คือมีเพื่อนคนนึงครบมาตั้งแต่ ม.ต้น(ปี 61 มั้ง) ละ เพื่อนคนนี้เป็นคนเข้ามาหาก่อน แล้วเป็นเพื่อนที่สนิทด้วยมากๆจนถึง ปัจจุบัน ก็เล่นด้วยกันมาแต่ ม.ตันแล้วแหละ มีถึงเนื้อตัวบ้าง แล้วตอนเย็นก็เล่นเกมด้วยกันตลอด คุยกันผ่านดิส เกือบทุกวัน จนมาถึงช่วงโควิด เขาให้แบ่งกลุ่มเรียนซึ่งผมได้อยู่คนละกลุ่ม ก็มีซึมๆบ้าง แต่ก็ยังได้คุยกันทุกช่วงเย็นเหมือนเดิม ตอนกลางวันใครไปเรียน ก็ทักแชทหากันบ้างคุยกันเรื่องเกมบ้าง ผมแอบไปเรียนด้วยบ้าง
พอมาถึงช่วง ม.3 ต่างคนต่างเลือกที่เรียนกัน มันเลือกไปสายอาชีพ ผมเลือกต่อสามัญ ความรู้สึกผมตอนนั้นยังไม่ได้อะไรมากเท่าไหร่ แต่พอเข้า ม.4 จริงผมไม่ค่อยทีเพื่อนคุยเลย นั่งเรียนอยู่ก็ซึมๆ นำ้ตาไหลบ้าง นอยบ้าง ทักแชทคุยกับมันก็ไม่ค่อยตอบ เพราะเวลาเรียนไม่ตรงกัน เล่นเกมด้วยกันก็น้อยลง จนผมได้ย้ายไปเรียนที่เดียวกับมันห้องเดียวกัน ผมก็มีความสุขมากที่ได้เจอกัน ได้คุยกันตลอด พอผ่านไปสักพักมีช่วงหนึ่ง มันได้เพื่อนใหม่ที่อยู่ต่างอำเภอมานอนหอแถวบ้านมัน
2 คนนั้นเลยไปกลับด้วยกันบ่อยๆ คุยกันบ่อย ถามถึงกันทุกเช้า แล้วมันทำให้ผมรู้สึกนอยๆว่ามันไม่สนใจผมเลย ผมเลยเงียบใส่มันทั้งอาทิตย์ จนมันมาถามว่าเป็นไร “ผมก็ได้แค่ตอบว่าไม่เป็นไรแค่อยากอยู่เงียบๆ“ ผมจะเป็นแบบนี้ตลอดเวลาที่มันไม่ค่อยสนใจผม
จนพอถึงช่วงกีฬาสี มันไปมีแฟนเป็นเพื่อน ผู้หญิงที่อยู่ต่างห้อง ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมร้องไห้เลย แบบนำ้ตามันไหลไปเอง พอมันโทรมาหามันก็รู้ว่าผมร้องไห้ แต่ผมก็บอกมันว่าไม่ได้เป็นไรไม่มีอะไรหรอก ผมมีอนากการนั้นอยู่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ แบบซึมไปเลยกลับบ้านมาเปิดเพลงก็ร้องไห้ จนค่อยๆปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้ถึงเริ่มเป็นเหมือนเดิม
พอประมาณช่วง ปวช.3 มันได้เพื่อนเล่นเกมคนใหม่ มันก็เลิกคุยในดิสกับผมไปสักเลย เพราะมันไปเล่นกะเพื่อนคนนั้นแทน ก็ตามเดิมครับผมนอยใส่มัน ไม่พูดนั้งเงียบๆซึมๆ จนมันกลับมาเล่นเกมกะผม ผมก็มีความสุขมากนะที่ได้ยินเสียงมัน ได้คุยกัน แต่ผมไม่รู้ว่ามันเก็บคำพูดผมไปคิดรึป่าวว่า ผมเคยพูดไว้ว่า ทำไมปิดเทอมเราไม่เล่นเกมด้วยกันเลย แต่ก็ยังมีทักคุยกันปกติไม่ได้ทะเลาะกัน มาเล่นเกมด้วยกันแต่ตอนเปิดเทอม ผมก็เลยบอกว่าดีละปิดเทอมจะหาดูหนังอ่านหนังสือ พอมาถึงช่วงใกล้ปิดเทอม มันก็ไม่เล่นเกมกับผมจริงๆ ก็ตามนั้นครับผมนอยอีก เงียบๆซึมๆ แต่เดี่ยวก็ขึ้นมหาลัยแล้ว ได้อยู่คณะเดียวกัน นอนหอด้วยกัน
เอาจริงนะเวลาผมได้เจอมันอะ โคตรมีความสุขเลย ผมก็ชอบเวลาที่มันมีความสุข เวลาที่มันใส่ใจผม สนใจผม เล่นกับผม แบบมีความสุขสุดๆ ผมชอบเห็นมันยิ้ม ผมชอบดูหุ่นมันว่าหุ่นมันดีมากๆ มันเป็นคนที่ออกกำลังกายบ่อย มีวันนึง มันมาจับพุงผมละบอกว่า คึอ้วน ตีแบดก็ตีด้วยกันวิ่งก็เท่ากันไม่ลดเลยหรอ ผมรู้ว่าโคตรมีความสุขอะ แบบ มันใส่ใจเราหรอวะไรงี้ แต่ก็ตามนั้นละครับเขามีแฟนแล้ว แล้วเขาก็เป็นผู้ชาย ซึ่งผมก็เป็นผู้ชาย มันคงไม่ชอบผู้ชายด้วย แต่ผมก็ไม่กล้าบอกความรู้จริงๆกับมันว่ารู้สึกไง แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าผมจะชอบมันแบบนั้นจริงๆใช่ไหม
