ถ้าจิตสูญ จิตเกิด-ดับ ทุกวินาที เป็นคนละดวงกัน กายก็คนละอัตภาพกัน ใครเป็นผู้บำเพ็ญบารมี 20 40 80 อสงไขย เป็นมหาโพธิสัตว์

ถ้าจิตสูญ จิตเกิด-ดับ ทุกวินาที เป็นคนละดวงกัน กายก็คนละอัตภาพกัน ใครเป็นผู้บำเพ็ญบารมี 20 40 80 อสงไขย เป็นมหาโพธิสัตว์เพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า…???!

จากพระสูตรนี้ เห็นได้ชัดพระเวสสันดรและพระสิทธัตถะเป็นดวงจิตเดียวกัน


พระมหาบุรุษตรัสว่า ก่อนอื่น ในภาวะที่ท่านให้ทาน พลมารทั้งหลายผู้มีจิตใจเป็นพยาน แต่สำหรับเรา ใครๆ ผู้มีจิตใจชื่อว่าจะเป็นพยานให้ ย่อมไม่มีในที่นี้. ทานที่เราให้แล้วในอัตภาพอื่นๆ จงยกไว้ ก็ในภาวะที่เราดำรงอยู่ในอัตภาพเป็นพระเวสสันดรแล้ว ได้ให้สัตตสตกมหาทาน ให้สิ่งของอย่างละ ๗๐๐ มหาปฐพีอันหนาทึบนี้ แม้จะไม่มีจิตใจก็เป็นสักขีพยานให้ก่อน จึงทรงนำออกเฉพาะพระหัตถ์ขวา จากภายในกลีบจีวร แล้วทรงเหยียดพระหัตถ์ชี้ลงตรงหน้ามหาปฐพี พร้อมกับตรัสว่า ในคราวที่เราดำรงอยู่ในอัตภาพเป็นพระเวสสันดร แล้วให้สัตตสตกมหาทาน ท่านได้เป็นพยานหรือไม่ได้เป็น.
               มหาปฐพีได้ดั่งสนั่นหวั่นไหว ประหนึ่งท่วมทับพลมาร ด้วยร้อยเสียงพันเสียงว่า ในกาลนั้น เราเป็นพยานท่าน แต่นั้น มหาปฐพีได้กล่าวว่า ท่านสิทธัตถะ ทานที่ท่านให้แล้ว เป็นมหาทาน เป็นอุดมทาน.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่