รัฐธรรมนูญ 2540 วางรากฐานสำคัญในการปฏิรูประบบสาธารณสุขของไทย
1. หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
แม้ รัฐธรรมนูญ 2540 จะปูทางให้เกิดระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health Coverage - UHC) แต่ “30 บาทรักษาทุกโรค” ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ไม่เหมาะสมสำหรับใช้งานจริงในระดับชาติ
ยอมรับว่า ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น แต่ ภาระที่เพิ่มขึ้นมหาศาลต่อบุคลากรทางการแพทย์และงบประมาณรัฐ กลับ เพิ่มความเสี่ยงต่อชีวิต เพราะ ลดคุณภาพเนื่องจากปัญหาการเงินในโรงพยาบาล และแพทย์ต้องทำงานหนักเกินกำลัง
คุณหมอสงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ผู้ผลักดันระบบนี้ เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคมะเร็ง ซึ่งคาดว่ามาจากการทำงานหนักเกินไป
ระบบ 30 บาทฯ เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กซึ่งควบคุมได้ดี แต่เมื่อ ขยายระดับประเทศโดยไม่มีโครงสร้างรองรับที่แข็งแรง จึง เกิดปัญหาทั้งต่อคุณภาพการรักษาและความเป็นอยู่ของบุคลากรทางการแพทย์
2. การคุ้มครองเด็ก เยาวชน และคนพิการ
รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐต้องดูแลเด็ก เยาวชน และคนพิการ ซึ่งส่งผลให้เกิด
กฎหมายคุ้มครองเด็ก การป้องกันการละเมิดสิทธิเด็ก
นโยบายให้โรงเรียนและสถานที่สาธารณะต้องปรับโครงสร้างให้เหมาะสมกับผู้พิการ
3. สิทธิในการฟ้องร้องหน่วยงานรัฐ
ประชาชนสามารถฟ้องร้องโรงพยาบาลของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งช่วย เพิ่มความรับผิดชอบของหน่วยงานสาธารณสุข
4. การกระจายอำนาจด้านสาธารณสุข
การเกิดขึ้นของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทำให้ประชาชนในชนบทเข้าถึงการรักษาได้ดีขึ้น
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเริ่มมีบทบาทมากขึ้น เช่น การดูแลผู้สูงอายุ เด็ก และ คนพิการในชุมชน
5. การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันมลพิษ
รัฐมีหน้าที่ควบคุม PM2.5 มลพิษทางน้ำ และโรคติดต่อ ที่กระทบสุขภาพของประชาชน
สรุป
รัฐธรรมนูญ 2540 มีผลเชิงบวกต่อการพัฒนาสาธารณสุขไทย ถึงแม้ นโยบายอย่าง 30 บาทรักษาทุกโรคแสดงให้เห็นว่าขาดการเตรียมความพร้อม สร้างผลกระทบต่อ บุคลากรทางการแพทย์และคุณภาพบริการ สิ่งสำคัญคือ การพัฒนานโยบายต้องสมดุลระหว่าง การเข้าถึงบริการกับคุณภาพของระบบ
รัฐธรรมนูญ 2540 วางรากฐานสำคัญในการปฏิรูประบบสาธารณสุขของไทย