สวัสดีค่ะ
เจ้าของกระทู้เจออุบัติเหตุกระดูกหักเมื่อเดือนตุลาคม ไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอท่านที่ 1 สั่งยาแคลเซียมแบบเม็ดซึ่งมีส่วนประกอบของแคลเซียมและวิตามินดีมาให้ บริษัทกรุงเทพประกันภัยซึ่งใช้อยู่ตามเดิมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรไม่ได้ขอให้สำรองจ่ายเพราะเป็นประกันอุบัติเหตุ
ต่อมาเปลี่ยนคุณหมอและแจ้งว่าไม่สามารถกินแคลเซียมเม็ดได้เพราะว่าทำให้เกิดอาการท้องเสียและปวดท้อง คุณหมอจึงเปลี่ยนให้เป็นยาแบบแคลเซียมเม็ดฟู่ซึ่งเป็นยาที่แต่ก่อนนี้เคยเกิดอุบัติเหตุกระดูกหักเมื่อ 3 ปีก่อนและใช้บริษัทประกันเดิมตอนนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร
เดือนตุลาคมก็ไปพบคุณหมออีกรอบนึงก็ได้รับแคลเซียมเม็ดฟู่มาให้ทานต่อเพราะว่ากระดูกยังไม่สมานกันเป็นเม็ดฟู่เหมือนเดิมก็ไม่มีปัญหาอะไร จ่ายยามา ไม่ได้ต้องจ่ายอะไรเพราะรักษาต่อเนื่อง วงเงินก็ยังไม่หมด
แต่กลายเป็นว่าพอเดือนพฤศจิกายนเข้าไปตรวจอีกรอบเพื่อติดตามว่ากระดูกสมานหรือยัง คุณหมอก็จ่ายแคลเซียมตัวเดิมเม็ดฟู่มา 2 หลอดแต่เจ้าของกระทู้ยังไม่ได้ทาน ผ่านไปอีกเดือนหนึ่งคุณหมอนัดดูอาการ ก็จ่ายยาเหมือนเดิมเป็นแคลเซียมเม็ดฟู่ เพื่อให้สมานกันดี
ปรากฏว่าประมาณ 2 อาทิตย์หลังจากนั้น โรงพยาบาลโทรมาบอกว่าเราติดหนี้เขาอยู่เพราะว่าบริษัทประกันนี้คือ กรุงเทพฯประกันภัย ไม่ยอมจ่ายเงินค่าแคลเซียม ทั้งๆที่แต่ก่อนก็จ่ายมาโดยตลอด ยาทั้งแบบเม็ดและเม็ดฟู่ก็มีตัวยาเหมือนกัน
อยากถามว่าแบบนี้เราในฐานะผู้บริโภคจะสามารถทำอะไรได้ไหมเนื่องจากว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยถูกปฏิเสธมา เป็นการรักษาต่อเนื่องกันและคุณหมอก็ระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นกระดูกที่หักจำเป็นที่จะต้องกินแคลเซียม
วันนี้เข้าถามไปที่บริษัทประกัน ได้รับคำตอบว่าเนื่องจากแคลเซียมเม็ดฟู่นั้นมีวิตามินอยู่ด้วย ไม่ใช่แคลเซี่ยมอย่างเดียว แต่เราก็แย้งไปว่าเมื่อแต่ก่อนก็เคยให้จ่ายยาแบบเดียวกันเมื่อต.คง มาตามนั้นไม่เคยมีปัญหา แล้วทำไมคราวนี้ถึงไม่จ่าย ยังจะมาให้เราต้องเอาเงินไปจ่ายโรงพยาบาลอีก
เราก็เลยบอกว่ายานี้เรายังไม่ได้กินเลยคืนได้หรือไม่เขาก็บอกว่าเขาตอบไม่ได้เหมือนกัน
ดิฉันก็เลยคิดว่าจะไม่ทำประกันภัยกับบริษัทกรุงเทพประกันภัยอีกแล้ว และอยากรู้ว่าเพื่อนๆท่านใดมีประสบการณ์แบบนี้บ้างหรือเปล่าและควรจะเรียกร้องไปที่คปภ. อย่างไรดีคะ
กรณีนี้เป็นประกันอุบัติเหตุ PA บริษัทกรุงเทพประกันภัย
