รบ.-ฝ่ายค้าน ไม่จบ ตกลงเวลาไม่ได้ เท้งขอถอยคนละก้าว ยอมแก้ญัตติให้ แต่ต้องได้ 30 ชม.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5090653
.
.

.
‘วิปสามฝ่าย’ นัดถกใหม่ 19 มี.ค. เหตุเจรจากรอบเวลาไม่สำเร็จ ‘เท้ง’ ลั่น หากอยากให้เดินหน้าต่อได้ ต้องยอมถอยคนละก้าว เผย ต้องได้ 30 ชม. จึงจะยอมแก้คำในญัตติ เหน็บ หากซักฟอกไม่ได้สมัยนี้ อาจเกิดจากรัฐบาลไม่ยอมให้เวลาที่เพียงพอ
.
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม มี นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นาง
มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะวิปคณะรัฐมนตรี (ครม.) นาย
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล นาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน.ในฐานะประธานฝ่ายค้าน นาย
ศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย พรรคพท. ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล นาย
ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะวิปฝ่ายค้าน เข้าร่วมประชุม เพื่อหารือเรื่องระยะเวลาในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151
.
โดยก่อนการประชุม นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนยินดีที่จะให้มีการปรับคำเพื่อให้ญัตติสามารถเดินหน้าไปได้ แต่เรื่องกรอบระยะเวลาในการประชุมนั้น อย่างน้อยฝ่ายค้านขอประมาณ 30 ชั่วโมง ส่วนจะอภิปรายกี่วันก็ขึ้นอยู่กับฝั่งรัฐบาลว่าจะชี้แจงทั้งหมดกี่วัน แต่สำหรับพรรคฝ่ายค้านอยากได้ 30 ชั่วโมง
.
จากนั้นเวลา 17.30 น. ภายหลังประชุมร่วมกันกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที นาย
ณัฐพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่อย่างไรก็ตามทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านยังยืนยันว่าจะกลับไปเจรจากับฝ่ายตัวเองก่อน โดยจะกลับมาประชุมร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 19 มีนาคมนี้ ซึ่งประเด็นที่ยังหาข้อสรุปร่วมกันไม่ได้ คือเรื่องกรอบระยะเวลาที่จะใช้ในการอภิปราย โดยจากที่ตนได้ไปหารือกับประธานสภาผู้แทนราษฎรและวิปรัฐบาล รวมถึงได้มีการแถลงไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเราได้มีการหารือสองเรื่องพร้อมกัน คือพรรคฝ่ายค้านยอมที่จะแก้ไขญัตติตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรเสนอมา และเรายืนยันกรอบระยะเวลาคือ 30 ชั่วโมง แต่ปรากฏว่า เมื่อเจรจากันในวิปสามฝ่ายแล้ว ยังไม่สามารถสรุปเรื่องกรอบระยะเวลาได้
.
เมื่อถามว่า รัฐบาลต้องการกี่ชั่วโมง นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องตัวเลขระยะเวลาที่รัฐบาลอยากได้นั้นตนยังไม่อยากให้ถาม เพราะจะกระทบกับการเจรจา แต่บอกได้ว่าตัวเลขที่ฝ่ายค้านเสนอไปคือ 30 ชั่วโมง ส่วนทางรัฐบาลและครม.จะขอเท่าไหร่เรายินดี แล้วจึงค่อยมาคำนวณว่าจะอภิปราย ซึ่งเราขอยึดที่ตัวเนื้อหาคือกรอบชั่วโมงก่อน ทั้งนี้ หากเดินตามกรอบไปได้ วันนี้เราคงได้ข้อสรุป แต่ปรากฏว่ากรอบชั่วโมงที่เราให้ไป ทางฝั่งรัฐบาลไม่เห็นด้วย จึงทำให้การเจรจายังไม่ได้ข้อสรุป
.
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกันเรื่องการปรับคำในญัตติบ้างหรือไม่ นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าเรื่องตัวญัตติเองตนยังไม่ได้ทำหนังสือส่งถึงประธานสภาฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งตนได้รักษาคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับประธานสภาฯ หากเจรจากับทางวิปร่วมในเรื่องกรอบระยะเวลาได้สำเร็จ เราก็พร้อมที่จะปรับคำในญัตติเพื่อให้สามารถเดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ตามกรอบระยะเวลาที่เราได้ตกลงกันไว้ แต่เนื่องจากวันนี้ เรายังไม่สามารถเจรจาเรื่องกรอบระยะเวลากันได้ ฉะนั้น เรื่องการปรับคำในญัตติ ตนก็ยังไม่สามารถที่จะยื่นต่อประธานสภาฯ ได้
.
เมื่อถามว่า รัฐบาลได้มีการแนะนำหรือไม่ว่าอยากให้ปรับคำในญัตติไปในทิศทางใด นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ชัดเจนว่าอย่างไรก็ตามต้องนำชื่อนาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากญัตติ ส่วนจะปรับเป็นคำอื่นอย่างไรนั้น ตนขอให้รอดูข้อสรุปอีกครั้ง เนื่องจากจะปรับเป็นคำใดหรือเรื่องกรอบระยะเวลาในการที่จะอภิปรายนั้นย่อมส่งผลถึงการเจรจา
.
เมื่อถามว่า มองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นในเดือนนี้หรือไม่ นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในมุมของตน คิดว่ายังทันภายในเดือนนี้ เนื่องจากขณะนี้ญัตติสมบูรณ์เสร็จแล้วทุกอย่าง รอแค่การปรับคำ ก็พร้อมที่จะบรรจุได้ แต่ยังติดอยู่รอบเดียวคือเรื่องของกรอบระยะเวลา ซึ่งเราจะปิดสมัยประชุมวันที่ 10 เมษายน ฉะนั้น ก็ยังเหลือเวลาในการที่จะเจรจาอยู่ ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าหากไม่ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ก็อาจจะเป็นต้นเดือนเมษายน
.
เมื่อถามว่า หากรัฐบาลเสนอให้อภิปรายสองวัน และลงมติอีกหนึ่งวัน จะสามารถทำได้หรือไม่ นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ยังหารือกันอยู่ คิดว่าในส่วนนี้ต้องหาจุดตรงกลางร่วมกัน เมื่อสักครู่มีการเจรจาพูดคุยกันในห้องหลายรูปแบบ แต่หากดูตามบรรทัดฐานของสภาในอดีต ตนคิดว่าเนื้อหาสำคัญที่สุด และหากดูจากสิ่งที่ฝ่ายค้านเตรียมมาหลายเดือน ตนยืนยันว่าระยะเวลา 30 ชั่วโมงที่เราเสนอไปนั้น ไม่ใช่ระยะเวลาที่มากเกินไป เป็นระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะก่อนหน้านี้เราได้เสนอไป 5 วัน นี่เป็นสิ่งที่เราถอยกันเยอะแล้ว ส่วนจะเป็นเส้นตายสุดท้ายหรือไม่นั้น ตนมองว่าหากอยากให้เดินต่อไปได้ต้องยอมถอยคนละก้าว ซึ่งฝ่ายค้านยอมถอยมาแล้วเรื่องระยะเวลา 5 วัน แต่ละหลักการเนื้อหาเรายังยืนยันตามเดิม จึงอยากให้รัฐบาลกลับไปคุยกันในแต่ละพรรคก่อนเพื่อจะกลับมาหาข้อสรุปในสัปดาห์หน้า
.
เมื่อถามว่า เห็นตรงกันใช่หรือไม่ที่ควรจะมีการอภิปรายในสมัยนี้ นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าพรรคฝ่ายค้านอยากอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยนี้ แต่ตอนนี้ยังเดินหน้าต่อไม่ได้ เนื่องจากยังไม่สามารถเจรจาลงตัวเรื่องกรอบระยะเวลากับพรรคร่วมรัฐบาลได้
.
“
จึงขอสื่อสารตรงๆ ว่าหากไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ในสมัยประชุมนี้ ก็อาจจะเกิดจากการที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่ยอมให้ระยะเวลาที่เพียงพอกับฝ่ายค้าน” นาย
ณัฐพงษ์ กล่าว
.
.
"ภคมน" จวกยับเลือกสื่อบินจีนดูชีวิต 40 อุยกูร์ หวังพีอาร์รัฐบาล
https://www.thairath.co.th/news/politic/2846972
.
"ภคมน" เตือนรัฐบาลอย่าโยนไพ่ให้สื่อผิดใจกัน ปมบินจีนดูชีวิตชาวอุยกูร์ แขวะหวังใช้สื่อเป็นเครื่องมือพีอาร์รัฐบาล ชี้ต้องเปิดโอกาสให้สื่อสืบหาข้อเท็จจริง ลั่นถามทัศนคติก่อนไปไม่ต่างจากรัฐบาลเผด็จการ
.
วันที่ 13 มีนาคม 2568 นางสาวภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมนำสื่อไปดูสภาพความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ทั้ง 40 คน ที่ประเทศจีนว่า จังหวะนี้รัฐบาลเรียกความเชื่อมั่นได้ เนื่องจากที่ผ่านมาสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงจุดยืนการส่งชาวอุยกูร์กลับ รอบนี้รัฐบาลมีความพยายามยืนยันเรื่องความโปร่งใส โดยให้สื่อมวลชนไปทำข่าว แต่กลายเป็นว่าไม่สามารถนำสื่อมวลชนไปได้ทั่วถึง จึงต้องถามกลับว่าใช้สื่อมวลชนเป็นพีอาร์ของรัฐบาลหรือไม่ เพราะหากคำนึงถึงการทำงานต้องเปิดกว้างให้ทุกสื่อที่แสดงความจำนงสามารถไปได้ ไม่ใช่เลือกไปเฉพาะบางสื่อ จุดประสงค์ที่พาสื่อไปแค่ต้องการข่าวพีอาร์รัฐบาลหรือต้องการแสดงความชอบธรรมต่อสาธารณะ
.
นางสาวภคมนยังบอกถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงถึงการเลือกสื่อไปจีนว่า อย่าพยายามโยนไพ่ให้สื่อต้องผิดใจกันเองในเมื่อต้องการยืนยันความโปร่งใสก็ควรให้ทุกคนที่อยากไปได้ไปดูข้อเท็จจริง รวมถึงการที่กระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับทัศนคติในการแก้ไขปัญหาชาวอุยกูร์ ไม่ควรเกิดขึ้นกับรัฐบาลที่ยืนยันมาตลอดว่าเป็นประชาธิปไตย การตั้งกฎเกณฑ์แบบนี้ไม่ต่างกับรัฐบาลเผด็จการ การบอกว่าคนที่ไปด้วยสามารถควบคุมได้หรือไม่ บ่งบอกว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยดูถูกสื่อมวลชน ลดทอนประชาธิปไตย และการทำงานของสื่อมวลชน
.
นางสาวภคมนกล่าวต่อว่า การสอบถามทัศนคติสื่อก่อนเดินทางไปซินเจียง หมายความว่าต้องการให้ข้อเท็จจริงไปในทิศทางเดียวกันใช่หรือไม่ เพราะหากมีสื่อที่มีทัศนคติที่ไม่ตรงกันหรือควบคุมไม่ได้ ข้อเท็จจริงที่ออกมาอาจจะไม่ได้แบบที่ต้องการ คุณวางสถานะของสื่อมวลชนประเทศไทยไว้แบบไหน เป็นพีอาร์รัฐบาลหรือต้องการให้อิสรภาพในการทำงาน เรื่องนี้เห็นชัดว่ารัฐบาลไม่เห็นความสำคัญของสื่อ แต่มองเป็นเครื่องมือพีอาร์ของรัฐบาล
.
.
“โรม” อัด “สุทิน” อย่าหลงตัวเอง อภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านไม่มีน้ำท่วมทุ่ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/2846911
.
“รังสิมันต์ โรม” ยันฝ่ายค้านเตรียมตัวดี พร้อมซักฟอกไม่มีน้ำท่วมทุ่ง ท้า “ทักษิณ” แฟร์ ๆ ให้ตรวจสอบ เตือน “สุทิน” อย่าหลงตัวเอง คิดว่าเป็นโรนัลโดสภาฯ บอก “เพื่อไทย” รู้ดี เคยอภิปรายคนนอก แต่พอเป็นรัฐบาลกลับเป็นพระอรหันต์
.
วันที่ 13 มีนาคม 2568 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมั่นใจว่ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน แม้หลายฝ่ายออกมาบอกว่าไม่สบายใจ ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ใส่ชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เราเห็นผู้ประท้วงแล้วทั้งที่ยังไม่เริ่มต้น
.
นายรังสิมันต์ มองว่าเรื่องกฎเกณฑ์ กติกา และกฎหมายไม่ต้องมาเถียงกันอีกแล้ว การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เหมือนญัตติทั่วไป แต่ในระบบสภาฯ มีกฎเกณฑ์ในการควบคุมเรื่องญัตติ ซึ่งต้องควบคุมให้เป็นไปในลักษณะเดียวกัน อย่างไรก็ตามพรรคฝ่ายค้านไม่ได้ทำผิดเรื่องนี้ แต่เป็นการใช้อำนาจโดยพลการของประธานสภาฯ บังคับพวกเราให้ถอนชื่อนายทักษิณ ถ้าไม่ถอนชื่อออกก็จะไม่ให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยภายในวันนี้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะเข้าหารือกับประธานสภาฯ เพื่อหาทางออก
.
เราเห็นว่าคนที่ประท้วงคนแรก ไม่ใช่ผู้ที่ทำหน้าที่เป็น สส.ทั่วไป ไม่ใช่รัฐมนตรี แต่เป็นประธานสภาฯ เห็นบรรยากาศว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ การแตะต้องนายทักษิณ มีแรงต้านจากรัฐบาลที่สูง แปลกประหลาดมากท่านอยากมีส่วนร่วมในการบริหารราชการแผ่นดินในหลายเรื่อง ที่ผ่านมาแทบจะไม่ได้ยินว่านายกฯ พูดถึงทิศทางของบ้านเมือง ได้ยินแต่นายทักษิณ
.
ขณะเดียวกันฝ่ายค้านต้องการตรวจสอบนายกฯ อาจจะต้องโยงเรื่องให้เห็นภาพว่านายทักษิณ อาจจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยตรงต่อนายทักษิณ กลายเป็นทุกฝ่ายมีแรงต้าน คงต้องถามไปที่นายทักษิณว่าเข้าเกี่ยวข้องกับการบัญชาการเรื่องนี้หรือไม่ นายทักษิณพูดแฟร์ ๆ ออกสื่อเลยว่าพาดพิงได้ พูดถึงได้ “ผมพร้อม ผมเป็นบุคคลสาธารณะที่สามารถตรวจสอบได้” ถ้าท่านพูดแฟร์ ๆ แบบนี้บรรดานั่งร้านคงไม่ต้องมาใช้เวทีนี้เอาซีนปกป้องนาย จะทำให้การทำงานของฝ่ายค้านทำงานได้อย่างเต็มที่มากกว่า
.
ส่วนช่วงนี้ที่เห็นตนเงียบ เพราะกำลังปั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าจะได้เห็นตนเองอภิปรายอย่างแน่นอน
.
ทั้งนี้ที่ฝ่ายรัฐบาลบอกว่า ถ้าฝ่ายค้านไม่พาดพิงนายทักษิณก็จะไม่มีเรื่องอภิปรายนั้น เป็นวิธีการของพรรคเพื่อไทย ที่พยายามทำตัวเหนือคนอื่น ทำตัวมีคุณค่า แต่ตนเองไม่มีความสามารถมาสอนคนอื่นได้ ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ทำหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน การอภิปรายของพรรคเพื่อไทยดีจนน่าจดจำหรือเปล่า ก็ไม่ นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พูดราวกับสอน พูดอยู่ 4 ชั่วโมง มีเนื้อหาอยู่เท่าไหร่ นิดเดียว
JJNY : 5in1 ไม่จบ ตกลงเวลาไม่ได้│ภคมนจวกยับเลือกสื่อ│โรมอัดสุทิน│ศิริกัญญาถามเหมือนปัญหาเชาว์│สุดารัตน์ติงแจงเงินหมื่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_5090653
.
