จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาเขย่ามาถึงกรุงเทพ ทำให้ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ที่กำลังอยู่ในกระบวนการก่อสร้างถล่มลงมาอย่างไม่คาดคิด กลายเป็นภาพฝันร้ายของคนไทยทุกคนที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกันสังคมก็มีการแชร์ภาพตึกแห่งหนึ่งที่กำลังก่อสร้างเช่นกัน โครงสร้างตึก นิ่ง ไม่ไหวติง สงบ ราวกับไม่ได้กำลังเผชิญเหตุแผ่นดินไหว นั่นก็คือตึกที่อยู่ในการดูแลของ
"บริษัท ฤทธา จำกัด" บริษัทก่อสร้างชั้นนำในไทยที่มีผลงานประจักษ์แก่สายตามาแล้วไม่ว่าจะเป็นโรงแรม คอนโด ศูนย์การค้าชื่อดัง ก่อตั้งโดย
"คุณสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา" จากอดีตลูกจ้างสู่ผู้ก่อตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของประเทศไทย
ทำให้หลายคนย้อนกลับไปดูคลิปสัมภาษณ์ของรายการ PERSPECTIVE ที่เคยสัมภาษณ์คุณสุวัฒน์ ถึงเส้นทางและแนวคิดการทำงานในบทบาทผู้ให้งานบริการด้านวิศวกรรม เอาไว้เมื่อปี 2563
เส้นทางชีวิตในสายงานวิศวกรรม
ผมจบมาใหม่ๆ ผมไปอยู่กรมทางหลวงแผ่นดิน กรมก็ส่งผมไปควบคุมงานก่อสร้างถนนสายมหาสารคาม กาฬสินธุ์สกลนคร ปี 2510 ช่วงนั้นก็เริ่มมีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ พวกนายช่างที่ไปทำงาน หลวงต้องให้ปืนตลอดเวลาไปทำงานข้างนอก เพราะต้องดูแลงาน คนงาน และเงินด้วย แล้วคนงานก่อสร้างเราไปทำตรงนั้นเราไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหนถูกไหมครับ เป็นคนดีก็มี คนร้ายก็มี เราก็มีไว้หนึ่งป้องกันตัว บางทีมันไปมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของเจ้าพ่อท้องที่
จากนายช่าง สู่ผู้รับเหมาเอง
เงินเดือน 1,250 เบี้ยเลี้ยง 22 บาท ผมมีภารกิจจะต้องช่วยพ่อแม่ส่งน้องเรียนหนังสือฉะนั้นการช่วยตัวเองไม่ไหวอยู่แล้ว พอดีมีบริษัทก่อสร้างไปรับงานของกรมชลประทาน จะทำถนนจากอุตรดิตถ์เข้าเขื่อนสิริกิตติ์ เขาประมูลงานได้แต่ยังเริ่มงานไม่ได้ เพราะหานายช่างไม่ได้ สมัยก่อนก็ไม่ค่อยมี มีก็มีน้อย ก็มีคนมาชวนผมแล้วให้ค่าตอบแทนหลายเท่าของเงินเดือน ผมก็เลยไป เราต้องคลุกคลีอยู่กับลูกน้องมากกว่าเดิม เพราะการขับเคลื่อนงานมันอยู่กับคนทำงานคือลูกน้อง เราต้องได้ใจเขานะครับ เราต้องเข้ากับเขาได้ ต้องเข้าใจก่อนว่าสมัยก่อนพื้นฐานความรู้เขาน้อย รายได้น้อย แต่ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เขาเท่ากับเรานะ บังเอิญผมเติบโตมาจากเด็กต่างจังหวัด เราอยู่กับพวกนี้มาก็กลมกลืนกับพวกเขาง่าย ผมไม่ได้ไปแสดงตนว่าผมเป็นนาย เพียงแต่ว่าเรามีหน้าที่กันคนละอย่างนะ ผมเรียกว่าลูกน้องเพราะผมรักเขาเหมือนลูกหรือเหมือนน้อง คนทำงานระดับล่างเขาทำงานเพื่อเงิน ฉะนั้นเราต้องดูแลเขาเรื่องเงินให้ดีก่อน ต้องจ่ายตรงเวลาข้อที่หนึ่ง พอมาถึงระดับอย่างผม เงินผมขอแค่เท่าที่เป็นธรรม ผมมุ่งผลสำเร็จของงาน สิ่งที่ผมรับปากผมต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ว่างานมันจะหนักหรือยากกว่าที่คิดไว้ตอนตกลง ผมไม่บ่นผมต้องทำจนเสร็จ ผมถือว่าผมรับปากเขาแล้ว อันนี้เป็นความรับผิดของคนที่เป็นวิศวกร
