เรื่องราวระหว่างผมกับเพื่อนครับ

วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องระหว่างผมกับเพื่อนตั้งแต่ ม.ต้น ครับ ตัวผู้เขียนจะแทนด้วย T และเพื่อนคนนั้นจะแทนด้วย J หากเขียนผิดประการใดต้องขออภัยด้วยครับเป็นครั้งแรกที่ได้ลองเขียน

เริ่มเลยนะครับ

ม.1
           T เป็นเด็กนักเรียนใหม่ในชั้น ม.1 ของโรงเรียนในเพชรบุรี เป็นคนขี้อายและออกแนวเนิร์ดๆ ครับ… วันแรกที่Tเข้าห้องเรียน ม.1/1 บรรยากาศในห้องครึกครื้น ทุกคนดูเหมือนจะสนิทกันตั้งแต่ตอน ป.6 เมื่อขึ้นม.1 ก็เลยเป็นเพื่อนกันแล้ว ส่วนTและเด็กใหม่อีกไม่กี่คนยังไม่สนิทกับใคร Tเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นยาก ทำให้วันแรกที่Tเข้าไปในห้อง Tไม่ได้พูดคุยกับใครเลยและก็ไม่ได้ชวนใครคุยด้วย จนมีคนหนึ่งทักT… คนๆ นั้นคือ J ตอนนั้นTรู้สึกดีใจนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบเขาไป ยังมินเขาอีก ถ้าตอนนั้นTย้อนกลับไปได้คงทักทายเขาไปครับ
          J เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างอวบ ผิวขาว ฟันกระต่าย น่ารัก และเป็นคนไม่ค่อยพูดเหมือนT ตอนแรกเรายังไม่ได้สนิทอะไรกันมากนัก แต่เมื่อผ่านสถานการณ์ต่างๆ ในห้องเรียนและทำงานกลุ่มจนจบเทอม 1 ทำให้Tได้รู้จัก J มากขึ้น เขาเป็นคนขี้อาย โรคส่วนตัวสูง งี่เง่า ขี้งอน บางทีก็ร้องไห้ได้ง่าย มีลักษณะเหมือนคนเบื่อโลก และชอบกวนตีน แต่ข้อเสียทั้งหมดก็ถูกชดเชยด้วยข้อดีของเขา เขาเรียนเก่ง ขยันและนิสัยน่ารักมากๆ เป็นคนเฟรนด์ลี่ ขนาดTที่ดูไม่น่าคบยังชวนTคุยเลย ใจดีสุดๆ และช่วยเหลือจริงใจ ตอนนั้นTรู้สึกดีมากที่มีเพื่อนแบบเขา แต่ถึงตอนนั้นเรายังไม่ค่อยได้คุยกันมาก เพราะเราอยู่คนละกลุ่ม ถ้าเกิด… Tย้อนกลับไปได้ Tคงเข้าหา J มากกว่านี้อีกหน่อย

ม.2
          เมื่อขึ้น ม.2 Tกับ J ก็ได้อยู่ห้องเดียวกันเหมือนเดิม ปีนั้นTบังเอิญได้นั่งคู่กับเขาตลอดเทอม 1 พูดตรงๆ Tดีใจที่ได้มีโอกาสนั่งกับเขา เพราะจะได้สนิทกันมากขึ้น แต่ในใจTก็ยังแอบกังวลว่าเขาจะอยากนั่งกับTไหม วันนั้นTเลยทักไปหาจั๊กว่า “J มิงโอเคไหมที่นั่งกับกูอะ ถ้าไม่บอกได้นะ กูจะได้ย้าย” เขาตอบกลับมาว่า “ไม่เป็นไร กูก็อยากนั่งกับมิงแหละ 555” Tเลยยิ้มเล็กน้อยเพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องรู้สึกผิดกับเขา
          ในเทอมนี้ นิสัยของ J เริ่มแปลกๆ เหมือนเขาจะมีความรัก เขาทักหาTบ่อย บางครั้งTก็ไม่ตอบ แต่วันหนึ่งTลืมตอบเขาไป เขาก็โกรธแล้วทักมาว่า “เดี๋ยวกูย้ายที่นั่งเอง” จากนั้นเราก็แยกที่นั่งกัน เพื่อนๆ ในห้องก็แปลกใจเพราะเราทั้งสองดูสนิทกัน วันๆ มันก็ยังไม่หายโกรธTจนTต้องไปขอโทษเขา สุดท้ายเขาก็ยอมกลับมานั่งด้วยกันอีก
          ในเทอม 2 Tกับ J เริ่มสนิทมากขึ้น เราคือเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน วันหนึ่งTทำปากกาลายแมวที่ยืมจาก J พังไป เขาก็โกรธT Tรู้สึกผิดมากเลย และหาปากกาใหม่มาให้เขาหลายที่ แต่ก็หาไม่เจอ จนก่อนปิดเทอม 2 Tได้สั่งเซตปากกาลายแมวมาให้เขา แต่สุดท้ายก็ลืมให้เขา Tรู้สึกผิดที่สุดในชีวิตวัยเรียน จนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกผิดกับเขา

ม.3
          ในปีนี้ Tกับ J เริ่มแยกที่นั่งกัน แต่ก็ยังคุยกันทั้งในโรงเรียนและในแชท เราทั้งคู่เริ่มมีคนที่ชอบ ทำให้บทสนทนาของเรามักจะเกี่ยวกับเรื่องความรัก เราทั้งคู่เริ่มเข้าวงการวิ่ง ส่วนTเริ่มเล่นบาส ทำให้เราได้เจอกันนอกโรงเรียนบ่อยขึ้น Tจะนัดเขาไปวิ่งด้วยกัน หลังจากวิ่งเสร็จเราก็จะนั่งคุยกัน ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก เพราะTได้ทั้งเพื่อนออกกำลังกายและได้คุยกับเขาด้วย
          เมื่อใกล้จบเทอม J เริ่มมาปรึกษาTเกี่ยวกับการเรียนและการเรียนต่อ เขาค่อนข้างไม่มั่นใจและกลัว Tคอยปลอบเขาและพูดคุยกับเขาให้เขาหายเครียด ในเทอม 2 Tกับ J เริ่มคิดถึงอนาคตในการเรียนต่อ Tอยากเข้าโรงเรียนประจำจังหวัด ส่วนเขาวางแผนจะเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดอีกที่ เราทั้งคู่คอยให้กำลังใจกันและกัน
          ในวันปัจฉิม Tตัดสินใจให้ของขวัญกับคนที่แอบชอบ ส่วน J ก็ไปขอถ่ายรูปกับคนที่เขาชอบ ถือเป็นความทรงจำที่ดี ก่อนจากกัน หลังงานปัจฉิม Tกับ J ได้นั่งด้วยกันที่โรงอาหาร รอพ่อแม่มารับ เขาร้องไห้และกอดT บอกว่า “ตลอดเวลาที่กุทำอะไรให้กูขอโทษนะ” Tก็น้ำตาคลอและบอกเขาว่า “ไม่เป็นไรเว้ย มิงจะเป็นไงกูก็ยังรักมิงเหมือนเดิม ไว้ว่างๆ มาวิ่งด้วยกันนะ” จากนั้นพ่อแม่ก็มาและเราก็จากกันด้วยความสุข

ช่วงปิดเทอมก่อนขึ้น ม.4
          ในช่วงนั้นTตัดสินใจเลือกเรียน ปวช สาขาคอมธุรกิจ ที่วิทยาลัยอาชีวะ เพราะTสอบไม่ติดโรงเรียนที่หวัง ส่วน J นั้นสอบติดโรงเรียนที่หวังไว้ ก็เลยได้เรียนที่นั่น Tกับมันยังติดต่อกันในช่วงปิดเทอมอย่างสม่ำเสมอ ทั้งคุยเรื่องไร้สาระ ชวนเล่นเกม และคุยเรื่องความรัก เราสองคนยังชวนกันไปวิ่งบ่อยๆ
Tวิ่ง และเล่นบาสด้วย ช่วงปิดเทอมใหญ่ชีวิตค่อนข้างน่าเบื่อ แต่ดีที่กลุ่มเพื่อนชวนไปเที่ยวกัน ครั้งหนึ่งเราก็ไปนอนค้างบ้าน J ถือว่าสนุกมาก

