JJNY : เท้งอัดคืนไม่ควรพูด│“ณัฐพงษ์”ห่วงภาพลักษณ์ไทย│สภาอุยกูร์โลกยินดี มะกันลงดาบไทย│เวียดนามเซ็นข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ

เท้ง รับห้ามไม่ได้ ถ้าทักษิณรำคาญ อัดคืนไม่ควรพูด เดี๋ยวเสียไปอีกพรรค ใบ้คำใหม่ในญัตติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5092987
.
.
“เท้ง” เย้ย “ทักษิณ” บอกคงห้ามไม่ได้ ถ้ารำคาญ ปชน. บอกทำตัวเอง ไม่ได้เกิดจากใครเลย ถึงถูกบรรจุชื่อซักฟอก ตอก “เพื่อไทย” ต่างหาก ตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องรอกลับไปคุยผู้มีอำนาจตัวจริง ยืดอก ประชุมร่วม หน.พรรคประชาชน คุยเองทุกครั้ง ลั่น คุณทักษิณอาจจะยังไม่ทราบ! อบจ.ลำพูน ผมมีส่วนสนับสนุน เผยถ้าเปลี่ยนสูตร 23+7 ก็รอมาคุย ปัดตอบเปลี่ยนชื่อในญัตติเป็นอะไร บอกใบ้ ลองไปตามดู ท่านประธานสภาเคยให้ข่าว
.
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่วิจารณ์พรรคประชาชนหลังระบุชื่อลงไปในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า นายทักษิณเอง ก็ให้สัมภาษณ์ข่าวหลายครั้งว่า ตัวเองมีส่วนในการบริหารราชการแผ่นดิน คนที่เป็นบุคคลสาธารณะ เข้าถึงอำนาจของรัฐ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ย่อมต้องถูกตรวจสอบ ถ่วงดุลได้
.
การที่พวกเราบรรจุชื่อคุณทักษิณเข้าไปในญัตติ ไม่ได้เกิดจากใครเลย เกิดจากการกระทำของตัวคุณทักษิณเอง ที่ต้องถูกตรวจสอบโดยฝ่ายนิติบัญญัติเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายกรัฐมนตรี ที่ปล่อยให้ผู้เป็นบิดาคอยชี้นำชักใยตัวเองในการบริหารราชการแผ่นดิน” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
เมื่อถามว่า นายทักษิณ ใช้คำว่า น่ารำคาญ แสดงว่า น่าจะฟิวส์ขาดใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า “ท่านจะรู้สึกรำคาญหรือไม่ ผมคงห้ามไม่ได้ แต่ถ้าดูตามการให้สัมภาษณ์ ท่านเองก็บอกว่า ถ้าพรรคคนรุ่นใหม่ เราทำงานแบบนี้ อาจจะเสียไปอีกพรรค ผมก็ไม่แน่ใจว่าเสียไปอีกพรรคหมายถึงอะไร ถ้าหมายถึงเสี่ยงที่จะถูกยุบพรรค ท่านเองก็ไม่ควรพูด ในฐานะที่ท่านเองเคยถูกยุบพรรค ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง น่าจะเข้าใจหัวอกของคนที่โดนยุบพรรคด้วยกัน แต่ถ้าท่านหมายถึงเสียคะแนนนิยม ผมคิดว่า คงตัดสินแทนประชาชนไม่ได้
.
ส่วนที่ นายทักษิณระบุว่า ฝ่ายค้านรีบไป ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 2 ปี นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่า ช้าเกินไปด้วยซ้ำในการถ่วงดุลตรวจสอบ กระบวนการอภิปรายที่ล่าสุดยังไม่ได้ข้อสรุป ทำให้สังคมยังต้องรออยู่ว่าจะเดินหน้าได้หรือ ทั้งที่พวกเราบอกว่า เรามีความพร้อมเดินหน้าเต็มที่ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่า ฝั่งรัฐบาลเองไม่ได้ส่งผู้มีอำนาจในการตัดสินใจตัวจริงในการเจรจาวิป ตนอยู่ในห้องประชุมวิปวันนั้น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ก็ออกมาพูดชัดเจนว่า ตัดสินใจแทนคนในพรรคไม่ได้ ตนก็ไม่เข้าใจว่า การตัดสินใจแทนคนในพรรคได้นั้นหมายถึงใคร เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ ตนคิดว่าการเดินหน้าการทำงานอย่างเต็มที่ การส่งผู้มีอำนาจในการตัดสินใจตัวจริงมาเจรจาพูดคุย น่าจะเป็นทางออกที่ถูกต้อง
.
