โรมันคาทอลิก) โดยมีพระสันตะปาปาเป็นผู้นำและอีก 23 ศาสนจักรที่เหลือซึ่งถือจารีตประเพณี เทววิทยา ตลอดจนมีผู้นำและกฎหมายศาสนจักรของตนเองที่เรียกว่า “คาทอลิกตะวันออก”

ทีนี้ ที่ผ่านมาก็มีการแต่งตั้งสงฆ์ทางตะวันออกเป็นพระคาร์ดินัลอยู่เรื่อย ๆ แต่เท่าที่เช็คดู มีเพียง 5 องค์เท่านั้นที่อายุต่ำกว่า 80 และมีสิทธิ์โหวตเลือกพระสันตะปาปาได้ครับแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องบอกว่าพวกท่านไม่มีใครเป็น papabile (ตามที่สื่อหลายสำนักคาดการณ์) สักองค์นะครับ ซึ่งผมก็คิดเช่นนั้น เป็นไปได้เขาต้อง prefer คนที่อยู่ในศาสนจักรละตินน่าจะเหมาะสมกว่า อีกอย่าง การเลือกพระคาร์ดินัลคาทอลิกตะวันออกนั้น ว่าที่พระสันตะปาปาจะถือว่าตนเปลี่ยนไปถือจารีตละตินโดยอัตโนมัติ เพราะตำแหน่งผู้นำศาสนจักรละตินและประมุขสากลของศาสนจักรคาทอลิกทั้งมวลเป็นคน ๆเดียวกัน หากไม่คุ้นชินกับจารีตธรรมเนียมแบบละตินก็คงไม่น่าโอเค (ยกเว้นบางองค์ในอดีต อย่างเช่น พระคาร์ดินัลเกรกอริโอ อากายาเนียน อัครบิดรอาร์เมเนียคาทอลิกตอนเลือกปี 1958 กับ 1963 สื่อก็คาดการณ์ว่าท่านเป็น Papabile เหมือนกัน แต่ถ้าท่านได้เป็นคราวนั้นก็คงไม่มีปัญหา เพราะท่านทำงานเป็นเจ้าสมณกระทรวงเพื่อการเผยแพร่ความเชื่อ และก็ถนัดจารีตละตินด้วยอยู่แล้ว ยังเคยบวชพระคาร์ดินัลมีชัย กิจบุญชู ของบ้านเราด้วย) ไม่ว่าอย่างไร แม้จะแทบไม่มีโอกาสได้เป็น ก็มาดูเป็นเกร็ดความรู้แล้วกันนะครับ

1. อัครบิดรหลุยส์ ราฟาเอล ซาโก (Louis Raphaël I Sako)

อายุ 76 เป็นอัครบิดรแห่งแบกแดดและศาสนิกชนคาลเดียนตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งโดยตำแหน่งคือผู้นำศาสนจักรคาลเดียนคาทอลิกที่มีฐานในอิรัก ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลในปี 2018 โดยพระสันตะปาปาฟรังซิส

ด้วยความที่ท่านเป็นผู้นำศาสนาในอิรัก สิ่งที่ท่านทำจึงเน้นไปที่เรื่องเอกภาพระหว่างศาสนาต่าง ๆ ในปี 2015 ท่านเคยเสนอให้ 3 ศาสนจักรที่มีรากดียวกัน ทั้งคาลเดียนคาทอลิก ศาสนจักรเก่าแห่งตะวันออกและศาสนจักรอัสซีเรียนแห่งตะวันออก (ทั้งหมดมีรากจากศาสนจักรที่ได้ชื่อว่า “เนสตอเรียน” ในอดีตน่ะครับ ใครรู้ประวัติศาสตร์มองโกลน่าจะเก็ท) ให้กลับมารวมกันเป็นศาสนจักรเดียวในฐานะคาทอลิกตะวันออกที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระสันตะปาปาที่โรม โดยท่านและผู้นำศาสนจักรอื่นจะลาออก แล้วจัดสภาเลือกตั้งผู้นำใหม่เพียงองค์เดียวเพื่อรวมศาสนจักร แต่ผลสุดท้าย ทางนั้นก็ปฏิเสธไปครับ การรวมกันจึงไม่เกิด นอกจากนี้ ท่านยังเป็นกระบอกเสียงให้ชาวคริสต์ในอิรัก ทั้งเรื่องการข่มเหงเบียดเบียนคริสตชนและการถูกบังคับลี้ภัยนอกประเทศอีกด้วย โดยเฉพาะจากพวก ISIS

เรื่องการเมืองและสังคม ปี 2023 ท่านเคยผิดใจกับประธานาธิบดีอับดุล ราชิด ของอิรัก เพราะเขาไปยกเลิกกฤษฎีการับรองพระคาร์ดินัลหลุยส์ ซาโก ว่าเป็นอัครบิดรของศาสนจักรคาลเดียนคาทอลิก จนต้องไป “พักใจ” ชั่วคราวที่เมืองเออร์บิล ศูนย์กลางศาสนจักรในภาคเหนือของอิรัก แต่สุดท้ายก็กลับมาประจำที่แบกแดดเหมือนเดิมด้วยความช่วยเหลือของนายกรัฐมนตรี โมฮัมเหม็ด ซูดานี และความตึงเครียดเหมือนจะซาๆ ลงไป นอกจากนี้ ตอนพระสันตะปาปาทรงออก Fiducia Supplicans เช่นเดียวกับคาทอลิกตะวันออกอื่น ท่านแสดงจุดยืนชัดเจนว่าศาสนจักรท่านจะไม่อวยพรคู่ LGBT ในฐานะศีลสมรส แต่ถ้ามีคน LGBT ขอให้ภาวนาเผื่อ ก็จะภาวนาให้เหมือนคนทั่ว ๆ ไป

2. อาร์คบิชอป เบอร์ฮาเนเยซุส เดเมรู ซูราฟีล (Berhaneyesus Demerew Souraphiel)

อายุ 76 เป็นอาร์คบิชอปอัครสังฆมณฑลแอดดิส อาบาบา ตั้งแต่ปี 1999 ซึ่งโดยตำแหน่งคือผู้นำศาสนจักรเอธิโอเปียคาทอลิก ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลในปี2015 โดยพระสันตะปาปาฟรังซิส ทั้งนี้ท่านยังสังกัดคณะวินเซนต์เชียนของนักบุญวินเซนต์ เด ปอล ด้วย

สมัยเอธิโอเปียปกครองโดยคณะทหารใฝ่คอมมิวนิสต์หรือพวกเดิร์ก (Derg) ท่านเคยถูกจับอยู่ 7 เดือน เคยไปเรียนด้านเทววิทยาจากคิงคอนเลจที่ลอนดอนและด้านสังคมศาสตร์ที่โรม มีผลงานเด่นด้านการศึกษาโดยท่านจัดตั้งมหาวิทยาลัยเอธิโอเปียคาทอลิก เป็นกระบอกเสียงถึงความยากจนและต่อต้านการค้ามนุษย์ในเอธิโอเปีย

เรื่องการเมืองและสังคม ตอนเอธิโอเปียมีสงครามทิกกรึย (Tigray War) ซึ่งมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ท่านก็ไม่ได้ประณามรัฐบาล หากแต่ใช้คำพูดคำจาให้ดูซอฟต์ลงประมาณว่ารัฐบาลทำเพื่อชาติ นอกจากนี้ ท่านยังเคยวิพากษ์การรักเพศเดียวกัน ว่าเป็นการ “แพร่ระบาด”  ถึงขนาดเคยออกแถลงการณ์ประณามการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกันและร่วมกับผู้นำศาสนาและนิกายอื่น สนับสนุนการบัญญัติให้เรื่องรักเพศเดียวกันผิดกฎหมายด้วย

3. เมเจอร์อาร์คบิชอป บาซิลิออส คลีมิส (Baselios Cleemis)

อายุ 65 เป็นเมเจอร์อาร์คบิชอป (เทียบเท่าอัครบิดร) ของเอกอัครสังฆมณฑลติรุวนันตปุรัมตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งโดยตำแหน่งคือผู้นำศาสนจักรซีโร-มาลานคาราคาทอลิก มีฐานอยู่ในรัฐเกรละที่อินเดีย ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลโดยพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เมื่อปี 2012 ซึ่งเป็นองค์เดียวใน 5 คนนี้ที่ได้รับแต่งตั้งโดยคนก่อนท่านฟรังซิส