เข้าสู่ช่วง ม.4
          ทั้งTและมันเริ่มเปิดเทอมและเจอสังคมใหม่ๆ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาคุยกัน ตอนนี้Tเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากดูดีขึ้นและเรียนให้ดีขึ้น ส่วนมันเริ่มเครียดในการปรับตัว จึงทักมาหาT เราก็คุยกันจนมันเริ่มปรับตัวได้ Tกับมันยังเจอกันในช่วงที่เรียน ร.ด. หรือการนัดไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน แต่บางครั้งTก็ยังรู้สึกคิดถึงมันอยู่
          จนกระทั่งมีครั้งหนึ่งที่มันทักมาหาTเยอะมาก แต่Tดันหลับ พอตื่นมามันก็ลบข้อความไปหมด Tเลยทักไปถามว่า

T: "มีอะไร"
J: "ไม่ต้องแล้ว เรื่องมันจบแล้ว"
T: "เป็นไรมิง มีเรื่องอะไร"
J: "กูจะจำมิงไว้"

          จากนั้นมันก็ไม่ตอบTเลย Tก็ไม่รู้มันเป็นอะไร จึงไปถามเพื่อน เพื่อให้รู้ว่ามันส่งสตอรี่ไอจีมา ที่เขียนว่า "ประโยชน์ของเพื่อนคืออะไร" ตอนนั้นTโกรธมาก โกรธจากความงี่เง่าของมัน Tเลยโหลดไอจีเพื่อไปคุยกับมัน แล้วTหัวร้อนมาก เลิกคุยกับมันไปเลย ผ่านไปหลายเดือนจนเราไม่คุยกันนานขนาดนี้ Tก็ถามเพื่อนว่า มันเป็นยังไงบ้าง มีครั้งหนึ่งที่เราได้เจอกันที่สัสดีเพื่อเอาใบเกี่ยวกับ ร.ด. Tก็เจอมันในรอบหลายเดือน แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้คุยกัน ได้แค่มองหน้ากัน แล้วก็ลากยาวจนถึง ม.6

ช่วงปิดเทอมก่อนขึ้น ม.6
          T เริ่มหางานพิเศษทำ เพราะอยากหาเงินใช้ จนได้งานขายนมเปรี้ยวที่สี่แยกไฟแดง เป็นงานแรกที่ T ได้ทำ ระหว่างนั้น T ยังไม่ได้คุยกับ J แต่แล้ว T ก็นึกขึ้นได้ว่า บ้าน J แถวนั้น T เลยทักไปหามันว่า "มาซื้อได้นะ ถ้าไม่เกลียดT" T ไม่คิดว่ามันจะตอบ แต่ก็มีเสียงแจ้งเตือนเด้งขึ้นมา J ตอบว่า "อ้าว ที่ไหนวะ" ตอนนั้น T ตกใจและก็ทักตอบไป T บอกสถานที่ให้มันมา หลังจากนั้นเราก็คุยกัน และได้ปรับความเข้าใจกัน

T: "ทีแรกก็นึกว่ามิงจะตอบว่า 'กูเกลียดมิง' 5555"
J: "555 ครั้งนั้นกูผิดเอง มันเป็นเรื่องของกูเอง"
T: "กูก็ขอโทษนะที่ทักไปกวนตีนออกแนวหาเรื่องมิงในไอจีอะ"
J: "กูก็ผิดเหมือนกัน"

          จากนั้นเราก็คืนดีกัน ในวันนั้นที่ T ขายนมเปรี้ยวที่สี่แยก J ก็ได้มาหา T พร้อมซื้อของให้ T และซื้อนมเปรี้ยวจาก T ตอนนั้นดีใจมากที่มันมาหา เราก็คุยกันจนมันกลับ หลังจากนั้นมันก็เริ่มเล่าเรื่องต่างๆ ให้ T ฟัง บอกว่า มันบล็อคการติดต่อเพื่อนทุกคนตอนนั้น แต่ตอนนี้คุยแค่กับ T เราก็เริ่มคุยกันมากขึ้นเหมือนทดแทนเวลาที่ไม่ได้คุยกัน

ปัจฉิมนิเทศ
          ก่อนวันปัจฉิม T ทักไปหามันว่า "มางานปัจฉิมด้วยนะ" และเมื่อถึงวันงานมันก็มาหา T จริงๆ พร้อมกับเอาขิงมาให้ จากนั้นเราก็ถ่ายรูปคู่กัน และปัจฉิมก็ผ่านไปด้วยความสุข

ก่อนเปิดเทอมเข้ามหาลัย
          ตอนนี้ T กับ J ต่างคนต่างเรียนที่ต่างจังหวัด J เรียนที่ ม. KU ส่วน T เรียนที่ ม.RU  เราติดต่อกันน้อยมาก แต่ก็เข้าใจได้ เพราะต่างคนต่างก็มีหน้าที่ของตัวเอง จนถึงช่วงก่อนเปิดเทอม

ปี 1
          T เริ่มเรียนในคณะที่ชอบ ส่วน J ยังบอกว่ามันไม่ได้เรียนในคณะที่ตัวเองชอบ T ก็คอยคุยและปลอบมัน ส่วนตัว T ไม่มีเพื่อนเลย เพราะ ม.รามมีลักษณะสังคมแบบนั้น การหามิตรสนิทค่อนข้างยาก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มห่างกัน T ทัก J บ่อย แต่มันไม่ค่อยตอบ ตอนนั้น T โกรธเลยไม่ได้ทักมัน แต่สิ่งที่น้อยใจคือ มันไม่ตามง้อ T T เลยเลือกที่จะเงียบ จนถึงเวลากลับบ้าน กลุ่มเพื่อนนัดไปงานรำวงที่บ้านเพื่อน T ได้เจอ J กลุ่มเพื่อนคงรู้ว่าทั้งคู่ทะเลาะกันเลยช่วยให้คืนดีกัน และครั้งนี้ T ก็ได้ลองดื่มเหล้า ซึ่งทำให้ทั้งคู่กลับมาคุยกันเหมือนเดิม

ปี 2
          T ขึ้นปี 2 ส่วน J ก็คล้ายกับ T ในช่วงนี้เราก็ยังคุยกันบ้าง แต่ไม่บ่อย J ชอบมาหา T เรื่องความรักและเรียน T ก็พยายามเป็นที่ปรึกษาให้มัน ตอนนี้ T รู้สึกแปลกๆ กับตัวเองเกี่ยวกับ J แต่ก็ไม่สนใจเพราะไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร

ช่วงสงกรานต์
          T กลับบ้านและ J ก็กลับบ้านเช่นกัน ในช่วงนี้เพื่อนในกลุ่มได้ชวนไปงานรำวงที่บ้านของเพื่อนคนหนึ่ง T ได้เจอ J ในงานนั้น ซึ่งเป็นครั้งแรกในหลายเดือนที่ทั้งคู่ได้เจอกัน เราคุยกันในช่วงกลางคืน โดยที่เพื่อนในกลุ่มได้ชวนไปหาสาว แต่ J ไม่ได้ไป และอยู่บ้านเพื่อนแทน หลังจากที่ไปหาสาวแล้ว เรากลับมาที่บ้านของ J และในขณะที่อยู่ที่นั่น เพื่อนในกลุ่มพูดขึ้นว่า "พวกมิงอะ ดูดิไอ J มันอุตสาห์มาเพื่อมาเจอพวกมิง แต่พวกมิงกลับไปหาสาว ปล่อยให้มันรอ" ตอนนั้น T รู้สึกผิดมากเลยตัดสินใจนอนที่บ้านเพื่อนกับ J และขอโทษมันในวันนั้น เพราะรู้สึกว่ามันไม่ได้รับความสนใจจาก T ตามที่สมควร ในขณะที่มันคอยรอ T หลังจากนั้น T รู้สึกผิดและตัดสินใจทำให้มันรู้ว่าขอโทษและยังใส่ใจมันอยู่

