สวัสดีค่ะ ขอเริ่มจากเรากับแฟนอายุ22 เรียนกำลังเรียนมหาลัยอยู่ คณะที่เรียนเราจะมีการฝึกงานปีละ6เดือน ส่วนแฟนเราไม่ได้เรียนทำงานแล้ว
เรากับแฟนคบกันมาจะ3ปีแล้ว ความสัมพันธ์แรกจะเป็นการแค่คุยกันทางโทรศัพท์แต่เราเลิกงานหรือเลิกเรียนเขาก็จะมารับไปส่ง หลังๆเริ่มไปนอนบ้านเขาทุกเสาร์อาทิตย์แล้วก็กลับมานอนบ้านตัวเองเป็นหลัก จนปัจจุบันเรามาอยู่บ้านแฟนได้ปีกว่าแล้ว เวลาเรียนแฟนก็จะไปส่งซึ่งมหาลัยเราอยู่ไกลบ้านแฟนประมาณครึ่งชั่วโมง ถ้าแฟนเราไม่ว่าง ก็จะมีน้องที่รู้จักแถวบ้านไปส่ง ซึ่งมาอยู่แรกๆเราไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะช่วงที่เรามาแรกๆเป็นช่วงที่ปิดเทอม ไม่ได้ฝึกงานและไม่ได้เรียน มันทำให้เราว่าง แฟนไปทำงาน พ่อแม่แฟนไปทำงาน เราอยู่บ้านกับยายของแฟนสองคน เราว่างเราก็จะซักผ้าของเรา ซึ่งมันมีเสื้อผ้าพ่อแม่อยู่ในเครื่องเราก็ซักให้ด้วย มีทั้งกางเกงในของพ่อแม่แฟนเราก็ไม่เคยซีเรียสก็ซักให้ปกติ ค่าผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่มต่างๆ เราเป็นคนจ่ายเองเพราะซักเองก็ไปซื้อเลย บอกก่อนนะคะพ่อกับแม่แฟนอายุ50+กันแล้ว แล้วหลังๆมานี่เป็นช่วงที่เรากลับมาทำงานซึ่งเราทำงานวันละ10-12ชั่วโมงมีวันหยุดอาทิตย์ละ1วัน เลือกวันหยุดไม่ได้ ทำให้เราไม่ได้มีการซักผ้าหรือทำกับข้าวใดๆ เพราะแค่ทำงานก็เหนื่อยมากแล้ว แต่เราก็ยังซักเสื้อผ้าทำงานของตัวเองอยู่

1 เงินเดือนแฟนเราเป็นคนเก็บทุกบาท แฟนมีภาระคือผ่อนรถ1คัน เดือนละ2500แต่เราให้ส่ง3000ทุกเดือนรถจะได้หมดไวๆ
2 ในช่วงที่เราฝึกงานแม่แฟนจะมาเปิดประตูห้องมาเอาผ้าไปซักให้ทุกเสาร์อาทิตย์ซึ่งเราหลับ ตื่นมาจะไปทำงานตอนบ่ายก็เห็นผ้าตากไว้แล้วแต่พ่อแฟนจะชอบพูดใส่ว่า ตังก็ไม่ได้ ผ้าก็ต้องซักให้ ค่าผงซักฟอกค่าน้ำยาปรับผ้านุ่มก็ต้องออก เขาจะพูดแนวๆเราจะออกแนวทำเหมือนพูดเล่นๆแต่พูดบ่อยๆเข้าเราก็ไม่โอเค ซึ่งของที่เขาพูดเป็นเงินแค่20-30บาทต่ออาทิตย์ ซึ่งบางทีเราซื้อเป็นห่อใหญ่มาไว้ให้ด้วยซ้ำ ไว้ให้ใช้ได้หลายๆเดือน
3 แฟนเรามีพี่ชาย1คนซึ่งเสียชีวิตแล้ว เป็นจากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งพ่อแม่แฟนหวังว่าจะได้เงินจากที่พี่ชายแฟนเสียชีวิต เขาคิดว่าจะได้เงินจนเขาไปกู้หนี้ยืมสินต่างๆตามนอกระบบ และเลิกส่งรถ พร้อมทั้งขายรถไปทั้งที่ยังส่งไม่หมด หลังจากที่พี่ชายแฟนเสียจนถึงตอนนี้ก็ปีกว่าแล้ว เขาก็ยังไม่ได้เงินเพราะในอุบัติเหตุพี่ชายแฟนเราเป็นฝ่ายผิด จนเรื่องถึงศาล แช้วตอนนี้หนี้ที่เขามีก็ขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ทั้งนอกระบบทั้งยืมคนรอบตัวซึ่งยืมแล้วไม่คืนจนคนรอบตัวไม่มีใครให้ยืม ซึ่งรวมถึงเราก็โดนเขายืมเงินไป1หมื่นบาทแต่เงินนั้น เป็นเพราะตอนพี่ชายแฟนเสียพ่อให้แฟนลาออกจากงานแล้วเขาบอกจะส่งรถให้ จนเขามา
