ท้องผูก กับ ท้องแก้

ผมเป็นคนแก่ อายุ 64 ปี มีปัญหาท้องผูกมานานนับ 10 ปี แต่มาสองปีให้หลังนี่เป็นหนัก จึงอยากมาเล่าแบ่งปันประสบการณ์ให้ฟัง หลักจากที่ได้อ่านข้อมูลมาจากมากมายหลายที่ ทั้งของไทยและของฝรั่ง

1. เนื่องจากท้องผูกไม่ได้เจ็บถึงขึ้นเลือดตกยางออก เราจึงมักไม่ค่อยอยากไปพึ่งหมอ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องความกระดากอาย ไม่มากก็น้อย เราย่อมไม่รู้สึกสะดวกปากสะดวกใจที่จะบอกหมอว่า "หมอครับ ผมอึไม่ออกมาหลายวันแล้ว"

2. ทีนี้ที่ตามมากก็คือ เรามักแก้ปัญหาไม่ตรงจุด
เนื่องจากร่างกายของแต่คะคนไม่เหมือนกัน บางคนธาตุหนัก บางคนธาตุเบา หรือแม้แต่คนคนเดียวกัน ถ้าต่างเวลา ยาที่เคยใช้ได้ผล ก็อาจไม่ได้ผลอีกแล้วก็ได้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงสาเหตุจริงๆ ที่ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก
ฉะนั้น ยาระบายบางชนิดอาจส่งผลสำหรับบางคน แต่ก็ไม่สำหรับทุกคนไป ส่วนอาหารที่เป็นยาระบายธรรมชาติ เช่น น้ำมะนาว, มะขามเปียก ฯลฯ ก็ไม่ใช่ว่าจะช่วยได้ทุกคน

3. เรามักใจร้อน
จากประสบการณ์ตรง ผมพบว่า การแก้ปัญหาท้องผูกต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-7 วัน จริงอยู่ว่า บางคนอาจเร็วกว่านั้น แต่การคิดแบบ 3-7 นี้ช่วยทำให้ไม่เครียด และไม่เร่งรัดเวลาเกินไป ความเครียดนี่แหละส่งผลสำคัญต่ออาการท้องผูก พูดง่ายๆ ว่า ถ้าไม่เครียดและสามารถนอนหลับไปเกินวันละ 8 ชั่งโมง นั่นก็ช่วยแก้ปัญหาไปได้กว่าครึ่งแล้ว

4. ยาระบาย
อันนี้โยงกับข้อ 3. คือความใจร้อน จริงอยู่ว่า โดยปกติแล้วยาระบายส่วนใหญ่จะช่วยได้ แต่ก็ต้องเลือกชนิดของยาระบายให้ถูกด้วยว่า จะไปช่วยกระตุ้นลำไส้ หรือช่วยทำให้อุจจาระอ่อนตัวลง ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ของผม ถ้าท้องผูกมานานจนอุจจาระแข็งตัวสะสม ผลก็คือ แม้ยาระบายจะช่วยทำให้อยากถ่าย แต่ยังไงก็ถ่ายไม่ออก ทางออกสุดท้ายก็คือ ต้องเอาชนะความอาย และใช้ยาสวนทวารช่วย จริงๆ ยาสวนทหารก็เป็นแค่น้ำเกลือ ไม่มีตัวยาร้ายแรงอะไร โดยจะไปช่วย "ละลาย" อุจจาระที่แข็งตัวสะสม ให้ถ่ายออกมาได้ง่าย (นี่พูดจากประสบการณ์จริงครับ 555) อย่างไรก็ตาม ควรใช้เป็นคำตอบสุดท้ายจริงๆ เพราะวิธีนี่อาจทำให้ระบบการถ่ายของเราแปรปรวนไปเลยทีเดียว