ผู้สื่อข่าวถามว่า แบบนี้สะท้อนว่า มีคนอยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถบอกได้ว่านายวิสุทธิ์หมายถึงใคร แต่สิ่งที่บอกได้คือห้องประชุมในวันนั้น พวกเราพร้อมที่จะยืดหยุ่นบางส่วน แต่กรอบในการยืดหยุ่นทางฝั่งรัฐบาลเองไม่สามารถตัดสินใจได้ จึงเป็นที่มาที่ต้องส่งให้นายวิสุทธิ์กลับไปคุยก่อน
.
เมื่อถามว่า มีอะไรอยากจะฝากไปถึงผู้ตัดสินใจตัวจริงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อยากฝากให้ใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลัง อยากจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ ตนคิดว่า สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นคือ การที่ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง รัฐบาลก็ทำหน้าที่รัฐบาล ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างเต็มที่
.
ส่วนที่นายทักษิณไล่ฝ่ายค้านให้ไปถามคนก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การตั้งญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมถึงการเจรจาคำที่บรรจุในญัตติและกรอบระยะเวลา ตนสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง แต่ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ เป็นเพราะตัวแทนฝั่งพรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาล ไม่ได้ส่งผู้มีอำนาจในการตัดสินใจตัวจริง
.
เมื่อถามว่า เป็นการดิสเครดิตพรรคประชาชนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนสื่อสารมาโดยตลอดว่า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกล อยู่ในฐานะที่ปรึกษา แต่การประชุมวิปร่วม ตนเป็นคนเข้าประชุมด้วยตนเอง
.
คุณทักษิณอาจจะยังไม่ทราบว่าภารกิจใน อบจ.ลำพูน ผมเองก็มีส่วนสนับสนุนอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแพลตฟอร์มในการเก็บข้อมูล เร็วๆนี้ จะเห็นอะไรอีกหลายอย่างที่ออกมาจากทางหัวหน้าพรรคด้วยเช่นเดียวกัน” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
เมื่อถามว่า นายวิสุทธิ์ออกมาระบุว่า สูตรเวลาอภิปรายอาจจะยืดหยุ่นให้เป็น 23+7 แล้ว คือฝั่งฝ่ายค้าน 23 ชั่วโมง รัฐบาล 7 ชั่วโมง รับได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อยู่ในกรอบที่พูดคุยกันได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมให้ชัดเจนคือ ไม่ว่าจะเป็นสูตรใดก็ตาม ถ้ายืนพื้นอยู่ที่ประมาณ 30 ชั่วโมง การอภิปราย 2 วันเป็นไปไม่ได้แน่นอน ถ้ายังไม่ปลดล็อกเรื่องนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เดินหน้าต่อได้ยาก
.
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เรื่องคำที่ใช้แทนนายทักษิณ ขอรอเจรจาเรื่องเวลาก่อนดีกว่า ส่วนให้ช้อยส์ชื่อได้หรือไม่ว่ามีอะไรบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ลองดูตามที่ท่านประธานสภาเคยให้ข่าว ก็ได้มีการเปิดเผยรายชื่ออยู่ เช่น บุคคลในครอบครัว อยู่ในกรอบประมาณนั้น
.
ผู้สื่อข่าวถามว่า หล่อตามที่นายทักษิณอยากได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นชื่อที่นายทักษิณเคยเรียกตัวเองก็พอเป็นไปได้อยู่ แต่การบรรจุคำในญัตติก็ต้องเป็นทางการ
.
เมื่อถามว่า โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่าได้การบ้านจากพรรคประชาชนและพลังประชารัฐไปเตรียมตัวแล้ว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในฝ่ายค้าน จะมีกระบวนการเตรียมเนื้อหาไปตามแต่ละพรรค แต่ในพรรคประชาชน ตนเชื่อมั่นว่า ไม่มีข้อสอบรั่วแน่นอน อยากให้รัฐบาลเตรียมพร้อมตอบข้อซักถามของพวกเรา
.

.
“ณัฐพงษ์” ห่วงภาพลักษณ์ไทยสหรัฐฯคว่ำบาตรจำกัดวีซ่า
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_855113/
.
