สวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน วันนี้ผมขอนำเสนอแพลนเที่ยวญี่ปุ่นในภูมิภาคคันไซทั้งหมด 8 วัน 7 คืน แบบสายกิน!!
ซึ่งทริปนี้บอกเลยว่าเราจัดเต็มในเรื่องการกินแบบสุดๆ อ้างอิงได้จากค่าอาหารในทริปนี้ จริงๆตอนแรกมันจะเป็นทริปซากุระ (ตามภาพปกกระทู้)
แต่ว่าด้วยภูมิอากาศที่ไม่เป็นใจ ทำให้มันไปบานอีกอาทิตย์นึง เลยแก้ไปแก้มาจนเป็นทริปนี้
**แต่ๆๆๆ เราก็ได้เห็นซากุระ 1 จุด ในวันที่ 3 ของการเดินทางนะเออ**
รายละเอียดการท่องเที่ยว
ระยะเวลา: 8 วัน 7 คืน
Travel spot: Osaka, Kyoto, Himeji, Kobe, Uji, Kinosakionsen
สายการบิน: การบินไทย BKK (8:15) >> KIX (15:45) / KIX (17:25) >> BKK (22:00) พร้อมน้ำหนักกระเป๋าคนละ 25 Kg.
Hotel: APA Umeda Eki Tower, Tetora Kyoto St., Kinosaki Knot, Dormy Inn Premium
Pass: Kansai Wide Area Pass + Icoca
ตารางสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดแบบคร่าวๆ ไม่รวม Shopping และค่าใช้จ่ายแฝง (เบี้ยบ้ายตามทาง ขนม ชิมนั่นนี่ กดตู้น้ำ กาชา คีบตุ๊กตา ไปเรื่อย)
ว่าแล้วก็ไปลุยกันเลยครับกับ Ep แรก
Day 1: โดนทิ้งที่ญี่ปุ่น เลยฮีลใจด้วยการไปช้อปปิ้งที่ GU รีวิวซูชิหน้าล้นที่ Uoshin Sushi
**สำหรับทริปวันอื่นๆสามารถเข้าชมได้ตามลิ้งแต่ละวันด้านล่างเลยครับ**
Day 4: พาเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่ง Osaka และอร่อยกับเนื้อชุบแป้งทอดชื่อดัง!! (Day 4)
Day 5: พาเที่ยวเมือง Kinosakionsen แบบครบจบที่นี่ และอร่อยกับปูซูไวทั้งตัว!! (Day 5)
Day 6: จัดหนักอาหารทะเลแต่เช้าที่ Kinosakionsen และชิมสุดยอดข้าวหน้าปลาไหลที่ Osaka (Day 6)
Day 7: พาเที่ยววัดพุทธวัดแรกในญี่ปุ่นและจัดหนักบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างที่ Umeda (Day 7)
Day 8: พาชมบุฟเฟต์อาหารเช้าแบบจัดเต็มที่ Dormy Inn และการค้นพบสุดยอดยากิโซบะแห่ง Osaka (Day 8)
Day 1: โดนทิ้งที่ญี่ปุ่น เลยฮีลใจด้วยการไปช้อปปิ้งที่ GU รีวิวซูชิหน้าล้นที่ Uoshin Sushi
อยากจะบอกว่าทริปนี้หนังชีวิตตั้งแต่วันแรกเลยครับ เริ่มจากเครื่องมาถึงที่โอซาก้าไวกว่ากำหนด 20 นาที (ฟังดูเหมือนจะดีใช่ไหมครับ) แต่มันพีคตรงนี้ครับ เนื่องจากผมจองลีมูซีนจากสนามบินไปส่งที่ Osaka แบบ Monitor flight คือเครื่องลงเมื่อไหร่ คนขับก็จะรอไปอีก 60 นาที ทีนี้เครื่องมันลงก่อนเวลา เวลาในการรอของคนขับก็เลยเริ่มนับไปตั้งแต่ตอนนั้นครับ หนังชีวิตเริ่มตรงนี้แหละครับ!! กว่าจะลงจากเครื่องเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบ 10 นาทีแล้ว แล้วยังมาเจอแถวเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ช้ามากๆอีก เจอคนไม่เตรียม QR Code Visit Japan ไว้โชเจ้าหน้าที่ด้วย และแล้วเวลาก็ล่วงเลยไปจนมันเกิน 60 นาที แต่ด้วยที่เราเข้าใจว่าเวลามันนับตาม arrival time ตามไฟลท์บิน ก็เลยคิดว่าน่าจะยังทัน
ระหว่างนั้นพวกเราก็ติดต่อกับคนขับตลอดครับ ว่าเออเราติดตรง ตม. นะ คนเยอะมากๆ คนขับยังตอบกลับมาเลยว่า วันนี้นักท่องเที่ยวเยอะ คนเลยเยอะ พอพวกเราผ่าน ตม ระหว่างนั้นมีสายจาก provider รถเข้ามาซึ่งเราไม่ได้รับเนื่องจากอยู่ตรง ตม.พอผ่านศุลกากร เอากระเป๋าเสร็จ Text ไปหาคนขับว่ากำลังไปนะ เมลล์ก็เข้ามาว่าคนขับก็ไปซะแล้วครับ แต่ก่อนหน้านั้นมีสายนึงโทรมาจากสิงคโปร์ครับ (เป็นเบอร์ของบริษัทที่จัดหารถ) ด้วยการที่ไม่รับสายและเวลามันเกิน 60 นาที โดยนับจากเวลาที่เครื่องลงไปแล้ว คนขับก็เลยทิ้งเราไปซะอย่างงั้น ช็อคเหมือนกันเพราะก่อนหน้านี้ยังคุยกันอยู่เลยใน whatsapp ทีนี้แผนเลยต้องเปลี่ยนเลยครับ (ซึ่งปัจจุบันผมติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรไปแล้วว่าพอจะทำอะไรได้บ้างไหม แต่ก็เหมือนว่าจะทำอะไรไม่ได้) จังหวะนั้นไหนๆแล้ว ผมเลยไปแลก JR Pass ก่อนละกัน ด้วยความที่ไม่รู้อีกแหละครับ Pass เลยถูกเปิด ณ วันที่มาถึง (แต่จำได้ว่าปกติเค้าจะถามว่าเริ่มใช้วันไหน ตามความตั้งใจเดิมจะเปิดอีกวันเนื่องจากวันนี้เราจะเข้าเมืองด้วยลีมูซีน) เท่ากับว่าตอนนี้พาสผมสามารถเข้าเมืองได้โดยไม่ต้องเสีย 3000 เยน แต่ผมจะไม่มีพาสไว้กลับจาก Kinosakionsen อีกต่อไป
เราเลยตัดสินใจนั่งรถไฟเข้าเมืองมา โดยมาลงที่สถานี Osaka และเดินจากสถานีเพื่อไปเช็คอินเข้าโรงแรมก่อน ซึ่งเราจะพักที่โรงแรม APA Hotel & Resort Osaka Umeda Eki Tower ทั้งหมด 3+1 คืนครับ จากสถานี Osaka ให้ไปทางออก South และเดินผ่านทางเชื่อมยาวมา และมาข้ามตรงสี่แยก และตรงยาวมาที่โรงแรมได้เลย
(ห้องค่อนข้างแคบครับ เปิดเข้ามาจะเจอเตียง เราสามารถเก็บกระเป๋าเข้าใต้เตียงได้)

(มีห้องน้ำในตัว มีโต๊ะเล็กๆ ตู้เย็น มีชุดสำหรับเปลี่ยนลงไปห้องอาบน้ำรวม ที่ชั้น 4 มี และมี Family Mart ที่ชั้นนี้ด้วย)
APA Hotel & Resort Osaka Umeda Eki Tower
ข้อดี
1. กระบวนการเช็คอินค่อนข้างไว เป็นเคาร์เตอร์ ทำผ่านหน้าจอ มีหลายเครื่อง
2. มี Onsen และ Family mart
3. ใกล้ร้านอาหารดังๆหลายร้าน เช่น Shinjidai, Futawaro, Kame Sushi และห่างจากสถานี Osaka ประมาณ 900 เมตร
4. ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง ห้าง Hankyu, Daimaru และห่างจาก Donqi ประมาณ 350 เมตร
5. เตียงนอนนุ่มสบาย
ข้อเสีย
1. ค่อนข้างใช้เวลาในการกลับเข้าห้องพัก เนื่องจากห้องพักเยอะ มีถึง 34 ชั้น และยูนิตเยอะ
2. ห้องแคบไปนิด ใครกระเป๋าเยอะอาจลำบาก
เช็คอินเก็บของเรียบร้อย เราก็ต้องไปกิน!! มื้อแรกของเราที่ญี่ปุ่น เราฝากท้องไว้ที่ร้านซูชิหน้าล้น (Uoshin Sushi) ร้านอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม อยู่บนถนน Higashidori ในย่าน Umeda ซึ่งบริเวณนี้มีร้านอาหารหลายร้านครับ รวมถึงราเมงข้อสอบด้วย
Uoshin Sushi (ซูชิหน้าล้น)
ร้านมีเมนูมีภาษาอังกฤษ เราสามารถสั่งอาหารผ่าน QR Code ได้เลย เมนูที่นี่มีทั้งซูชิและซาซิมิ
(เมนูประจำวัน เป็นซาซิมิหั่นเต๋า และไข่หวาน รสออกเปรี้ยวนิดๆ ทานแล้วสดชื่น)

(คัตสึโอะซาซิมิ)

(ไข่ปลาแซลมอน)

(หมึกหิ่งห้อย ซอสวาซาบิ)

(ฮามาจิ ซาซิมิ)

(หนวกหมึกทอดกรอบ)
มื้อนี้หมดไปทั้งหมด 5200 เยน แนะนำให้สั่งพวกปลาดิบครับ อย่างคัตสึโอะ กับ ฮามาจิ และเมนูประจำวัน พวกหมึกหิ่งห้อยไม่แนะนำ
โดยรวมส่วนตัวเฉยๆไม่ได้ว้าวและรสชาติไม่ได้หนีจากที่ไทยครับ มีว้าวแค่เมนุประจำวัน
หลังจากนั้นเราไปช็อปปิ้งต่อที่ GU ครับ ส่วนตัวค่อนข้างชอบแบรนด์นี้ ราคาไม่แรงและคุณภาพดี ถ้าใครชอบ Uniqlo อยู่แล้ว GU เป็นแบรนด์ลูก Uniqlo แต่ราคาถูกกว่า เราช็อปกันจนร้านปิดและกลับโรงแรม ระหว่างทางกลับมีร้าน Izakaya ร้านดังอย่าง Shinjidai เป็นร้านหนังไก่ทอดไม้ละ 50 เยน กินกับเบียร์ถ้าใครยังไหวก็ลุยต่อได้เลยครับ จบแล้วฮะสำหรับทริปวันแรก
😋พาเที่ยวภูมิภาคคันไซแบบสายกิน (Osaka, Kyoto, Himeji, Kobe, Kinosakionsen) 🍣