คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล เป็น นักบริหาร นักคิด นักปฏิรูปการศึกษา นักการเมือง หรือ ปัจจุบัน เรียก นักดิสรับชั่น

กระทู้สนทนา
คุณพ่อ สุขวิช รังสิตพล เป็นนักคิดและนักบริหารที่มีวิสัยทัศน์ล้ำหน้าที่สุดของประเทศไทย ท่านเป็นนักการเมืองที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศ และเป็นผู้ที่ลงมือทำเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาพลังงาน การศึกษา การเมือง หรือการเศรษฐกิจ ผู้ไม่เพียงแต่มองหาผลประโยชน์ระยะสั้น แต่ยังคำนึงถึงความยั่งยืนในระยะยาว

การก่อตั้งโรงกลั่นน้ำมันเป็นหนึ่งในตัวอย่างของการคิดล่วงหน้าของท่าน ซึ่งช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการผลิตพลังงานของประเทศ การอภิวัฒน์การศึกษา 2538 ให้คนไทยทุกคน ทั่วถึง ทั่วไทย เท่าเทียม  เป็นอีกหนึ่งมุมมองที่สำคัญในการทำให้การศึกษาของไทยเป็นไปอย่างมีคุณภาพและสามารถตอบโจทย์การพัฒนาในอนาคต
นอกจากนี้ คุณพ่อสุขวิชเป็นผู้ที่มุ่งมั่นในการผลักดันนโยบายต่อต้านยาเสพติดแบบไม่ใช้ความรุนแรง โดยเน้นการแก้ไขปัญหาผ่านการศึกษาและการสร้างโอกาสในทางบวกให้แก่เยาวชนไทย การทำงานและวิสัยทัศน์ของเขาจึงเป็นตัวอย่างของการเป็นนักคิดที่กล้าแตกต่างและทุ่มเทเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล เป็นนักคิดที่ยึดมั่นในการสร้างโอกาสให้กับคนไทยทุกคน โดยมุ่งหวังให้ทุกคนมีโอกาสเติบโตและพัฒนาในสังคมอย่างเท่าเทียม โดยการขับเคลื่อนประเทศด้วยวิสัยทัศน์ที่ไกลล้ำและมองไปข้างหน้า ผ่านการผลักดันรัฐธรรมนูญ 2540 จนกระทั่งสำเร็จในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลต้มยำกุ้ง


✅ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ถูกเชิญมาแก้ปัญหาจราจรหลังจากสถานการณ์ Deadlock ในปี 2536 วิธีการทำงานของท่านมุ่งเน้นการให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง และท่านเป็นผู้คิดค้นแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษาในปี 2538

แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 เป็นการปฏิรูปความคิดและคุณค่าใหม่ของสังคมไทย ซึ่งเน้นให้ “คนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา” และใช้เศรษฐกิจเป็นเพียงเครื่องมือในการช่วยให้คนมีความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนวิธีการพัฒนาไปสู่การพัฒนาแบบองค์รวม โดยมีกระบวนการที่เชื่อมโยงมิติต่างๆ ของการพัฒนา และเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัดทำแผน

แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนพลังทางสังคมเพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง และนำไปสู่การสร้างแนวคิดพื้นฐานในการร่างรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยในปี 2540

📌 ในปี 2536 กรุงเทพมหานครเผชิญวิกฤติจราจรที่รุนแรงที่สุด การจราจรติดขัดทั่วทั้งเมืองจนไม่สามารถขยับได้ (Deadlock) และคลี่คลายได้เมื่อเวลา 04:00 น. ของวันรุ่งขึ้น

📌 เหตุการณ์นี้รุนแรงจนถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดหนังสือรางวัลซีไรท์ “ครอบครัวกลางถนน”

➡️ หลังจากเหตุการณ์นี้ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ได้รับเชิญให้เข้ามาแก้ปัญหาจราจรและพัฒนาระบบคมนาคมของประเทศ เนื่องจากท่านทำงานในวงการพลังงานมาเป็นเวลา 32 ปี และมีข้อมูลเกี่ยวกับการสูญเสียทรัพยากรพลังงานของประเทศไทยจากการที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีการจราจรติดขัดที่สุดในโลกในแต่ละปี ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ดังนั้นท่านจึงตอบรับคำเชิญเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรให้กับคนไทย ตามข้อมูลด้านล่าง:



🛣️ 2. แผนแม่บททางพิเศษกรุงเทพฯ และปริมณฑล (ปี 2536) – ยังไม่เสร็จ

✅ การทางพิเศษฯ ดำเนินโครงการเองที่รามอินทราและบางนา

📌 ผลลัพธ์: ต้นทุนต่ำ ✅ เสร็จเร็ว ✅ ค่าผ่านทางต่ำ ✅ คุณภาพ-ความปลอดภัยสูง ✅
ขยายทางยกระดับจาก 27.1 กิโลเมตรเป็น 305 กิโลเมตร
📌 (รายงานการประชุมคณะกรรมการจัดการจราจรทางบก ครั้งที่ 15 วันที่ 20 ต.ค. 2537)

