JJNY : ‘บุ๋ม’ฟาดยับถึงอดีตผู้ว่าการสตง.│พีชยังเงียบ ไม่ติดต่อพบตร.│จนท.โกงสหกรณ์ฯรัฐสภา 14ล.│เช็กเลิกพึ่งพาน้ำมันรัสเซีย

‘บุ๋ม ปนัดดา’ ฟาดยับถึงอดีตผู้ว่าการ สตง. ชี้โทษฮวงจุ้ยเพราะท่านไม่ยอมรับผิด
https://www.dailynews.co.th/news/4618316/
.
.
ไม่มีความน่าเชื่อถือ “บุ๋ม ปนัดดา” ฟาดยับ ลั่นโทษฮวงจุ้ยเพราะท่านไม่รับผิด ย้ำต่อจากนี้ภาพ สตง. จะไม่เหมือนเดิม ชาวเน็ตเดือด จ่ายภาษีเพื่ออะไร!
.
ยังคงเป็นเรื่องราวที่หลายคนติดตามกันต่อเนื่อง กับการช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่ในซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มลงมาจากการรับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว 7.7 ในวันที่ 28 มีนาคม แม้วันนี้การช่วยเหลือจะใช้เวลามากว่า 1 สัปดาห์ ก็ยังคงเป็นการทำงานที่ยากลำบาก เนื่องจากเศษหินและปูนมีความสูงกว่าตึก 5 ชั้น ทำให้ยากลำบากต่อการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งในเรื่องนี้กลับเป็นดราม่าในโซเชียล ชาวเน็ตบางคนกลับตั้งคำถามทำไมการช่วยเหลือถึงล่าช้า บางคนก็มองว่ายื้อเวลาในการยักยอกงบหรือไม่ ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปแล้วนั้น
.
ล่าสุดหลังจากที่ “พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส” อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าการ สตง.) ที่ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องของฮวงจุ้ย จนทำให้สาธารณชนที่ได้ฟังก็พุ่งเป้าวิพากษ์วิจารณ์กับคำพูดดังกล่าวเต็มโซเชียล อีกทั้งทางด้าน “บุ๋ม ปนัดดา” พิธีกรและดารา หนึ่งในจิตอาสาที่คอยลงพื้นที่เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในซากตึกตั้งแต่วันแรก ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม ถึงประเด็นดังกล่าวว่า
.
“ที่ต้องโทษฮวงจุ้ย เพราะท่านไม่ยอมรับผิดว่าท่านไม่รอบคอบเรื่องผู้รับเหมาก่อสร้าง เรื่องคุณภาพของที่ใช้ เรื่องใช้จ่ายเงินเกินควร และเรื่องการตรวจสอบที่ควรจะเป็น จากนี้ไปภาพ สตง. จะไม่เหมือนเดิม ไม่มีความน่าเกรงขามและน่าเชื่อถืออะไรอีกแล้ว! จบแล้วค่ะท่าน”
.
งานนี้ทำเอาเหล่าคนบันเทิง รวมถึงชาวเน็ตได้เข้ามาวิจารณ์ถึงประเด็นดังกล่าวกันหลากหลาย อาทิ เสียภาษี ไปเพื่อออออออ ……, ตอนนี้หน้าท่านโหงวเฮ้งไม่ดีนะดำๆ หมองๆ, แทนที่พวกxงจะออกมาขอโทษและจริงจังตั้งใจไปช่วยเขา ไปหาทางออกที่ดีกว่านี้ นี่เล่นหาแต่ข้ออ้างแถไปเรื่อย ฮวงจุ้ยไร พวกกินกันลดมาตรฐานลงมา ที่น่าเหลือเชื่อคนที่มีตำแหน่งขนาดนี้ออกมาอ้างฮวงจุ้ย สงสัยแม่จับฉลากได้มา ตอบแบบคนมีความรับผิดชอบหน่อย หดหู่จัดประเทคมีคนแบบนี้ดูแล เมื่อไหร่จะรีบไปๆ สักที, สงสารประเทศ สงสารตัวเองที่จ่ายภาษีไปกับอะไรไม่รู้ สงสารรุ่นลูกหลาน จะเป็นยังไงต่อไป ในสังคมแบบนี้, ทรงนี้ขวัญใจแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาก เป็นต้น
.
https://www.instagram.com/boompanadda/p/DIkdBmVSrmO/
.