ทำมาจนถึงปี 2529 ตอนนั้นผมอายุ 42 แล้ว งานก่อสร้างมันไม่แน่นอน เดี๋ยวบริษัทก็ได้งานเดี๋ยวก็หมดงาน ก็คิดว่าแล้วต่อไปชีวิตเราจะเป็นยังไง เราควรจะหาอะไรทำเป็นของเราเอง ไปจดทะเบียนบริษัทรอไว้เลย น้องสองคนที่เขาเป็นผู้บริหารอยู่ มาหาผมถามว่า พี่..ออกไปทำเองกันดีกว่า ผมบอกยังไม่ได้ เขาฝากความหวังหลายเรื่องไว้กับเรา เราทำหน้าที่ของเราให้คอมพลีทก่อน เราไปช้าหน่อยเร็วหน่อยไม่ได้เป็นปัญหา จนปี 2532 เราถึงเริ่มออกมาทำเอง
"ฤทธา" เราจะทำแบบมืออาชีพ ความโปร่งในเรื่องการเงิน
งานแรกของฤทธา ลูกน้องสองคนนี้เขาไปได้งานเล็กๆ มาชิ้นนึง แต่ผมไม่ได้ไปดู แต่จังหวะดีอุโมงค์ส่งน้ำที่เคยทำมันเกิดรั่ว ญี่ปุ่นก็หมดสัญญา มันอยู่ในความดูแลของประปานครหลวง เขาก็หาคนซ่อม แล้วใครมันจะทำได้ดีกว่าผมล่ะ (หัวเราะ) เครื่องมือผมก็ไปเอาจากบริษัทญี่ปุ่นลูกพี่เก่าผมไปขอเช่าถูกๆ ทุนจดทะเบียนแค่ล้านเดียว เพราะตอนนั้นไม่มีเงิน เริ่มต้นมาอย่างนี้
เป้าหมายทำไมผมต้องมาตั้งบริษัท อย่างที่หนึ่งคือ เรามีสิทธิ์เต็มที่ที่เราอยากจะทำอะไรที่เราอยากทำ อะไรที่มันไม่ถูกเราจะไม่ทำ ที่เราเคยเห็นมา จ่ายเงินลูกน้องไม่ตรงบ้าง กลยุทธ์ในการดีลงาน เราไม่เอา เราจะทำแบบมืออาชีพ อันที่สองถ้าเราทำผมก็คุยกับน้องๆ ที่หุ้นกัน รายได้ต่อปีเฉลี่ยแล้วไม่น้อยกว่าที่เราเป็นลูกจ้างเขา เราถือว่าเราสำเร็จแล้ว พอมาตั้งบริษัทเล็กๆ ผมว่าชื่อเสียงผมขายได้นะ แต่เราไม่สามารถไปรับงานราชการได้ เพราะเราไม่มีผลงานราชการถูกไหม จะไปทำงานรับเหมาก่อสร้างทางก็ไม่ได้ งานโยธาหนักมันลงทุนเยอะ รถเกรดตัวนึงเป็นล้านๆ รับงานอาคารดีกว่ามันลงทุนน้อยดี ก็เลยหันมาทางด้านนี้
วิธีคิดผมนะ ผมดูแลเงินเขาเหมือนเงินตัวเอง ความโปร่งในเรื่องการเงินเป็นเรื่องสำคัญ ผมบอกตัวเองและน้องๆ ที่ร่วมงานกันว่าการใช้เงินคนอื่น ถ้าเราใช้เป็น เขาก็ให้เราใช้ไปเรื่อยๆ ถ้าเราใช้ไม่เป็น เขาก็เอาคืนไปไม่ให้เราใช้แน่นอนถูกไหม หนึ่งผมไม่ผิดสัญญากับใครในเรื่องคำพูดและการทำงาน ทั้งผู้ว่าจ้างทั้งลูกน้องทุกคน อันที่สองเรื่องเงินต้องตรงไปตรงมาที่สุด ถ้าเรื่องเงินไว้ใจไม่ได้ คำพูดเชื่อถือไม่ได้ ความรับผิดชอบคุณไม่มี คุณไม่มีทางเติบโตได้ในทางธุรกิจหรือไม่ว่าในวิชาชีพใดก็ตาม
งานอาคารสูงมันเกิดขึ้นได้สองประการ หนึ่งฐานรากแข็งแรง สองตัวโครงสร้างแข็งแรง ทีนี้ในทางดำเนินงาน ตัวฐานรากเหมือนอะไร ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ ความตรงไปตรงมา อันนี้คือฐานราก ตัวตึกตัวนี้คือความรู้ความสามารถ ฐานรากคุณดี ไม่มีความรู้คุณก็สร้างตึกสูงไม่ได้ คุณสร้างตึกสูงได้ คำนวณดี ฐานรากคุณไม่ดีคุณก็อยู่ไม่ได้ คุณเก่งยังไงก็ตามคุณไม่มีความรับผิดชอบ ขาดความซื่อสัตย์ ไม่ตรงไปตรงมา พูดจาเชื่อถือไม่ได้ นั่นคือฐานรากคุณไม่ดี
ย้อนฟังแนวคิดการทำงานของ “ฤทธา” โครงสร้างตึกนิ่ง ไม่สะท้านแผ่นดินไหว