เรื่อง มัคคสมังคี อย่างย่อ

      มัคคสมังคีนั้น  ต้องมี สังขารุเปกขาญาณ แล้วต่อด้วย มัคคสมังคี ( อนุโลมญาณ โคตรภูญาณ มรรคญาณ ผลญาณ)

    ซึ่งก่อนหน้านั้นต้องเกิด อุทยัพพยญาณ(วิปัสสนาญาณที่ 4 ของวิปัสสนาญาณ16) ก่อน ชัดแจ้งชัดในไตรลักษณ์ปัญญาแจ้งในการ เกิด-ดับ ก่อน แล้ววิปัสสนาญาณเจริญขึ้นไปตามลำดับ จึงถึง สังขารุเบกขาญาณ ถ้ามรรคมีองค์ 8 ยังไม่สมบูรณ์ วิปัสสนาก็จะถอยกลับที่เดิม หรือเริ่มต้นตั้งแต่ อุทยัพพยญาณใหม่เจริญขึ้นมาใหม่  จนกว่ามรรคมีองค์ 8 ปรานิตสมบริบูรณ์เปรียบพร้อม

       หรือกล่าวได้ว่า  อนุโลมญาณ เป็นการทบทวนวิปัสสนาญาณต้งแต่อุทยัพพยญาณ แจ้งชัดในไตรลักษณ์อย่างปรานิตยิ่งยวดจนถึง สังขารุเบกขาญาณ ในเวลาช่วงขณะหนึ่งเท่านั้น มีสติสัมปชัญญะแจ่มชัดยิ่งและสภาวะธรรมทั้งหลายที่เป็นไตรลักษณ์ปรากฏชัดยิ่งจนจบขบวนการจึงบรรลุมรรคผลนิพพาน พ้นไปจาก(ออกพ้นไปจาก)สังขารและจิตช่วงขณะเดียว ก็คือ มรรคญาณ.

     ปัญญาที่เป็นสัมมาทิฏฐิที่เป็นอริยะ ที่ไม่มีทิฏฐิว่า จิตเป็นตน หรือตนเป็นจิตอีก ด้วยแจ้งชัดถึงความไม่เที่ยงของจิต ความตั้งอยู่ไม่ได้ของจิต(ทุกขัง) ความไม่เป็นตัวตนใดๆ (อนัตตา) ที่เป็นของเราของเขา ใดๆ ได้ในธรรมชาติ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่