.
พีช สมิทธิพัฒน์ ยังเงียบ ไม่ติดต่อพบตร. ผกก.ลำลูกกาย้ำเร่งทำคดี จ่อออกหมายเรียกปมซิ่ง BMW
https://www.matichon.co.th/local/news_5143475
.
ผกก.ลำลูกกา เผยคดีหนุ่มขับ BMW เป็นคดีอาญา จะเร่งทำคดีให้เร็วที่สุด
.
จากกรณี นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช อายุ 28 ปี ลูกชายนักการเมืองดังปทุมธานี ขับรถยนต์หรู BMW ป้ายแดง ปาดหน้าชนรถกระบะจนเกิดอุบัติเหตุ ขณะที่ตำรวจทางหลวงยืนยันว่าไม่พบข้อมูลทะเบียนรถป้ายแดงของพีชในระบบขนส่งนั้น
.
เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ สภ.ลำลูกกา พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผกก.สภ.ลำลูกกา เปิดเผยว่า วานนี้หลังจากมีการประสานงานกับตำรวจทางหลวง สทล.2 กก.8 บก.ทล แล้วนั้นจะมีการแยกคดีออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนแรก กรณีที่มีการเฉี่ยวชนกันบริเวณหลังด่าน M-Flow ที่มีการเบียดกันตรงคอขวด ตรงนี้ตำรวจทางหลวงจะเป็นผู้รับผิดชอบไป
.
พ.ต.อ.ถิรเดชระบุว่า ส่วนที่ 2 ห่างจากจุดแรกประมาณ 2 กม.ที่มีการขับรถปาดหน้า สุดท้ายรถไปชนแบริเออร์ ตรงนี้มองว่าเป็นความผิดทางอาญา เป็นอำนาจการสอบสวนของ สภ.ลำลูกกา เราได้รับคำร้องทุกข์ทางคดีอาญาไว้เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าการสอบปากคำ การตรวจสอบกล้องวงจรปิด กล้องหน้ารถยนต์
.
ผกก.สภ.ลำลูกกากล่าวว่า หลังจากตรวจสอบแล้วจะมีการออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาให้มารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนจะกล่าวหาข้อหาอะไรบ้างขอให้ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน ซึ่งเป็นความผิดทางคดีอาญาอยู่แล้ว ล่าสุดผู้ขับขี่รถ BMW ยังไม่มีการติดต่อมาทางตน
.
ยืนยันว่าคดีนี้ ผบ.ตร. ตลอดจนผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกคนกำชับให้เร่งรัดดำเนินการอย่างรวดเร็วและตรงไปตรงมา ส่วนจะเป็นกี่วันถึงจะสามารถออกหมายเรียกคนขับ BMW ได้นั้น ขออย่าใช้ตัวเลขเป็นวันเลย แต่จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด” ผกก.สภ.ลำลูกกากล่าว
.

.
จนท.โกงสหกรณ์ฯรัฐสภา 14 ล. ถูกฟ้อง-เลิกจ้างแล้ว สมาชิกไม่เชื่อทำคนเดียว จี้ภายนอกร่วมสอบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5143611
.
“สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐสภา”โวย ถูกทุจริตเงิน 14 ล้าน ด้าน “กรรมการฯ” ประกาศเลิกจ้าง จนท.การเงิน-แจ้งความเอาผิดแล้ว ขณะที่สมาชิกยังข้องใจ ไม่เชื่อทำคนเดียว ขอ “หน่วยงานภายนอก” ร่วมสอบให้กระจ่าง
.