‘วิปสามฝ่าย’ นัดถกใหม่ 19 มี.ค. เหตุเจรจากรอบเวลาไม่สำเร็จ ‘เท้ง’ ลั่น หากอยากให้เดินหน้าต่อได้ ต้องยอมถอยคนละก้าว เผย ต้องได้ 30 ชม. จึงจะยอมแก้คำในญัตติ เหน็บ หากซักฟอกไม่ได้สมัยนี้ อาจเกิดจากรัฐบาลไม่ยอมให้เวลาที่เพียงพอ
.
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม มี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะวิปคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน.ในฐานะประธานฝ่ายค้าน นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย พรรคพท. ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะวิปฝ่ายค้าน เข้าร่วมประชุม เพื่อหารือเรื่องระยะเวลาในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151
.
โดยก่อนการประชุม นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนยินดีที่จะให้มีการปรับคำเพื่อให้ญัตติสามารถเดินหน้าไปได้ แต่เรื่องกรอบระยะเวลาในการประชุมนั้น อย่างน้อยฝ่ายค้านขอประมาณ 30 ชั่วโมง ส่วนจะอภิปรายกี่วันก็ขึ้นอยู่กับฝั่งรัฐบาลว่าจะชี้แจงทั้งหมดกี่วัน แต่สำหรับพรรคฝ่ายค้านอยากได้ 30 ชั่วโมง
.
จากนั้นเวลา 17.30 น. ภายหลังประชุมร่วมกันกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที นายณัฐพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่อย่างไรก็ตามทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านยังยืนยันว่าจะกลับไปเจรจากับฝ่ายตัวเองก่อน โดยจะกลับมาประชุมร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 19 มีนาคมนี้ ซึ่งประเด็นที่ยังหาข้อสรุปร่วมกันไม่ได้ คือเรื่องกรอบระยะเวลาที่จะใช้ในการอภิปราย โดยจากที่ตนได้ไปหารือกับประธานสภาผู้แทนราษฎรและวิปรัฐบาล รวมถึงได้มีการแถลงไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเราได้มีการหารือสองเรื่องพร้อมกัน คือพรรคฝ่ายค้านยอมที่จะแก้ไขญัตติตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรเสนอมา และเรายืนยันกรอบระยะเวลาคือ 30 ชั่วโมง แต่ปรากฏว่า เมื่อเจรจากันในวิปสามฝ่ายแล้ว ยังไม่สามารถสรุปเรื่องกรอบระยะเวลาได้
.
เมื่อถามว่า รัฐบาลต้องการกี่ชั่วโมง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องตัวเลขระยะเวลาที่รัฐบาลอยากได้นั้นตนยังไม่อยากให้ถาม เพราะจะกระทบกับการเจรจา แต่บอกได้ว่าตัวเลขที่ฝ่ายค้านเสนอไปคือ 30 ชั่วโมง ส่วนทางรัฐบาลและครม.จะขอเท่าไหร่เรายินดี แล้วจึงค่อยมาคำนวณว่าจะอภิปราย ซึ่งเราขอยึดที่ตัวเนื้อหาคือกรอบชั่วโมงก่อน ทั้งนี้ หากเดินตามกรอบไปได้ วันนี้เราคงได้ข้อสรุป แต่ปรากฏว่ากรอบชั่วโมงที่เราให้ไป ทางฝั่งรัฐบาลไม่เห็นด้วย จึงทำให้การเจรจายังไม่ได้ข้อสรุป
.
