ตอนแรกผมนึกว่าที่ไทยร้อนเพราะความชื้นสัมพัทธ์ แต่มันขึ้น 38-40 องศาในเดือนพฤษภาคม ผมว่ามันแปลก ๆ

ตอนแรกที่มีคนตั้งกระทู้ว่าอากาศร้อนเดือนพฤษภาคม ผมก็นึกว่ามันเหมือนทุกปีคือความชื้นจากมหาสมุทรอินเดียพัดเข้าไทย ทำให้ร้อนอบอ้าวเหมือนทุกครั้ง แต่ปีนี้ ตอนนี้ อุณหภูมิมันทะยานขึ้น 39-40 องศาองศา ผมว่ามันก็แปลก ๆ ละล่ะ คงต้องหาคำอธิบายดี ๆ ผมเข้าไปที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา เขาไม่มีอธิบาย แต่ก็ยืนยันตรงกันว่าอากาศจะร้อนถึงร้อนจัด 38-40 องศาเซลเซียส พร้อมทั้งก็ยืนยันว่าเดือนพฤษภาคมจะมีฝนตกมากกว่าปกติ (แต่ตอนนี้ส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่มีฝน) ผมก็งงกับอากาศช่วงนี้เหมือนกันนะครับ (เดือนเมษายนฝนตกประจำ พอเข้าฤดูฝนร้อนขึ้นเฉยเลย ร้อนเทียบเท่ากับกลางเมษาเลยนะครับ เผลอ ๆ เมษาปีนี้เย็นกว่าอีก)
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 57
ไม่แน่ใจว่าตลาดวายไปแล้วหรือยัง แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาคเหนือ และอีสาน (รวมถึงภาคกลางด้วย) ร้อนมากในช่วงนี้ก็คือ ดวงอาทิตย์นี่แหละครับ



ถ้าดูละก็คือ กทม.พระอาทิตย์ตั้งฉากกับหัว 26 เม.ย. ไปจนถึง แม่สาย 22 พ.ค. หรือก็คือตามจริงๆแล้วนั้น ช่วงที่ร้อนที่สุดของไทยก็ควรจะเป็นตั้งแต่ต้นๆเดือน เม.ย ไปจนถึง ปลายเดือน พ.ค. (มุมเปลี่ยนแปลงกลางหัว +- 5 องศาไม่ได้มีผลต่อพลังงานแสงอาทิตย์ที่ส่งมายังพื้นโลกมากขนาดนั้น) ซึ่งหากไม่มีปัจจัยภายนอกอื่นๆมาเกี่ยว ช่วงที่ร้อนที่สุดก็จะเป็นตามนี้แน่นอน หากแต่ในความเป็นจริงนั้นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้อุณหภูมิช่วงที่ไม่ใช่ฤดูหนาวเย็นลงมาได้ ก็คือ เมฆฝน นีรแหละครับ

อย่างที่คุณคห.ที่ 1 ว่าไว้ ในช่วงตั้งแต่ปลายปีที่แล้วมาจนถึงต้นๆ เม.ย. มันเป็นสภาวะ La niña ซึ่งโดยธรรมชาติก็คือ ปริมาณฝนบริเวณประเทศไทยจะมากกว่าปกติ และเมฆฝนเหล่านี้เองที่ทำการบังแสงอาทิตย์เปรี้ยงๆไว้ เม.ย.ที่ผ่านมาจึงเย็นกว่าปกติได้ อย่างไรก็ตามฝนที่ตกในช่วงเดือนที่ผ่านมาเป็นเพียงฝนที่เกิดจากแนวปะทะอากาศเสียส่วนใหญ่ไม่ใช่ ฝนเนื่องจากร่องมรสุม เมื่อแนวปะทะอากาศนั้นหายไป มันก็กลับมาร้อนตามสภาพธรรมชาติอย่างที่มันควรจะเป็น

แล้วทำไมช่วงนี้ทางภาคเหนืออีสานฝนจึงแล้งทั้งๆที่ควรจะเข้าหน้าฝนได้แล้ว ?
หากดูที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลของช่วงที่ผ่านมาที่รูปล่างจะเห็นได้ว่า



บริเวณทะเลจีนใต้ไล่ไป โอกินาวะ ไปจนถึงญี่ปุ่น อุณหภูมิน้ำทะเลร้อนกว่าปกติมาก ประกอบกับกลางมหาสมุทรแปซิฟิกยังคงเย็นกว่าอยู่ จึงทำให้ฝนเทไปหาฝั่งตะวันออกของจีน และญี่ปุ่นในช่วงนี้มากกว่าปกติ (ญี่ปุ่นปีนี้เข้าสู่ฤดูฝนเร็วกว่าปกติมากๆ) เมื่อร่องความกดอากาศต่ำมันไปกระจุกอยู่ทางนั้น อากาศที่จะยกตัวทำให้เกิดฝนดังเช่นสภาวะฤดูฝนปกติในภาคเหนือจึงยังไม่มาถึง



รูปบนคือปริมาณน้ำฝนสะสมในอีก 10 วันข้างหน้า จะพอเห็นตำแหน่งของร่องความกดอากาศต่ำที่ชัดเจนและลากยาวตั้งแต่จีนตอนใต้ไปถึงญี่ปุ่น

แต่ก็ไม่ต้องกังวลใจไปครับ เท่าที่ดูมาภายในกลางสัปดาห์หน้า บริเวณความกดอากาศต่ำน่าจะมาเยือนถึงภาคเหนือได้ คงจะได้คลายร้อนกันแน่ครับ และหลังจากนั้นเดือน มิถุนายน ก็น่าจะเข้าสู่สภาวะฤดูฝนตามปรกติ



ประมาณวันอังคารสัปดาห์หน้า อุณหภูมิของเชียงใหม่น่าจะลดลง เนื่องจากฝนที่น่าจะตก


อนึ่ง สภาวะ La niña ตอนนี้ได้จากเราไปแล้ว บริเวณกลางแปซิฟิกขณะนี้กำลังอยู่ในสถานะกลางๆ ซึ่งหมายความว่าครึ่งหลังของฤดูฝน ปริมาณน้ำฝนน่าจะไม่มาก หรือไม่น้อยเท่าไหร่ แต่ก็ต้องมาตามดูว่าลักษณะอุณหภูมิผิวทะเลรอบๆบ้านเราจะเหมาะสมทำให้เกิดพายุได้มากหรือไม่ ถ้าพายุมากปริมาณฝนก็อาจจะมากได้ด้วยเช่นกัน ส่วนเลยไป 4 - 5เดือนถัดไปตอนนี้ยังออกได้ทุกหน้าว่าปลายปีจะฝนเยอะ แล้วหนาวหรือไม่ คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อๆไปครับ


Nino 3.4 ที่เป็นตัวบ่งบอกสภาวะ El niño (>0.5)และ La niña (<0.5) ขณะนี้กำลังอยู่กลางๆ ปริมาณฝนในอีก 3 เกือนข้างหน้าก็น่าจะกลางๆด้วยเช่นกัน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คุณรู้และได้ข้อมูลมาผิดไงครับ

ปีที่แล้ว พ.ค ร้อนกว่านี้อีก ภาคเหนือ น่าจะลำปาง สูงสุด 44-45 *C นะ ซึ่งปีนี้ยังไม่มี
และอีกอย่าง ความชื้นจากมหาสมุทรเมื่อพัดเข้ามาแล้ว ไม่มีทำให้ร้อนขึ้นครับ มีแต่เย็นลง นั่นคือ จะทำให้เกิดฝนหรือเมฆ นั่นก็คือทำให้เกิดเงาขนาดใหญ่ ที่สามารถกันแสงแดดได้ + กับลมพัด

ซึ่งลมประเภทนี้ เขาเรียกว่าลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดเข้ามาจริงๆ เดือนมิถุนา เป็นต้นไป ช่วงนี้เป็นแค่ลมแผ่วครับ พัดมาเป็นบางครั้ง บางคราว พอพัดมาก็เกิดฝน พอไม่พัดก็ร้อนอบอ้าวแบบตอนนี้

ส่วนเดือนเมษา ที่ไม่ร้อนเพราะมีฝนตกบ่อย มากกว่าค่าเฉลี่ยของปีอื่นๆ จริงๆมันก็ร้อนจัดเหมือนกันนั่นแหล่ะ เพราะอากาศร้อนมันร้อนมาตั้งแต่มีนาแล้วครับ หนาวมันหายไปกลางเดือนกุมภาแล้ว แต่ปีนี้มันหนาวนาน จึงทำให้เมษามีฝนตกบ่อย เพราะมวลอากาศเย็นจากจีนมันยังหลงเหลืออยู่ จึงแอบพัดเข้ามาในช่วงเดือนเมษา ซึ่งทำให้เกิดฝน+พายุฤดูร้อนทุกๆปีนั่นเอง
แต่พอเข้า พ.ค ปุ๊บ มวลอากาศเย็นที่ยังหลงเหลืออยู่ในจีนมันหมดแล้ว จึงไม่มีพัดเข้ามา จึงไม่มีฝนอะไรให้เย็นอีกต่อไป อากาศจึงร้อนขึ้นอย่างเต็มที่ ซึ่งกว่าจะมีฝนก็ราวๆมิถุนา เพราะช่วงนั้นลมตะวันตกเฉียงใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้นแล้ว ที่แรงขึ้นไม่ใช่เพราะลมมันพัดแรงขึ้นนะ ควรเรียกว่า เริ่มส่งอิทธิพลมากขึ้น น่าจะเหมาะกว่า สาเหตุเป้นเพราะอะไร มันยาวครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่