ตลอดมาตั้งแต่ยังเด็กๆเราจะทะเลาะกับที่บ้านเพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆ
แบบว่า คุณแม่ท่านพูดกับเราด้วยน้ำเสียงที่ดูโมโหมากเราพยายามไม่คิดอะไรพยายามเก็บอารมณ์ แต่แค่ท่านเห็นหน้าเราท่านจะว่า หรือ บ่น แทบทุกครั้งที่เจอหน้ากัน เราก็ไม่ได้มีความอดทนขนาดนั้นก็เลยเถียงท่านกลับไปบ้าง
จนมาครั้งหนึ่งตอนนั้นเราอายุแค่ 13 ยังไม่จบ ม.1 เลยด้วยซ้ำ เราอายุน้อยมากเรายังทำงานอะไรไม่ได้ ได้แค่ช่วยงานในบ้าน แต่บางครั้งเราก็ไม่ได้ทำค่ะ แต่เวรกรรมอะไรก็ไม่รู้ค่ะ มือถือเราในตอนนั้นดันพังพอดี เราก็ไปบอกคุณแม่ท่าน แต่ท่านบอกว่าเดี๋ยวซื้อให้หลังงานอันนู้น เดี๋ยวซื้อให้หลังงานอันนี้
เราไม่มีมือถือนานรวมๆเกือบสองเดือน ตอนนั้นเหงามากเลยค่ะฟีลแบบโลกนี้ไม่มีอะไรให้ฉันทำแล้ว แต่พอซื้อให้ปัญหาก็ก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ อาจเพราะเราที่ไม่ค่อยทำอะไรเลยด้วย จนคุณแม่เลยทำดีลกับเราหลายๆอย่าง เราก็ทำตามดีลนะคะ แต่ด้วยนิสัยที่หลายคนในบ้านไม่ชอบนิสัยนี้ของคุณแม่คือกาารที่ท่านเป็นคนหงุดหงิดง่ายมาก แค่เจอหน้าใครก็พร้อมวีนใส่ได้เลย ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรจนมาเจอกับตัวเอง วันนั้นคุณแม่ทำงานเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน
ท่านดูหงุดหงิดมาจากอะไรบางอย่าง เราก็อยู่เฉยๆนะคะ แต่ว่าอยู่ๆท่านก็เดินมาวีนเรา ว่าเราไม่ทำงานนั่นนี่ ทั้งๆที่ก็ทำหมดแล้ว เราก็ไม่ได้อะไรเพราะโดนวีนแบบนี้เป็นเรื่องปกติ แล้วท่านก็ให้เราช่วยรีดเสื้อหรือไม่ก็กางเกงนี่แหละ แต่เหมือนคุณแม่จะไม่พอใจ เราก็เริ่มหมดความอดทนแล้วก็เลยเถียงกลับไปแรงระดับนึงเลยค่ะ
แม่ :แกรีดแบบนี้มันจะเลี่ยมเอาเมื่อไหร่
เรา : แล้วทำไมแม่ไม่รีดเองคะ ถ้าเกิดว่าไม่ชอบที่น้องรีดให้
แม่ : เถียงฉันกลับทุกคำ เสียดายมาก มือถือฉันก็ซื้อให้แก ยังไม่สำนึกอีก
เรา : มันเกี่ยวอะไรกับรีดผ้าคะ
แม่ : แล้วที่แกไปเล่าเรื่องในบ้านให้เพื่อนสนิทฟัง แแกจะไปเล่าให้เขาฟังทำไม ไม่ไว้ใจคนในบ้านหรอ
เรา : ใช่ค่ะ ตั้งแต่มาอยู่บ้านนี้น้องก็เคยเห็นแม่เป็นเซฟโซนนะคะ แต่ตอนนี้ไม่แล้วแม่ช่วยปรับด้วยนะคะ น่าจะรู้นะว่าเพราะอะไร
แล้วก็ยาวเลยค่ะ ทั้งโดนพ่อว่า แม่ก็ร้องไห้อีก เราอยากขอโทษท่านนะคะ แต่ก็อยากให้ท่านรู้ว่าเพราะอะไรทำไมเราถึงเลือกที่จะพูดแบบนี้
เราในตอนนั้นคิดอย่างเดียวคือเดี๋ยวท่านก้รู้ว่าทำไม แต่ดันไม่เป็นงั้นอ่ะสิคะ เราไม่เคยรู้เิ่งมารู้เอาทีหลังว่าแม่เป็นคนคิดมาก พ่อก็บอกให้แม่กับเรามาคุยกันดีๆแล้ว แต่แม่ก็ไม่มาคุยเหมือนท่านไม่อยากเห็นหน้าเราแล้วยังไงอย่างงั้น เท่าที่เราเล่ามามันเป็นแบบนี้มาตลอด เผลอบางครั้งคุณแม่พูดแต่อะไรที่ทำให้เรารู้สึกนอยมากกก อย่างเหมือนจะเอาความผิดพลาดเก่าๆมาพูด จี้ปมบ้าง บูลลี่ลักษณะร่างกายก็เคยโดน ท่านเคยบอกกับเรานะคะว่าให้ยอมรับความจริง แต่ทำไมพอเราพูดความจริงท่านไม่ยอมรับบ้างคะ มีใครเคยเจอหรือเคยเป็นเราขอคำแนะนำหน่อยได้มั้ยคะ เราน่าจะต้องอยู่พึ่งท่านไปอีกนาน 🥹🥹🥹
อายุเราตอนนี้ 15 อายุคุณแม่ 55 ค่ะ
