คุณมีความผูกพันธ์กับบ้านหลังแรกที่เติบโตมากันแค่ไหน ไม่ว่าจะมีความทรงจำที่ดีหรือเลวร้าย ในบ้านหลังนั้น

สำหรับผม บ้านหลังแรกคือบ้านของคุณพ่อผม
ผมโตมาที่บ้านหลังนั้นตั้งแต่จำความได้ วัยอนุบาล วัยประถม วัยมัธยม ยันวัยมหาลัย ผมก็อยู่ที่บ้านหลังนั้น
แต่คุณพ่อเสียชีวิตด้วยโรคตับแข็ง ตั้งแต่ผมอายุ 18 ตอนกำลังใกล้เรียนจบ ผมก็อยู่บ้านหลังนั้นกับคุณแม่เพียงสองคน (ผมเป็นลูกคนเดียว)
ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ แม่อยากย้ายกลับไปอยู่บ้านที่นอกตัวเมือง ห่างจากอำเภอเมือง 30 กว่ากิโลเมตร เนื่องจากคุณตากับคุณยายเริ่มอายุเยอะ และทำอะไรไม่ค่อยสะดวก แม่ผมอยากไปอยู่ใกล้ๆพ่อท่าน ผมก็ไม่ติดขัดอะไร ก็เลยต้องเป็นไปตามนั้น

แม่โอนบ้านหลังนี้ให้เป็นชื่อผม ตอนผมอยู่มหาลัยปี 2 หรือย่างเข้า 20
และผมก็อยู่บ้านหลังนั้นคนเดียวมาตลอด แต่ก็กลับไปหาแม่ที่บ้านตากับยายบ้าง แต่ไม่ทุกอาทิตย์ เพราะผมก็มีไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง แต่ก็คุยกับแม่ตลอดในไลน์

จนผมเรียนจบและตะลอนหางานในจังหวัดบ้านเกิด และก็ได้งานทันที หลังจากที่พักว่างๆ หลังเรียนจบปี4 อยู่ 1 เดือน ก็ตัดสินใจหางานตามเว็บต่างๆ ตอนแรกแม่ผมจะให้ไปทำที่หน่วยงานราชการ คือจะฝากผมนั่นแหละ เพราะญาติของแม่ก็ทำงานอยู่ในนั้นมาหลายปีในตัวเมือง เป็นที่ที่ศูนย์ราชการใจกลางจังหวัดเลยก็ว่าได้ ใหญ่โตพอควร

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทำงานไปได้สักพัก จนเริ่มมีเงินเก็บมากขึ้นในช่วงตั้งแต่ 29 ปีขึ้นไป + งานเสริมอื่นที่ผมทำจากข้างนอกมาทำเอง รายได้เสริมต่อขั้นต่ำ 3 หมื่น แต่ผมทำในวันหยุด ทำเป็นจ็อบๆไป ถ้าเยอะแล้วก็จะไม่รับหรือรับแต่แจ้งกำหนดว่าเสร็จวันไหน ไม่ให้กระทบกับงานประจำ แต่เดือนนึงรับงานนอก 3-4 เจ้าเท่านั้น (งานเกี่ยวกับกราฟิกล้วนๆ) ไม่งั้นผมไม่ได้นอนแน่นอน เพราะผมนอนไม่ดึก 4 ทุ่มเข้านานแล้ว เลิกงาน 5โมงเย็น หลังจากนั้นคือทำงานเสริม

ช่วงนั้นมีงานตลอดแน่นทุกอาทิตย์ แต่ก็พยายามทำให้เสร็จตามเดทไลน์ที่คุยกับลูกค้าไว้ เพราะงานประจำก็อยู่ในเวลา ผมมาทำนอกเวลาเอา แต่ช่วงนั้นยอมรับว่าเหมือนทำงานใช้หนี้ แต่ไม่มีหนี้ คือรับงานเอาสนุกเอาสังคม แต่เงินก็ต้องได้นะ555

พอเริ่มมีเงินเก็บมากขึ้น ประจวบกันตอนนั้นเป็นช่วงโควิดกำลังระบาดหนัก และผมได้ WFH ยาวๆไม่มีหนดพอดี
และคุณตาจะยกบ้านหลังที่แกอยู่กัน 3 คน ตายายและแม่ผม ให้กับผมไว้ดูแลต่อ (ตากับยายเป็นข้าราชการเกษียณ)  
แกมาขายให้ผม 3 แสนบาทรวมที่ดินที่อยู่ในแผนที่ทั้งหมดแกขายให้หมดเลย แต่ผมก็ไม่ได้ให้แค่นั้นยังมีให้อีก

หลังจากนั้น ผมก็ตัดสินใจย้ายออกจากบ้านในเมืองที่ทำงานอยู่ และกลับมารีโนเวทบ้านหลังที่ตาขายให้ และผมจะย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
ลงทุนรีโนเวทหมดไปล้านกว่า  บ้านสองชั้น ก็รีมันทั้งหลังไปเลยทุ่มสุดตัวมาก เพราะเป็นบ้านผมแล้ว คือเต็มที่มาก
พอรีเสร็จ ผมก็ขนของย้ายออกมาอยู่บ้านนอกตัวเมือง อยู่ไปจนเริ่มผูกพันธ์บ้านหลังนี้มากเพราะผมได้เห็นหน้าคนที่ผมรักทุกๆวัน ทำให้มีกำลังใจทำงานขึ้นมากกว่าเดิมเวลาเหนื่อยๆ เหมือนผมได้อยู่ใน Safe Zone ที่ดีตลอดเวลา รู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน

และบ้านในเมืองที่ผมย้ายออกมา ผมตัดสินใจปล่อยเช่า ให้ใครก็ตามที่หาที่อยู่ในราคาเอื้อมถึง แน่นอนกว่าถูกกว่าคอนโดแน่นอน แต่แพงกว่าหอพักนิดหน่อย หลังจากเปิดให้เช่า บ้านหลังนั้นก็ไม่เคยว่างอีกเลย แต่ก็ต้องคัดเลือกผู้เช่าให้ดีและสัญญาการเช่าต้องรัดกุม ต่อตัวเราเองด้วยครับ (ได้คำแนะนำจากเจ้านายที่ทำงาน) เป็นการให้คำแนะนำที่ดีมากๆ ทำให้ผมไม่ได้รับผลกระทบเรื่องการเปิดบ้านเช่าเลยสักอย่าง แต่เป็นผู้เช่าเองต้องเป็นฝ่ายทำตามกฎไม่งั้นอ่วม

แม่ผมเปิดร้านอาหารตามสั่งอยู่ที่บ้าน โดยใช้พื้นที่ตรงหน้าบ้าน เอารั้วออกแล้วทำสร้างเป็นร้านอาหาร มีโต๊ะให้ลูกค้าได้นั่งทานที่ร้าน อากาศถ่ายเทสะดวก เป็นความคิดของผมเอง แต่หน้าร้อนช่วงมีนา-พฤษภา ก็อาจจะร้อนหน่อย เพราะจังหวัดผมขึ้นชื่อเรื่องร้อนอยู่แล้ว แต่อาจจะแพ้ลำปางนะ555

แต่ผมก็รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านตลอด ทั้งค่าไฟค่าน้ำ ค่าอาหารแห้ง ค่าของใช้ เครื่องครัวต่างๆ เฟอร์นิเจอร์ ผมเป็นคนรับผิดชอบหมด
ส่วนร้านอาหาร แม่แกบริหารจัดการเอง ผมจะไปส่งแกแค่ตอนซื้อของเข้าร้านเท่านั้นครับ ที่ร้านมีตู้เย็น กับตู้แช่ไว้สำหรับเก็บอาหาร เปิด/ปิดร้านได้ มีประตูเดินออกเข้าบ้านจากหลังร้านได้ ปลอดภัย หน้าร้านเป็นประตูม้วนดึงจาก ล็อคกุญแจจากด้านใน ล็อคเสร็จเดินออกจากประตูหลังบ้าน ก็คืออยู่ในบริเวณในบ้านแล้ว เหมือนอยู่ในบ้านตลอดเวลา แค่มีบ้านอีกหลังตรงหน้าบ้าน (ร้านอาหาร)

เงินที่สร้างร้านอาหารให้แม่ คือเงินผมทั้งหมด อยากให้แม่ได้ทำอาชีพที่แกรัก และมันเป็นความชอบของแก แม่ผมชอบทำอาหาร ฉะนั้นการเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง เป็นทางเลือกที่ดีที่จะทำให้แม่ไม่เหงา ได้ทำงานได้มีสังคม(ลูกค้า)รู้จักมากมาย มีเพื่อน แถมมีอาชีพ มีรายได้ส่วนตัวของแกเอง นอกเหนือจากเงินส่วนตัวที่ผมให้แกใช้

จริงๆก็สารภาพว่าไม่ค่อยให้ได้เงินแกรายเดือน เพราะให้ทีไรแม่จะแอบโอนเข้าบัญชีผมตลอด นี่คือนิสัยของแก แล้วบัญชีธนาคารของแก แกก็ยังให้ผมดูแลอีก ฉะนั้นผมจะรู้การเคลื่อนไหวของเงินตลอด แกไว้ใจผมมาก ผมเลยคิดว่ามันก็ดีอย่างนึงเพราะเดี๋ยวนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ มิจฉาชีพเยอะด้วย ผมดูแลก็จะปลอดภัยขึ้นอีก  

อีกอย่างที่ทำร้านอาหารให้แก ก็เพราะจะได้ไม่ต้องเช่าพื้นที่ใครให้เสียเงินค่าเช่า ค่าเช่าร้านมันก็แพงมากสมัยนี้ ขนาดอยู่ตามบ้านนอก ร้านห้องเช่าตามตึกในตลาดคือเป็นหมื่นๆขึ้นต่อเดือนทั้งนั้น

การจะเปิดร้านขายอาหารตามสั่งหรืออะไรก็ตาม ถ้าลดต้นทุนเรื่องต้นทุนค่าเช่าร้านได้ จะทำให้ได้กำไรมากขึ้นและไม่เครียดอีกด้วย

ที่บ้านผม พาไปตรวจสุขภาพตลอดตามหมอนัด ไม่มีใครเป็นไขมันในเลือดสูงสักคน แต่ตากับยายเป็นความดันสูง
ผมไม่ยอมให้แม่ผมเป็นความดัน มาเครียดเรื่องค่าเช่าที่หรอก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่