โปรไฟล์ดี เกิดมาในตระกูลคริสเตียนโบราณของรัฐเกรละ (รัฐเกรละมีกลุ่มคริสตชนโบราณที่เรียกว่า “กลุ่มคริสตชนของนักบุญโธมัส” ซึ่งทุกวันนี้แตกเป็นหลายนิกาย ทั้งคาทอลิก ออเรียนทัลออร์โธด็อกซ์ และโปรเตสแตนต์) จบปริญญาเอกด้านศาสนสัมพันธ์จากโรม เป็นกระบอกเสียงต่อต้านการเลือกปฏิบัติทางศาสนาในอินเดียและวิจารณ์กรณีที่คนมีบางกลุ่มไปบังคับชาวคริสต์นับถือฮินดู กระนั้น ท่านก็ยังเป็นผู้ที่สนับสนุนศาสนสัมพันธ์เพราะเชื่อว่าเป็นเครื่องมือสร้างสันติภาพและความเข้าใจซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นกรณีในศาสนาเดียวกัน จากที่ผมเห็น ท่านออกงานสานสัมพันธ์กับคริสต์นิกายต่าง ๆ บ่อย ๆ โดยเฉพาะกับนิกายออเรียนทัลออร์โธด็อกซ์ในอินเดียซึ่งมีรากทางประเพณีพิธีกรรมเดียวกับซีโร-มาลานคารา

4. อาร์คบิชอป จอร์จ เจคอบ คูวาคัด (George Jacob Koovakad)

อายุ 51 สังกัดศาสนจักรซีโร-มาลาบาร์คาทอลิก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งศาสนจักรคาทอลิกตะวันออกที่มีฐานในรัฐเกรละ ประเทศอินเดีย เหมือนกับซีโร-มาลานคารา ท่านได้รับอภิเษกเป็นอาร์คบิชอปเกียรตินาม (ไม่มีสังฆมณฑลดูแล) แห่งนีซีบิสของศาสนิกชนคาลเดียน และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าสมณกระทรวงเพื่อการศาสนสัมพันธ์กับศาสนาอื่น(Dicastery for Interreligious Dialogue) เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี่เอง ได้รับการแต่งตั้งพระคาร์ดินัลในปี 2024 โดยพระสันตะปาปาฟรังซิส

ท่านนี้ก็โปรไฟล์ดีอีกแล้ว จบปริญญาเอกกฎหมายศาสนจักร ทำงานเป็นทั้งสมณทูต(ทูตวาติกัน) ในหลายประเทศ และสำนักเลขาธิการแห่งรัฐ (Secretariat of State - อาจเทียบได้กับสำนักนายกฯของวาติกัน) จึงมีส่วนช่วยจัดงานตอนพระสันตะปาปาเยือนประเทศต่าง ๆ

5. บิชอป มิโคลา บิโชค (Mykola Bychok) 

อายุ 45 เป็นบิชอปประจำสังฆมณฑลเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ของศาสนจักรยูเครเนียนกรีกคาทอลิกที่มีฐานในยูเครน ได้รับการแต่งตั้งพระคาร์ดินัลในปี 2024 โดยพระสันตะปาปาฟรังซิส รอบเดียวกับอาร์คบิชอปจอร์จ คูวาคัด และเป็นพระคาร์ดินัลที่มีอายุน้อยที่สุด ณ ตอนนี้ด้วย ทั้งนี้ท่านยังสังกัดคณะพระมหาไถ่ คณะธรรมทูตที่คาทอลิกไทยรู้จักกันดีด้วย

ท่านมิโคลาเป็นชาวยูเครนโดยกำเนิด จบโทเทววิทยาการอภิบาล เรื่องสงครามในยูเครนคงไม่ต้องไปลงเยอะ เพราะท่านต้องเป็นกระบอกเสียงเรื่องนี้อยู่แล้วเช่นเดียวกับบิชอปยูเครนท่านอื่น (ไม่พูดสิจะแปลก) การที่ท่านได้เป็นพระคาร์ดินัลนี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ เพราะที่ผ่านมา ทางโรมนิยมแต่งตั้งตัวผู้นำศาสนจักรเป็นพระคาร์ดินัลแต่ไม่ใช่กับบิชอปธรรมดา ๆ ในสังฆมณฑล

ประมาณนี้ 
/AdminMichael

CR : ประวัติศาสตร์คริสต์ศาสนา
https://www.facebook.com/share/p/1AUTGyJb8q/?mibextid=wwXIfr
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่