ความรู้สึกที่มีให้เพื่อนสนิท
พอมาถึงช่วง ม.3 ต่างคนต่างเลือกที่เรียนกัน มันเลือกไปสายอาชีพ ผมเลือกต่อสามัญ ความรู้สึกผมตอนนั้นยังไม่ได้อะไรมากเท่าไหร่ แต่พอเข้า ม.4 จริงผมไม่ค่อยทีเพื่อนคุยเลย นั่งเรียนอยู่ก็ซึมๆ นำ้ตาไหลบ้าง นอยบ้าง ทักแชทคุยกับมันก็ไม่ค่อยตอบ เพราะเวลาเรียนไม่ตรงกัน เล่นเกมด้วยกันก็น้อยลง จนผมได้ย้ายไปเรียนที่เดียวกับมันห้องเดียวกัน ผมก็มีความสุขมากที่ได้เจอกัน ได้คุยกันตลอด พอผ่านไปสักพักมีช่วงหนึ่ง มันได้เพื่อนใหม่ที่อยู่ต่างอำเภอมานอนหอแถวบ้านมัน
2 คนนั้นเลยไปกลับด้วยกันบ่อยๆ คุยกันบ่อย ถามถึงกันทุกเช้า แล้วมันทำให้ผมรู้สึกนอยๆว่ามันไม่สนใจผมเลย ผมเลยเงียบใส่มันทั้งอาทิตย์ จนมันมาถามว่าเป็นไร “ผมก็ได้แค่ตอบว่าไม่เป็นไรแค่อยากอยู่เงียบๆ“ ผมจะเป็นแบบนี้ตลอดเวลาที่มันไม่ค่อยสนใจผม
จนพอถึงช่วงกีฬาสี มันไปมีแฟนเป็นเพื่อน ผู้หญิงที่อยู่ต่างห้อง ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมร้องไห้เลย แบบนำ้ตามันไหลไปเอง พอมันโทรมาหามันก็รู้ว่าผมร้องไห้ แต่ผมก็บอกมันว่าไม่ได้เป็นไรไม่มีอะไรหรอก ผมมีอนากการนั้นอยู่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ แบบซึมไปเลยกลับบ้านมาเปิดเพลงก็ร้องไห้ จนค่อยๆปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้ถึงเริ่มเป็นเหมือนเดิม
พอประมาณช่วง ปวช.3 มันได้เพื่อนเล่นเกมคนใหม่ มันก็เลิกคุยในดิสกับผมไปสักเลย เพราะมันไปเล่นกะเพื่อนคนนั้นแทน ก็ตามเดิมครับผมนอยใส่มัน ไม่พูดนั้งเงียบๆซึมๆ จนมันกลับมาเล่นเกมกะผม ผมก็มีความสุขมากนะที่ได้ยินเสียงมัน ได้คุยกัน แต่ผมไม่รู้ว่ามันเก็บคำพูดผมไปคิดรึป่าวว่า ผมเคยพูดไว้ว่า ทำไมปิดเทอมเราไม่เล่นเกมด้วยกันเลย แต่ก็ยังมีทักคุยกันปกติไม่ได้ทะเลาะกัน มาเล่นเกมด้วยกันแต่ตอนเปิดเทอม ผมก็เลยบอกว่าดีละปิดเทอมจะหาดูหนังอ่านหนังสือ พอมาถึงช่วงใกล้ปิดเทอม มันก็ไม่เล่นเกมกับผมจริงๆ ก็ตามนั้นครับผมนอยอีก เงียบๆซึมๆ แต่เดี่ยวก็ขึ้นมหาลัยแล้ว ได้อยู่คณะเดียวกัน นอนหอด้วยกัน
เอาจริงนะเวลาผมได้เจอมันอะ โคตรมีความสุขเลย ผมก็ชอบเวลาที่มันมีความสุข เวลาที่มันใส่ใจผม สนใจผม เล่นกับผม แบบมีความสุขสุดๆ ผมชอบเห็นมันยิ้ม ผมชอบดูหุ่นมันว่าหุ่นมันดีมากๆ มันเป็นคนที่ออกกำลังกายบ่อย มีวันนึง มันมาจับพุงผมละบอกว่า คึอ้วน ตีแบดก็ตีด้วยกันวิ่งก็เท่ากันไม่ลดเลยหรอ ผมรู้ว่าโคตรมีความสุขอะ แบบ มันใส่ใจเราหรอวะไรงี้ แต่ก็ตามนั้นละครับเขามีแฟนแล้ว แล้วเขาก็เป็นผู้ชาย ซึ่งผมก็เป็นผู้ชาย มันคงไม่ชอบผู้ชายด้วย แต่ผมก็ไม่กล้าบอกความรู้จริงๆกับมันว่ารู้สึกไง แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าผมจะชอบมันแบบนั้นจริงๆใช่ไหม