แก้ไขปัญหาจราจรบนทางด่วนเฉลิมมหานคร (27.1 กิโลเมตร):
1.ยกเลิกทางลงวิทยุ (มีสัญญาณจราจร) และเปลี่ยนเป็นเพลินจิตเหนือ-ใต้
2.สร้างสะพานต่างระดับคลองเตย-ดาวคะนอง บริเวณตลาดปีนัง
3.ขยายทางลงพระราม 4 ให้กว้างขึ้น



🚉 3. ระบบขนส่งมวลชนใน 8 เมืองใหญ่ (ยังไม่เริ่มในปี 2568)

✅ การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนใน 8 เมืองใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่, พิษณุโลก, ขอนแก่น, นครราชสีมา, สงขลา, ภูเก็ต, ฉะเชิงเทรา และชลบุรี
⚠️ แผนยังไม่ถูกดำเนินการ



🚄 4. แผนแม่บทรถไฟความเร็วสูง (ปี 2537) – 6 เส้นทาง ระยะทาง 3,400 กม. เชียงใหม่, หนองคาย, อุบลราชธานี, นครราชสีมา, อรัญประเทศ, มาบตาพุด, ปาดังเบซาร์ และ สุไหงโกลก

✅ วางแผนสร้างโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ
⚠️ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์



🚇 5. แผนแม่บท MRT (ปี 2537) และมติคณะรัฐมนตรี

✅ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2537 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้สร้างระบบรถไฟฟ้าใต้ดินในพื้นที่ที่ “ต้อง” มี 25 ตารางกิโลเมตร และพื้นที่ที่ “ควร” มี 87 ตารางกิโลเมตร
📌 #เพื่อป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมและลดอุบัติเหตุ
✅ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2537 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ และปริมณฑล (MTMP) รวมระยะทาง 341 กิโลเมตร
135 กิโลเมตร ขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) และระบบขนส่งมวลชนรองเพื่อเข้าสู่ระบบหลัก 11 เส้นทาง ระยะทาง 206 กิโลเมตร

❝ ประชาชนเสียประโยชน์เพราะถูกฉกไข่แดง ❞ โดย BTS ซึ่งมีค่าผ่านทางแพงกว่า MRT
⚠️ “ประชาชนเสียประโยชน์เนื่องจากการละเว้นมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2537”



🌉 6. ลงนามกับญี่ปุ่น – สะพานมิตรภาพและ MRT สายสีน้ำเงิน (ปี 2537)

⚠️ โครงการล่าช้าจากกำหนดการเดิม 4 ปี กลายเป็น 10 ปี (และยังไม่เสร็จสมบูรณ์)



✈️ 7. ลงนามกับญี่ปุ่น – สนามบินสุวรรณภูมิ (ปี 2539)

⚠️ แผนเดิมกำหนดเสร็จในปี 2543 แต่ล่าช้าไปเป็น 10 ปี
📌 กำหนดเสร็จเมื่อสนามบินสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 150 ล้านคน (ยังไม่ถึงเป้าหมาย)



🛣️ 8. แผนแม่บททางพิเศษประเทศไทย 12 เส้นทางในภูมิภาคเอเชีย (ปี 2540) – 6,731 กม.

✅ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2540 คณะรัฐมนตรีมีมติให้ใช้แผนแม่บททางพิเศษ 12 เส้นทางในการประชุมอาเซียน
⚠️ โครงการยังไม่เสร็จสมบูรณ์ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8



🛤️ 9. แผนแม่บททางหลวง 13 สาย (ปี 2540) – 4,150 กม.

✅ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนแม่บททางหลวง 13 สาย
⚠️ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์



🌊 10. โครงการขุดคลอง 2 แสนกิโลเมตร (ปี 2536) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

✅ ได้ขออนุมัติในการใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง แทนการลดค่าเงินบาท
⚠️ โครงการไม่ได้รับการอนุมัติ



🔹 ไฮไลท์สำคัญ

✔ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานระบบคมนาคมของประเทศไทย
✔ แผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน – ทางพิเศษ – รถไฟความเร็วสูง – สนามบิน – การขุดคลอง ได้เริ่มต้นในยุคของท่าน
✔ หลายโครงการล่าช้าหรือไม่ได้รับการอนุมัติ ส่งผลให้ประชาชนสูญเสียโอกาส
✔ การละเว้นมติสำคัญของคณะรัฐมนตรีทำให้ประชาชนสูญเสียผลประโยชน์ในระยะยาว



📌 บทสรุป

คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล เป็นผู้วางรากฐานระบบคมนาคมที่สำคัญของประเทศ รวมถึงทางด่วน รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง สนามบิน และโครงการขุดคลอง หลายโครงการประสบปัญหาความล่าช้าหรือไม่ได้รับการสานต่อ ทำให้ประชาชนสูญเสียโอกาสมหาศาล อย่างไรก็ตาม แนวคิดและแผนงานของท่านยังคงเป็นรากฐานสำคัญของระบบคมนาคมไทยจนถึงปัจจุบัน



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่