ช่วงวันหยุดไปเที่ยวแก่ง
          วันนั้นเป็นวันที่ T กับ J หยุดตรงกันพอดี เราเลยตัดสินใจไปเที่ยวที่แก่งด้วยกัน ซึ่งเป็นที่ที่ T ไม่ค่อยคุ้นเคยและก็ไม่ได้ว่ายน้ำเก่งด้วย T กลัวน้ำลึกมาก ตอนแรกๆ ที่เล่นน้ำก็ยังโอเค แต่พอเวลาผ่านไปเท้าของ T เริ่มไม่สามารถแตะพื้นได้ ทำให้ T เริ่มรู้สึกกลัวสุดๆ จนเริ่มไม่มีสติและรู้สึกเหมือนจะจมน้ำไปแล้ว แต่โชคดีที่ J คอยจับมือ T และคอยปลอบ T ตลอด มันพูดว่า “ไม่เป็นไรหายใจลึกๆ นะ” มันคอยดูแล T ไม่ห่างจนสามารถพา T ขึ้นฝั่งได้สำเร็จ T รู้สึกขอบคุณมันมากที่อยู่เคียงข้างและช่วยเหลือ T ในตอนนั้น ถ้าไม่มีมัน T ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ความรู้สึกของ T ในตอนนั้นเริ่มชัดเจนขึ้นว่ารู้สึกพิเศษกับมันมากๆ

วันกลับมหาลัย
          วันที่ T จะต้องกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัย T ได้ไปรอเมล์ และบังเอิญเจอ J ที่ท่ารถเมล์ ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันและคุยกันจนถึงเวลาที่รถมาถึง ระหว่างที่รอ T ตัดสินใจให้กระบองเพชรเล็กๆ ให้กับมันเพื่อแสดงความขอบคุณถึงเรื่องที่มันคอยช่วยเหลือ T ในวันที่ไปเที่ยวแก่ง มันรับกระบองเพชรจาก T และเราก็คุยกันต่อไปจนถึงเวลาที่มันต้องขึ้นรถกลับ หลังจากนั้น T ก็เดินไปส่งมันที่รถ และทั้งคู่ก็กล่าวคำลาครั้งสุดท้ายในวันนั้น ตอนนั้น T รู้สึกว่าความรู้สึกของ T ต่อมันเริ่มชัดเจนขึ้นและไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป T เริ่มรู้แล้วว่า "T ชอบมันเข้าให้แล้ว"

ครั้งสุดท้าย
          หลังจากที่ T กลับมาที่มหาวิทยาลัยแล้ว ทั้งสองคุยกันบ้าง แต่ความรู้สึกของ T เริ่มไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป T เริ่มอยากคุยกับมันมากขึ้น อยากข้ามคำว่า "เพื่อน" แต่ T ก็ห้ามใจตัวเองเพราะรู้ว่ามันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว T จึงเลือกที่จะคุยกับมันเหมือนเดิม แต่ช่วงนี้มันยุ่งมากจนไม่ค่อยตอบข้อความ T เลยรู้สึกนอยด์และไม่ได้ทักหามันไปเลยสักระยะ จนถึงวันที่ T ตัดสินใจทักมันไปถามว่า "มีอะไรปรึกษากูได้บ้างนะ" แต่มันกลับตอบกลับมาว่า "ขอโทษที่ไม่ได้ตอบ ไม่ได้คุย ช่วงนี้มันเยอะจริงๆ" T ก็เลยตอบไปว่า "ไม่เป็นไร มิงพักเถอะ" หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย T พยายามทักหามัน ส่งมีมต่างๆ ให้มันดู แต่ก็ไม่มีการตอบกลับมาจากมันเลย จนถึงครั้งสุดท้ายที่ T ตัดสินใจปรึกษามันเกี่ยวกับเรื่องที่ T จริงจังมาก T หวังว่าจะได้คำตอบจากมัน แต่มันอ่านแต่ไม่ตอบ T จึงตัดสินใจบล็อกการติดต่อกับมันทั้งหมดไปเลยและไม่ติดต่อมันอีก ด้วยหวังว่ามันทักมาหา T เอง แต่สุดท้าย... ทั้งคู่ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกจนถึงวันนี้

บางคำอาจเขียนไม่ถูกหรือว่าผิดพลาดอ่านแล้วขัดตาเพียงใด ต้องขออภัย ณ ที่นี่ด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่