กรุงเทพประกันภัย ไม่ยอมจ่ายค่ายาแคลเซียมที่เคยจ่าย ทำอย่างไรได้ แจ้งคปภ. ได้ไหม
เจ้าของกระทู้เจออุบัติเหตุกระดูกหักเมื่อเดือนตุลาคม ไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอท่านที่ 1 สั่งยาแคลเซียมแบบเม็ดซึ่งมีส่วนประกอบของแคลเซียมและวิตามินดีมาให้ บริษัทกรุงเทพประกันภัยซึ่งใช้อยู่ตามเดิมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรไม่ได้ขอให้สำรองจ่ายเพราะเป็นประกันอุบัติเหตุ
ต่อมาเปลี่ยนคุณหมอและแจ้งว่าไม่สามารถกินแคลเซียมเม็ดได้เพราะว่าทำให้เกิดอาการท้องเสียและปวดท้อง คุณหมอจึงเปลี่ยนให้เป็นยาแบบแคลเซียมเม็ดฟู่ซึ่งเป็นยาที่แต่ก่อนนี้เคยเกิดอุบัติเหตุกระดูกหักเมื่อ 3 ปีก่อนและใช้บริษัทประกันเดิมตอนนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร
เดือนตุลาคมก็ไปพบคุณหมออีกรอบนึงก็ได้รับแคลเซียมเม็ดฟู่มาให้ทานต่อเพราะว่ากระดูกยังไม่สมานกันเป็นเม็ดฟู่เหมือนเดิมก็ไม่มีปัญหาอะไร จ่ายยามา ไม่ได้ต้องจ่ายอะไรเพราะรักษาต่อเนื่อง วงเงินก็ยังไม่หมด
แต่กลายเป็นว่าพอเดือนพฤศจิกายนเข้าไปตรวจอีกรอบเพื่อติดตามว่ากระดูกสมานหรือยัง คุณหมอก็จ่ายแคลเซียมตัวเดิมเม็ดฟู่มา 2 หลอดแต่เจ้าของกระทู้ยังไม่ได้ทาน ผ่านไปอีกเดือนหนึ่งคุณหมอนัดดูอาการ ก็จ่ายยาเหมือนเดิมเป็นแคลเซียมเม็ดฟู่ เพื่อให้สมานกันดี
ปรากฏว่าประมาณ 2 อาทิตย์หลังจากนั้น โรงพยาบาลโทรมาบอกว่าเราติดหนี้เขาอยู่เพราะว่าบริษัทประกันนี้คือ กรุงเทพฯประกันภัย ไม่ยอมจ่ายเงินค่าแคลเซียม ทั้งๆที่แต่ก่อนก็จ่ายมาโดยตลอด ยาทั้งแบบเม็ดและเม็ดฟู่ก็มีตัวยาเหมือนกัน
อยากถามว่าแบบนี้เราในฐานะผู้บริโภคจะสามารถทำอะไรได้ไหมเนื่องจากว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยถูกปฏิเสธมา เป็นการรักษาต่อเนื่องกันและคุณหมอก็ระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นกระดูกที่หักจำเป็นที่จะต้องกินแคลเซียม
วันนี้เข้าถามไปที่บริษัทประกัน ได้รับคำตอบว่าเนื่องจากแคลเซียมเม็ดฟู่นั้นมีวิตามินอยู่ด้วย ไม่ใช่แคลเซี่ยมอย่างเดียว แต่เราก็แย้งไปว่าเมื่อแต่ก่อนก็เคยให้จ่ายยาแบบเดียวกันเมื่อต.คง มาตามนั้นไม่เคยมีปัญหา แล้วทำไมคราวนี้ถึงไม่จ่าย ยังจะมาให้เราต้องเอาเงินไปจ่ายโรงพยาบาลอีก
เราก็เลยบอกว่ายานี้เรายังไม่ได้กินเลยคืนได้หรือไม่เขาก็บอกว่าเขาตอบไม่ได้เหมือนกัน
ดิฉันก็เลยคิดว่าจะไม่ทำประกันภัยกับบริษัทกรุงเทพประกันภัยอีกแล้ว และอยากรู้ว่าเพื่อนๆท่านใดมีประสบการณ์แบบนี้บ้างหรือเปล่าและควรจะเรียกร้องไปที่คปภ. อย่างไรดีคะ
กรณีนี้เป็นประกันอุบัติเหตุ PA บริษัทกรุงเทพประกันภัย