คุณแม่ไม่มีเหตุผล พูดอะไรท่านก็ไม่ค่อยรักษาน้ำใจใคร ต้องรับมือกับท่านยังไงคะ
แบบว่า คุณแม่ท่านพูดกับเราด้วยน้ำเสียงที่ดูโมโหมากเราพยายามไม่คิดอะไรพยายามเก็บอารมณ์ แต่แค่ท่านเห็นหน้าเราท่านจะว่า หรือ บ่น แทบทุกครั้งที่เจอหน้ากัน เราก็ไม่ได้มีความอดทนขนาดนั้นก็เลยเถียงท่านกลับไปบ้าง
จนมาครั้งหนึ่งตอนนั้นเราอายุแค่ 13 ยังไม่จบ ม.1 เลยด้วยซ้ำ เราอายุน้อยมากเรายังทำงานอะไรไม่ได้ ได้แค่ช่วยงานในบ้าน แต่บางครั้งเราก็ไม่ได้ทำค่ะ แต่เวรกรรมอะไรก็ไม่รู้ค่ะ มือถือเราในตอนนั้นดันพังพอดี เราก็ไปบอกคุณแม่ท่าน แต่ท่านบอกว่าเดี๋ยวซื้อให้หลังงานอันนู้น เดี๋ยวซื้อให้หลังงานอันนี้
เราไม่มีมือถือนานรวมๆเกือบสองเดือน ตอนนั้นเหงามากเลยค่ะฟีลแบบโลกนี้ไม่มีอะไรให้ฉันทำแล้ว แต่พอซื้อให้ปัญหาก็ก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ อาจเพราะเราที่ไม่ค่อยทำอะไรเลยด้วย จนคุณแม่เลยทำดีลกับเราหลายๆอย่าง เราก็ทำตามดีลนะคะ แต่ด้วยนิสัยที่หลายคนในบ้านไม่ชอบนิสัยนี้ของคุณแม่คือกาารที่ท่านเป็นคนหงุดหงิดง่ายมาก แค่เจอหน้าใครก็พร้อมวีนใส่ได้เลย ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรจนมาเจอกับตัวเอง วันนั้นคุณแม่ทำงานเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน
ท่านดูหงุดหงิดมาจากอะไรบางอย่าง เราก็อยู่เฉยๆนะคะ แต่ว่าอยู่ๆท่านก็เดินมาวีนเรา ว่าเราไม่ทำงานนั่นนี่ ทั้งๆที่ก็ทำหมดแล้ว เราก็ไม่ได้อะไรเพราะโดนวีนแบบนี้เป็นเรื่องปกติ แล้วท่านก็ให้เราช่วยรีดเสื้อหรือไม่ก็กางเกงนี่แหละ แต่เหมือนคุณแม่จะไม่พอใจ เราก็เริ่มหมดความอดทนแล้วก็เลยเถียงกลับไปแรงระดับนึงเลยค่ะ
แม่ :แกรีดแบบนี้มันจะเลี่ยมเอาเมื่อไหร่
เรา : แล้วทำไมแม่ไม่รีดเองคะ ถ้าเกิดว่าไม่ชอบที่น้องรีดให้
แม่ : เถียงฉันกลับทุกคำ เสียดายมาก มือถือฉันก็ซื้อให้แก ยังไม่สำนึกอีก
เรา : มันเกี่ยวอะไรกับรีดผ้าคะ
แม่ : แล้วที่แกไปเล่าเรื่องในบ้านให้เพื่อนสนิทฟัง แแกจะไปเล่าให้เขาฟังทำไม ไม่ไว้ใจคนในบ้านหรอ
เรา : ใช่ค่ะ ตั้งแต่มาอยู่บ้านนี้น้องก็เคยเห็นแม่เป็นเซฟโซนนะคะ แต่ตอนนี้ไม่แล้วแม่ช่วยปรับด้วยนะคะ น่าจะรู้นะว่าเพราะอะไร
แล้วก็ยาวเลยค่ะ ทั้งโดนพ่อว่า แม่ก็ร้องไห้อีก เราอยากขอโทษท่านนะคะ แต่ก็อยากให้ท่านรู้ว่าเพราะอะไรทำไมเราถึงเลือกที่จะพูดแบบนี้
เราในตอนนั้นคิดอย่างเดียวคือเดี๋ยวท่านก้รู้ว่าทำไม แต่ดันไม่เป็นงั้นอ่ะสิคะ เราไม่เคยรู้เิ่งมารู้เอาทีหลังว่าแม่เป็นคนคิดมาก พ่อก็บอกให้แม่กับเรามาคุยกันดีๆแล้ว แต่แม่ก็ไม่มาคุยเหมือนท่านไม่อยากเห็นหน้าเราแล้วยังไงอย่างงั้น เท่าที่เราเล่ามามันเป็นแบบนี้มาตลอด เผลอบางครั้งคุณแม่พูดแต่อะไรที่ทำให้เรารู้สึกนอยมากกก อย่างเหมือนจะเอาความผิดพลาดเก่าๆมาพูด จี้ปมบ้าง บูลลี่ลักษณะร่างกายก็เคยโดน ท่านเคยบอกกับเรานะคะว่าให้ยอมรับความจริง แต่ทำไมพอเราพูดความจริงท่านไม่ยอมรับบ้างคะ มีใครเคยเจอหรือเคยเป็นเราขอคำแนะนำหน่อยได้มั้ยคะ เราน่าจะต้องอยู่พึ่งท่านไปอีกนาน 🥹🥹🥹
อายุเราตอนนี้ 15 อายุคุณแม่ 55 ค่ะ