เมื่อวันที่ 18 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากสภาผู้แทนราษฎร ว่า เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา จำกัด ออกประกาศ สหกรณ์ฯ ลงชื่อโดย น.ส.สิตาวีร์ ธีรวิรุฬห์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา จำกัด เรื่องการกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา จำกัด ต่อกรณีที่พบการทุจริตในสหกรณ์ อาจทำให้สมาชิกสงสัยและไม่สบายใจ จึงขอชี้แจงสมาชิกดังนี้ สหกรณ์ได้พบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่าเจ้าหน้าที่สหกรณ์ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่การเงินมีพฤติกรรมทุจริตในหน้าที่ ดังนั้นที่ประชุมคณะกรรมการ ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อสอบสวนหาหลักฐานการกระทำผิด และมีข้อเท็จจริงพบว่าเจ้าหน้าที่การเงินทำทุจริตจริง คณะกรรมการ จึงมีมติให้เลิกจ้าง โดยไม่จ่ายค่าชดเชย และแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางโพ เพื่อดำเนินคดี ซึ่งคดีอยู่ระหว่างขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
.
จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อสถานะการเงินของสหกรณ์ฯ รวมถึงไม่กระทบเงินในบัญชีเงินฝากและทุนเรือนหุ้นของสมาชิกแต่อย่างใด และขอให้สมาชิกเชื่อมั่นในคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ ว่าจะรักษาผลประโยชน์ของสมาชิกและสหกรณ์อย่างเต็มกำลังความสามารถ
.
ในกรณีดังกล่าวพบว่ามีการวิจารณ์ถึงเหตุการทุจริตที่เกิดขึ้นในโอเพ่นแชตสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐสภา โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า การทุจริตเป็นเงินจำนวนมากถึง 14 ล้านบาท เป็นไปได้ยากที่จะมีคนเพียงคนเดียวทำโดยลำพัง เพราะระบบของสหกรณ์ทั่วไป โดยเฉพาะสหกรณ์ใหญ่ระดับรัฐสภา มักมีโครงสร้างตรวจสอบและถ่วงดุลกันอยู่พอสมควร เช่น
.
1. การทำธุรกรรมเกี่ยวกับเงิน ต้องมีลายเซ็นร่วม โดยทั่วไปต้องมีอย่างน้อย 2 คน เช่น เจ้าหน้าที่กับผู้จัดการ หรือ เจ้าหน้าที่กับคณะกรรมการ จึงจะเบิกเงินหรืออนุมัติรายการได้
.
2. ต้องผ่านการตรวจสอบบัญชีและการอนุมัติหลายขั้น เช่น ต้องมีการทำเอกสารเบิกจ่าย หรือ มีคนตรวจสอบยอดเงิน หรือ มีคนลงนามอนุมัติ 3.ถ้ามีเพียงคนเดียวที่เข้าถึงเงินได้ แสดงว่าระบบควบคุมภายในอ่อนแอมาก และในกรณีนี้มักจะมีผู้มีตำแหน่งสูงกว่า เพิกเฉย ปล่อยปละ หรืออาจรู้เห็นเป็นใจ และ4.ระยะเวลาที่ใช้ในการทุจริตมักไม่ใช่ช่วงสั้นๆ ถ้าเป็นการทุจริตสะสม เช่น เดือนละ 1แสนบาท หรือ 2 แสนบาท ไปเรื่อย ๆ นานเป็นปี แปลว่า “มีคนรู้แต่ไม่พูด หรือแกล้งไม่เห็น” ก็เป็นไปได้มาก
.