“ณัฐพงษ์” ห่วงภาพลักษณ์ไทย สหรัฐฯคว่ำบาตรจำกัดวีซ่าเจ้าหน้าที่รัฐบาล ชี้ หากยึดหลักสิทธิมนุษยชน ประเทศไหนก็ว่าไทยไม่ได้ ตอบกลับ “ทักษิณ” แนะคุยทูต EU บอกอย่าใช้วิธีเจรจาหลังบ้าน
.
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แสดงความกังวลต่อภาพลักษณ์ของไทย หลังจากสหรัฐฯ ประกาศ คว่ำบาตรจำกัดวีซ่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาล ดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างรอบคอบและยึดหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมย้ำว่า หากไทยยึดหลักสิทธิมนุษยชน
.
จะไม่มีประเทศไหนมาตำหนิหรือคว่ำบาตรได้ ส่วนแนวคิดการเจรจาหลังบ้านกับ EU ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มองว่า สหภาพยุโรปให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน และการพยายามเจรจาอาจไม่ช่วยแก้ปัญหา ทั้งนี้ ตนห่วงภาพลักษณ์ไทยในเวทีโลก เพราะกังวลว่าสถานการณ์นี้ อาจทำให้ไทยเสียหายทางเศรษฐกิจ และกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ
.
ดังนั้น ขอฝากเตือนเรื่องการเยือนจีนของรัฐบาลไทย ว่า หากรัฐบาลไทยจะไปตรวจสอบความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ในจีน ต้องมีความโปร่งใสและเปิดให้ตัวแทนจากนานาชาติเข้าร่วมไม่เช่นนั้นอาจถูกมองว่าเป็นกระบวนการ “ฟอกขาว
.
อย่างไรก็ตาม นายณัฐพงษ์ ย้ำถึงการเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ต้องมีท่าทีชัดเจนต่อหลักสิทธิมนุษยชน และหลีกเลี่ยงการใช้วิธีการเจรจาลับ เพื่อแก้ปัญหาทางการทูต พร้อมเตือนว่าการตรวจสอบ สถานะชาวอุยกูร์ในจีน ต้องเป็นอิสระและได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ไม่เช่นนั้นอาจยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ไทยเสียหาย
.

.
สภาอุยกูร์โลกยินดี มะกันลงดาบไทย ชี้สัญญาณเตือนปท.อื่น หากดึงดันส่งอุยกูร์ให้จีน
https://www.matichon.co.th/foreign/news_5092977
.
สภาอุยกูร์โลกยินดี มะกันลงดาบไทย ชี้สัญญาณเตือนปท.อื่น หากดึงดันส่งอุยกูร์ให้จีน
.
ราชาน อับบาส ประธานสภาอุยกูร์โลก ออกมาแสดงความยินดีต่อกรณีที่ทางการสหรัฐอเมริกาประกาศใช้มาตรการลงโทษด้วยการระงับวีซ่าต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยทั้งในปัจจุบันและอดีตที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งตัวชาวอุยกูร์อย่างน้อย 40 คนกลับไปประเทศจีน ที่ทางการสหรัฐระบุว่าจะเป็นการส่งพวกเขากลับไปเผชิญการข่มเหงรังแก
.
โดยนางอับบาสกล่าวกับเรดิโอฟรีเอเชียว่า มาตรการนี้เป็นการส่งสัญญาณเตือนที่ชัดเจนไปยังรัฐบาลอื่นๆ ว่าพวกเขาจะเผชิญผลลัพธ์ที่ตามมาหากทำงานร่วมกับจีนในการส่งกลับชาวอุยกูร์
.
การประกาศนี้เป็นก้าวสำคัญในการทำให้ผู้ที่มีส่วนในการบังคับส่งกลับที่ร้ายแรงเหล่านี้ต้องรับผิดชอบ” นางอับบาสกล่าว พร้อมกับระบุว่า สำหรับชาวอุยกูร์แล้ว การถูกบังคับส่งกลับไปยังประเทศจีนเสมือนเป็นการถูกตัดโทษประหารชีวิต โดยทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับการทรมาน การบังคับใช้แรงงานและการบังคับสูญหาย นโยบายนี้ถือเป็นการส่งสารที่ชัดเจนว่าการช่วยเหลือการก่ออาชญากรรมของจีนนั้นจะไม่ถูกปล่อยให้ลอยนวลไปได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่