5. หาต้นเหตุจริงๆ ให้พบ
ว่าเป็นลำไส้แปรปรวน หรือถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบหรือเปล่า จนทำให้เกิดอาการท้องผูกขึ้น? พูดง่ายๆ ก็คือ สำไส้แปรปรวนเกิดจากการกินอาหารที่ย่อยยาก หรือใช้เวลาในการย่อย (เช่น ผัก ผลไม้ ฯลฯ) ทำให้ลำไส้ต้องสร้างตัวช่วยจนเกิดแก๊สในลำไส้ขึ้น และส่งผลให้เกิดการถ่ายไม่ออกตามมา ส่วนถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบก็คล้ายๆ กัน แต่อาการเห็นได้ชัดกว่า คือลำไส้ใหญ่ (ท้องด้านซ้าย ต่ำกว่าสะดือ) จะปวมปูดขึ้นมาจนเห็นได้ชัด ไม่ถึงกับปวดรุนแรงจนทนไม่ได้ และถ้าหนอนหงาย อาการก็จะดีขึ้นหรือหายไปเอง    
จะเห็นได้ว่า ถ้าอาการท้องผูกเกิดจากข้อนี้ การกินอาหารที่มีเส้นใยมาก ๆ เช่น ผัก ผลไม้ นอกจากไม่ช่วยแล้ว กลับทำให้อาการปวดยิ่งแย่ การณ์จึงกลับกลายเป็นว่า เราต้อง "ควบคุม" การกินอาหารที่มีเส้นใย หรือที่ทำให้มีแก๊สในลำไส้เยอะ จนกว่าอาการจะดีขึ้น จึงค่อยกลับไปเริ่มกินใหม่

สรุปก็คือ ต้องวางแผนในระยะยาว อย่าแก้ปัญหาแค่ระยะสั้น
เท่าที่ค้นคว้าข้อมูลมาเยอะแยะ และที่ทดลองกับตัวเองนะครับ
1. น้ำครับน้ำ ดื่มเข้าไป วันละ 8 แก้วเป็นอย่างน้อย (อันนี้ แทบทุกข้อมูลเห็นตรงกันหมด) หรือมากกว่านั้นก็ยิ่งดี อย่าไปกังวล ร่างกายจะขับออกมาเป็นปัสสาวะเองแหละ นี่เป็นวิธีดีที่สุดตามธรรมชาติที่จะทำให้อุจจาระอ่อนตัวและถ่ายง่าย
2. นอนให้พอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง
3. ไม่ว่าจะมีปัญหาข้อ 5 (ลำไส้แปรปรวน หรือถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ) หรือไม่ การกินอาหารถือว่าสำคัญมาก การกินผักและผลไม้มากๆ คือคำตอบที่แท้จริงสำหรับปัญหาเรื่องท้องผูก  

ผมสามารถรับรองได้ว่า ข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวถึงในที่นี้ ได้ค้นคว้ามาเป็นอย่างดี ทั้งจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งได้ทดลองมากับตัวเองแล้ว อย่างไรก็ตาม ผมย่อมไม่สามารถรับรองได้ว่า ต้นเหตุแท้จริงของอาการท้องผูกของคุณที่เข้ามาอ่านเกิดมากจากอะไร และตราบเท่าที่ยังไม่รู้ต้นเหตุที่แท้จริง เราเราไม่สามารถแก้ไขอาการท้องผูกได้
ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า (ยืนยันตรงนี้ว่า ผมไม่ใช่หมอ แค่เป็นแค่คนป่วย) ถ้าผมตัดสินใจไปปรึกษาหมอแต่แรก ก็คงไม่ต้องเสียเวลามากมายมาลองกับตัวเองแบบนี้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงความทรมาทรกรรม 555
สรุกอีกครั้งก็คือ ต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุดครับ และต้องแก้ในระยะยาวด้วย คืออย่าทำตัวแบบเดิมๆ กินอาหารแบบเดิมๆ ไม่งั้นอาการท้องผูกก็จะเวียนกลับมาใหม่ไม่สิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่สะดวกจะไปพึ่งหมอจริงๆ ขอให้ใช้วิธีธรรมชาติแก้ไขครับ (ไม่ว่าจะพึงยาระบายหรืออาหารช่วยระบายหรือไม่ก็ตาม) นั่นก็คือ นอนให้พอ อย่าเครียด ดื่มน้ำมากๆ และกินผักผลไม้ที่มีเส้นใย ฯลฯ ที่สำคัญอย่าไปเร่งหวังผล ยิ่งเร่งยิ่งเครียด ยิ่งเครียดก็ยิ่งท้องผูกครับ  

ป.ล. ผมไม่สะดวก log in เข้ามาตอบ ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า แต่ก็จะพยายามแวะเวียนเข้ามาอ่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่