นอกจากนั้นยังมีสมาชิกสหกรณ์ ระบุด้วยว่า “น้องที่ทำไป ต้องยอมรับและสารภาพมาให้หมด ว่าทำคนเดียวหรือทำร่วมกับใคร สหกรณ์ของเราจะได้ใส สะอาด หาทางอุดช่องโหว่ที่มี กรณีนี้ประธานกรรมการสหกรณ์ปัจจุบัน เคยดำรงตำแหน่งกรรมการชุดเก่า การตรวจสอบความโปร่งใสต้องชัดเจน และสร้างความเชื่อมั่นด้วย
.
ยังมีข้อความที่แสดงความเห็นด้วยว่า “ถ้าตรวจสอบว่า มีผู้มีอำนาจลงนาม คณะกรรมการเก่า หรือผู้ตรวจสอบ บกพร่อง ในการรับรองบัญชี ที่เงินหายมาหลายปี จะเกิดข้อครหาด้วยหรือไม่ เพราะในปี 2567 ตรวจสอบ รับรอง ไม่พบความผิดปกติ ผู้รับรองตรวจสอบประเมิน ดีมาก ดีเยี่ยม ขณะที่ปี 2568 พบทุจริตเงินเบื้องต้น 14 ล้านบาท หายโดยเจ้าหน้าที่คนเดียว ทำมาหลายปี ถือว่าย้อนแย้ง เพราะว่าถูกรับรองกันมาโดยไม่ตรวจสอบเงินว่าตรงกันหรือไม่ แบบนี้การรับรองบัญชีปี 2568 จะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าข้อมูลจริง
.
ทั้งนี้แหล่งข่าวจากสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐสภา ระบุว่า การตรวจสอบที่เบื้องต้นพบการทุจริตและคณะกรรมการมีมติให้เลิกจ้างบุคคลเพียงรายเดียวนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถให้ความเชื่อมั่นในการตรวจสอบได้ เพราะอาจจะเป็นการตัดตอนให้เจ้าหน้าที่รับผิดเพียงคนเดียว และให้ผู้ใหญ่ที่คาดว่าอาจทำผิดร่วมลอยตัวโดยไม่ต้องรับผิด ดังนั้นจึงอยากให้มีการตรวจสอบอีกครั้งจากหน่วยงานภายนอกที่ไม่ใช่คณะกรรมการของสหกรณ์ออมทรัพย์ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสที่แท้จริง
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับในเว็บไซต์ของสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐสภา ได้เผยแพร่รายงานประจำปีของสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา จำกัด ปี 2567 โดยระบุว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ ได้ดำเนินการมาสู่ปีที่ 49 ปัจจุบันสินทรัพย์ของสหกรณ์เติบโตต่อเนื่อง มีสินทรัพย์ 2,513.50 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 205.96 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 102.76 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 7.8 ล้านบาท สหกรณ์มีความมุ่งมั่นให้สมาชิกมีความมั่นคงทางการเงิน สนับสนุนการออม ให้ผลตอบแทนการลงทุนกับสมาชิกอย่างเหมาะสม
.
ทั้งนี้ในคณะกรรมการชุดที่ 49 นั้นมีนายสัณห์ชัย สินธุวงษ์ เป็นประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา จำกัด และยังเป็นประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ และมีกรรมการรวม 15 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ มี 9 คน มี น.ส.วรัลชญาน์ เจริญทัศนาวิชญ์ เป็นผู้จัดการ และพบชื่อ น.ส.กัญญารัตน์ ตะพัง เป็นเจ้าหน้าที่การเงิน น.ส.ดวงกมล แดงกัน เป็นเจ้าหน้าที่บัญชี น.ส.วรณฤดี แก่นสุข เป็นเจ้าหน้าที่จัดทำบัญชีสหกรณ์
ส่วนคณะกรรมการชุดปัจจุบัน เป็นชุดที่ 50 มี น.ส.สิตาวีร์ เป็นประธานกรรมการ และมีนายสัณห์ชัย เป็นที่ปรึกษา ขณะที่เจ้าหน้าที่สหกรณ์นั้น พบว่าเป็นชุดเดิม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่