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกันเรื่องการปรับคำในญัตติบ้างหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าเรื่องตัวญัตติเองตนยังไม่ได้ทำหนังสือส่งถึงประธานสภาฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งตนได้รักษาคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับประธานสภาฯ หากเจรจากับทางวิปร่วมในเรื่องกรอบระยะเวลาได้สำเร็จ เราก็พร้อมที่จะปรับคำในญัตติเพื่อให้สามารถเดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ตามกรอบระยะเวลาที่เราได้ตกลงกันไว้ แต่เนื่องจากวันนี้ เรายังไม่สามารถเจรจาเรื่องกรอบระยะเวลากันได้ ฉะนั้น เรื่องการปรับคำในญัตติ ตนก็ยังไม่สามารถที่จะยื่นต่อประธานสภาฯ ได้
.
เมื่อถามว่า รัฐบาลได้มีการแนะนำหรือไม่ว่าอยากให้ปรับคำในญัตติไปในทิศทางใด นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ชัดเจนว่าอย่างไรก็ตามต้องนำชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากญัตติ ส่วนจะปรับเป็นคำอื่นอย่างไรนั้น ตนขอให้รอดูข้อสรุปอีกครั้ง เนื่องจากจะปรับเป็นคำใดหรือเรื่องกรอบระยะเวลาในการที่จะอภิปรายนั้นย่อมส่งผลถึงการเจรจา
.
เมื่อถามว่า มองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นในเดือนนี้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในมุมของตน คิดว่ายังทันภายในเดือนนี้ เนื่องจากขณะนี้ญัตติสมบูรณ์เสร็จแล้วทุกอย่าง รอแค่การปรับคำ ก็พร้อมที่จะบรรจุได้ แต่ยังติดอยู่รอบเดียวคือเรื่องของกรอบระยะเวลา ซึ่งเราจะปิดสมัยประชุมวันที่ 10 เมษายน ฉะนั้น ก็ยังเหลือเวลาในการที่จะเจรจาอยู่ ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าหากไม่ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ก็อาจจะเป็นต้นเดือนเมษายน
.
เมื่อถามว่า หากรัฐบาลเสนอให้อภิปรายสองวัน และลงมติอีกหนึ่งวัน จะสามารถทำได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ยังหารือกันอยู่ คิดว่าในส่วนนี้ต้องหาจุดตรงกลางร่วมกัน เมื่อสักครู่มีการเจรจาพูดคุยกันในห้องหลายรูปแบบ แต่หากดูตามบรรทัดฐานของสภาในอดีต ตนคิดว่าเนื้อหาสำคัญที่สุด และหากดูจากสิ่งที่ฝ่ายค้านเตรียมมาหลายเดือน ตนยืนยันว่าระยะเวลา 30 ชั่วโมงที่เราเสนอไปนั้น ไม่ใช่ระยะเวลาที่มากเกินไป เป็นระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะก่อนหน้านี้เราได้เสนอไป 5 วัน นี่เป็นสิ่งที่เราถอยกันเยอะแล้ว ส่วนจะเป็นเส้นตายสุดท้ายหรือไม่นั้น ตนมองว่าหากอยากให้เดินต่อไปได้ต้องยอมถอยคนละก้าว ซึ่งฝ่ายค้านยอมถอยมาแล้วเรื่องระยะเวลา 5 วัน แต่ละหลักการเนื้อหาเรายังยืนยันตามเดิม จึงอยากให้รัฐบาลกลับไปคุยกันในแต่ละพรรคก่อนเพื่อจะกลับมาหาข้อสรุปในสัปดาห์หน้า
.
เมื่อถามว่า เห็นตรงกันใช่หรือไม่ที่ควรจะมีการอภิปรายในสมัยนี้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าพรรคฝ่ายค้านอยากอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยนี้ แต่ตอนนี้ยังเดินหน้าต่อไม่ได้ เนื่องจากยังไม่สามารถเจรจาลงตัวเรื่องกรอบระยะเวลากับพรรคร่วมรัฐบาลได้
.
“จึงขอสื่อสารตรงๆ ว่าหากไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ในสมัยประชุมนี้ ก็อาจจะเกิดจากการที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่ยอมให้ระยะเวลาที่เพียงพอกับฝ่ายค้าน” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
.
.
“โรม” อัด “สุทิน” อย่าหลงตัวเอง อภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านไม่มีน้ำท่วมทุ่ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/2846911
.