นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสัตววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยโคโลญจน์ ร่วมกับสถาบันชีววิทยาเซลล์ระดับโมเลกุลและพันธุศาสตร์แห่งเมืองเดรสเดน
ประเทศเยอรมนี ค้นพบหนอนพยาธิตัวกลมที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังถูกแช่แข็งในชั้นดินเยือกแข็ง (permafrost) ของไซบีเรียนานกว่า 46,000 ปี
ซึ่งตรงกับยุคไพลสโตซีน
หนอนพยาธิตัวกลมสายพันธุ์ใหม่นี้ ถูกพบที่ความลึก 40 เมตรใต้พื้นผิวดินในสภาพไร้ความเคลื่อนไหว (cryptobiosis) ซึ่งเป็นสภาวะที่สิ่งมีชีวิต
ลดอัตราการเผาผลาญพลังงานลงสู่ระดับต่ำมาก ทำให้สามารถอยู่รอดในสภาวะที่ไม่เอื้อต่อการดำรงชีวิตได้เป็นเวลานาน
การค้นพบนี้เปิดโอกาสให้นักวิทยาศาสตร์ศึกษากระบวนการเอาตัวรอดของสิ่งมีชีวิตในสภาวะสุดขั้ว และอาจนำไปสู่การพัฒนาเทคนิคการอนุรักษ์สัตว์
ใกล้สูญพันธุ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่าสิ่งมีชีวิตหรือเชื้อโรคโบราณอื่น ๆ ที่ถูกแช่แข็งในชั้นดินเยือกแข็งอาจฟื้นคืนชีพขึ้นมาเมื่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถรับชมได้ในวิดีโอต่อไปนี้เลยครับ:
ข่าวการค้นพบหนอนพยาธิตัวกลมที่ฟื้นคืนชีพหลังถูกแช่แข็งนานกว่า 46,000 ปีในชั้นดินเยือกแข็งของไซบีเรีย ถูกเผยแพร่ในเดือนกรกฎาคม 2023
โดยการศึกษานี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร PLOS Genetics เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2023
🙏ขอขอบคุณข้อมูลจาก : THE STANDARD
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบหนอนที่กลับมามีชีวิตหลังถูกแช่แข็งนาน 46,000 ปี!
ประเทศเยอรมนี ค้นพบหนอนพยาธิตัวกลมที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังถูกแช่แข็งในชั้นดินเยือกแข็ง (permafrost) ของไซบีเรียนานกว่า 46,000 ปี
ซึ่งตรงกับยุคไพลสโตซีน
หนอนพยาธิตัวกลมสายพันธุ์ใหม่นี้ ถูกพบที่ความลึก 40 เมตรใต้พื้นผิวดินในสภาพไร้ความเคลื่อนไหว (cryptobiosis) ซึ่งเป็นสภาวะที่สิ่งมีชีวิต
ลดอัตราการเผาผลาญพลังงานลงสู่ระดับต่ำมาก ทำให้สามารถอยู่รอดในสภาวะที่ไม่เอื้อต่อการดำรงชีวิตได้เป็นเวลานาน
การค้นพบนี้เปิดโอกาสให้นักวิทยาศาสตร์ศึกษากระบวนการเอาตัวรอดของสิ่งมีชีวิตในสภาวะสุดขั้ว และอาจนำไปสู่การพัฒนาเทคนิคการอนุรักษ์สัตว์
ใกล้สูญพันธุ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่าสิ่งมีชีวิตหรือเชื้อโรคโบราณอื่น ๆ ที่ถูกแช่แข็งในชั้นดินเยือกแข็งอาจฟื้นคืนชีพขึ้นมาเมื่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถรับชมได้ในวิดีโอต่อไปนี้เลยครับ:
ข่าวการค้นพบหนอนพยาธิตัวกลมที่ฟื้นคืนชีพหลังถูกแช่แข็งนานกว่า 46,000 ปีในชั้นดินเยือกแข็งของไซบีเรีย ถูกเผยแพร่ในเดือนกรกฎาคม 2023
โดยการศึกษานี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร PLOS Genetics เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2023
🙏ขอขอบคุณข้อมูลจาก : THE STANDARD