ท่านชอบ (พอรับได้) กับอากาศร้อนของ "ภาคกลาง" หรือ "ภาคเหนือ" มากกว่ากัน??
ปลายเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่อากาศจะร้อนมากที่สุดของปี 2568 แต่อากาศก็ร้อนน้อยกว่าค่าปกติ (ตามที่กรมอุตุไทยคาดหมายไว้)
ผมได้คัดเลือกจังหวัดตัวแทนของภาคเหนือ คือเชียงใหม่ เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของภาค และภาคกลางคือกรุงเทพมหานคร เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของภาคและของประเทศไทยด้วย
พูดกันที่ภาคกลางก่อน ลักษณะทั่วไปของภาคกลางในฤดูร้อนคือ จะมีลมตะวันออกเฉียงใต้หรือลมใต้จากอ่าวไทยพัดปกคลุมแทบจะทั้งฤดู ทำให้ความชื้นจากทะเลถูกพัดเข้ามามาก
ยังผลให้ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศจะสูง แต่ก็มีข้อดีคืออากาศจะร้อนน้อยลง
กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ช่วงเช้า อุณหภูมิก็สูงถึง 28 องศาแล้ว แล้วก็ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ก็สุดอยู่แค่ 33-34 องศา (แล้วแต่สถถานีและบริเวณที่วัด) เนื่องขากเมื่อพิจารณาที่ลมที่พัดนั้นส่วนใหญ่เป็นลมค่อนไปทางใต้และพัดแรงมากตลอดวัน แต่เมื่อดูที่ความชื้นสัมพัทธ์สูงมาก ช่วงเช้าถึงร้อยละ 90 ช่วงบ่ายยังตั้งร้อยละ 69-85 ทำให้ร้อนอบอ้าวมากถึงมากที่สุด เหนียวตัวมาก ๆ อยากอาบน้ำตลอดเวลา
สำหรับภาคเหนือ ในฤดูร้อนนั้นจะไมม่ค่อยมีใต้พัดมาถึงแบบแรง ๆ แต่ส่วนใหญ่ก็เจอภูเขาบังหมด ทำให้มีลมนิ่งในบางเวลา หรือบางวันก็ไม่มีลมพัดเลย
เชียงใหม่ ช่วงเช้าอุณหภูมิยังต่ำถึง 20.4 องศา (ต่ำสุดเช้านี้) ซึ่งถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็นของฤดูหนาวอยู่ และเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนในช่วงบ่ายแตะ 35 องศาและทะยานไปเรื่อย ๆ ไปหยุดอยู่ที่ 38-40 องศา หากพิจารณาที่ลม ลม่สวนใหญ่เป็นลมที่มีทิศไม่แน่นอนมากนัก แต่พัดเบามาก ๆ ช่วงเช้าลมสงบ ไม่มีลมเลย และเมื่อดูที่ความชื้นสัมพัทธ์พบว่าความชื้นสัมพัทธ์มากที่สุดตอนเช้าร้อยละ 68 จากนั้นลดลงมาก จนเหลือแค่ 27 เอง (เดือนเมษายน จะลดต่ำลงเหลือ 10-20 % ไปอีก) โดยรวมคืออากาศร้อนมากจนถึงร้อนจัด แต่ไม่อบอ้าว เหนียวเหนอะหนะ
แถมอุณหภูมิสูงสุดของวันที่ 26 มีนาคม 2568 ของภาคเหนือ อากาศร้อนมาก ๆ
ท่านชอบ (พอรับได้) กับอากาศร้อนของ "ภาคกลาง ร้อนอบอ้าว" หรือ "ภาคเหนือ ร้อนแห้งแสบผิว" มากกว่ากัน??
ปลายเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่อากาศจะร้อนมากที่สุดของปี 2568 แต่อากาศก็ร้อนน้อยกว่าค่าปกติ (ตามที่กรมอุตุไทยคาดหมายไว้)
ผมได้คัดเลือกจังหวัดตัวแทนของภาคเหนือ คือเชียงใหม่ เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของภาค และภาคกลางคือกรุงเทพมหานคร เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของภาคและของประเทศไทยด้วย
พูดกันที่ภาคกลางก่อน ลักษณะทั่วไปของภาคกลางในฤดูร้อนคือ จะมีลมตะวันออกเฉียงใต้หรือลมใต้จากอ่าวไทยพัดปกคลุมแทบจะทั้งฤดู ทำให้ความชื้นจากทะเลถูกพัดเข้ามามาก ยังผลให้ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศจะสูง แต่ก็มีข้อดีคืออากาศจะร้อนน้อยลง
กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ช่วงเช้า อุณหภูมิก็สูงถึง 28 องศาแล้ว แล้วก็ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ก็สุดอยู่แค่ 33-34 องศา (แล้วแต่สถถานีและบริเวณที่วัด) เนื่องขากเมื่อพิจารณาที่ลมที่พัดนั้นส่วนใหญ่เป็นลมค่อนไปทางใต้และพัดแรงมากตลอดวัน แต่เมื่อดูที่ความชื้นสัมพัทธ์สูงมาก ช่วงเช้าถึงร้อยละ 90 ช่วงบ่ายยังตั้งร้อยละ 69-85 ทำให้ร้อนอบอ้าวมากถึงมากที่สุด เหนียวตัวมาก ๆ อยากอาบน้ำตลอดเวลา
สำหรับภาคเหนือ ในฤดูร้อนนั้นจะไมม่ค่อยมีใต้พัดมาถึงแบบแรง ๆ แต่ส่วนใหญ่ก็เจอภูเขาบังหมด ทำให้มีลมนิ่งในบางเวลา หรือบางวันก็ไม่มีลมพัดเลย
เชียงใหม่ ช่วงเช้าอุณหภูมิยังต่ำถึง 20.4 องศา (ต่ำสุดเช้านี้) ซึ่งถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็นของฤดูหนาวอยู่ และเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนในช่วงบ่ายแตะ 35 องศาและทะยานไปเรื่อย ๆ ไปหยุดอยู่ที่ 38-40 องศา หากพิจารณาที่ลม ลม่สวนใหญ่เป็นลมที่มีทิศไม่แน่นอนมากนัก แต่พัดเบามาก ๆ ช่วงเช้าลมสงบ ไม่มีลมเลย และเมื่อดูที่ความชื้นสัมพัทธ์พบว่าความชื้นสัมพัทธ์มากที่สุดตอนเช้าร้อยละ 68 จากนั้นลดลงมาก จนเหลือแค่ 27 เอง (เดือนเมษายน จะลดต่ำลงเหลือ 10-20 % ไปอีก) โดยรวมคืออากาศร้อนมากจนถึงร้อนจัด แต่ไม่อบอ้าว เหนียวเหนอะหนะ
แถมอุณหภูมิสูงสุดของวันที่ 26 มีนาคม 2568 ของภาคเหนือ อากาศร้อนมาก ๆ