บอกว่าไม่ได้ส่งรถมา3งวดรถจะโดนยึดเลยขอยืมตังทีาบ้านเรามาส่งรถ2งวด เป็นเงิน6000กว่าบาท ซึ่งบ้านเราให้เงินมา10000บาท เพราะว่าเราเป็นคนขอ
ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้คืนและมีคนรอบตัวต่างๆทักหาเเฟนเราว่าบอกพ่อแม่ให้คืนเงินหน่อย1พันบ้าง3พันบ้าง
4 คำพูดคำจาของพ่อแม่แฟนสำหรับเราค่อยข้างแรง บางทีก็จะพูดเนบแนบเราว่ามีเงินกินข้าวมีเงินซื้อนู้นนี่แต่เขากินไข่กินน้ำพริกผักทุกวันหรือบางทีเรียกว่าคำต่างๆ ที่เราไม่ชอบ มีอยู่วันนึงแฟนเรานอนโรงบาลแล้วแฟนเราไม่ชอบอยู่คนเดียวแต่เรามีสอบ เลยให้พ่อแม่แฟนเฝ้า เรารู้ว่าเขาไปทำธุระแต่มัน2-3ชั่วโมงแล้วเราเลยทักหาพ่อว่ากลับมาอยู่กับแฟนเราหรือยัง ซึ่งเขาตอบมาว่าพวกอย่ามาปัญญาอ่อน ซึ่งเราอึ้งและะโมโหมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งคำพูดพวกนี้เป็นคำที่แม้แต่คนในครอบครัวเราก็ไม่ได้พูดกับเรา พ่อแม่แฟนความที่เป็นคนแก่เวลาพูดคุยกันเขาก็จะตะโกนแล้วก็พูดกูๆๆ
5 พ่อแม่แฟนจะคิดว่าเรากับแฟนมีเงินตลอด จะพยายามขอเงินเราหรือบางทียืมรถเราไปตลาดแต่รถพังมาเราต้องเป็นจ่ายค่าซ่อมทั้งหมด
6 พ่อแฟนชอบเปิดเพลงดังๆแต่เช้าซึ่งเขาตื่นตี5 6โมงก็จะตื่นมานั่งกินกาแฟแล้วก็เปิดเพลงจากลำโพงรถดังๆ ซึ่งเราทำงานเลิกเที่ยงตีหนึ่ง เราก็อยากนอนให้เต็มที่ และเราเป็นไมเกรนฟังอะไรเสียงดังๆจะปวดหัวมากมันก็ทำให้เราปวดหัวทุกวันต้องกินยาทุกวัน

ซึ่งปัญหาต่างๆสำหรับเราเป็นเรื่องที่สามารถปล่อยผ่านได้ มีแต่เรื่องคำพูดคำจากับเงินที่เป็นปัญหาหลักๆ
ซึ่งบ้านเราก็อยู่กับคนแก่ ย่าเราอายุจะ70แล้วแต่ก็ยังแข็งแรงยังทำงานอยู่ แม่เราอายุ40+กก็ยังทำงานและคนที่บ้านเราไม่เคยเอ่ยปากขอเงินเราสักบาททหรือไม่ทีการพูดจาที่เป็นการบั่นทอน 
ที่สงสัยคือทั้งที่พ่อแม่แฟนนเงินเดือนรวมกัน6หมื่น+ ส่งรถเขา1หมื่น เติมน้ำมันไว้ทำงานงานเดือน2หมื่นก็ยังเหลือเงินอีก3หมื่นมันหายไปไหน ทั้งที่ค่าไฟเดือนละพันกว่าบาทก็ค่าเขาไว้ ไม่ยอมจ่าย ค่าน้ำไม่ถึงร้อยก็ไม่จ่าย ค่าโทรศัพท์เดือนละ300ก็ไม่จ่ายจนซิมโดนระงับ พวกเครื่องครัวต่างๆเราก็เป็นคนซื้อ
หนี้สินต่างๆ ก็บล็อกเบอร์บล็อกไลน์หนี้หมด ไม่ยอมจ่ายแต่เงินมันไปไหนหมด ทำไมถึงต้องมาแซะมาขอแหนเราขอเราอยู่เรื่อย จริงไเขาจะพูดดีกับเราเวล่เขาจะขอเงินเรา พอเหมือนบางทีไม่มีให้เขาก็จะกลับมาพูดจาแซะเนบแนบเราเหมือนเดิม ซึ่งเราไม่สามารถแยกออกมาอยู่ห้องพักได้เพราะไม่อยากมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม