
วันนี้จะมารีวิวหลังใช้งาน Mibro GS Pro มาสักพักครับ เช่น การออกกำลังกาย การใช้งานทั่วไป แจ้งเตือน การวัดการนอน และเรื่องหน้าจอที่ผมว่ามันลื่นตา สีสดจริงๆครับ
ดูรีวิวตัวเป็นๆได้ที่ Youtube ครับ
อุปกรณ์ในกล่อง
- ตัวเครื่อง Mibro Watch GS Pro
- สายชาร์จแบบแม่เหล็ก
- สายนาฬิกาแบบผ้า
- คู่มือการใช้งาน
วัสดุและดีไซน์ ตัวนี้ใส่ตอนแรกเลยรู้สึกเลยว่าเบากว่ารุ่นก่อนๆที่ใช้งานมา รุ่นนี้วัสดุตัวเรือนจะใช้ PF + GF จะเป็นพลาสติกคุณภาพสูง แบบว่าเหนียวแข็ง ไม่เป็นรอยง่าย ไม่อุ้มน้ำ ไม่เป็นสนิม คือถ้าโดนน้ำแค่สลัดน้ำจะออกครับ ผิวจะเป็นแบบเนื้อเม็ดทรายผิวด้าน ตรง Bezel หน้าปัดจะเป็นวัสดุสเตนเลส 316L ทนทานต่อรอยกับการกัดกร่อน ขอบหน้าปัดมากับตัวเลขนาที มีสามเหลี่ยมสีแดงด้านบน ออกแบบสวยดี ออกแนวสปอร์ต มันจะตัดกับปุ่มสีแดงด้านข้างของตัวเครื่อง รุ่นนี้มี 2 ปุ่ม ปุ่มแรกเป็นปุ่มเมนู+power ปุ่มสองสีแดงเป็นปุ่มทางลัดสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นเมนูไหนครับ

ด้านหลังจะมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ อัพเกรดใหม่ทั้หมด วัดแม่น วัดได้เร็วครับ มีไมค์และลำโพงในตัว คุยผ่านนาฬิกาได้เลย ขอบอกเลยว่าลำโพงแบบดังมากกกกก 5555 การกันน้ำรุ่นนี้กันน้ำระดับ 5ATM โดนน้ำโดนฝน หายห่วงครับ

สายตัวนี้จะมี 2 แบบมาให้ครับ แบบแรกจะเป็นซิลิโคน อันนี้ติดมากับเครื่องเลย กับอีกอันจะเป็นแบบผ้า สายใช้ขนาด 18มม. ครับ สามารถใช้แบบอื่นมาใส่ได้ที่ขนาดเท่ากัน ส่วนตัวชอบแบบผ้า แต่ซิลิโคนก็ใช้ได้ดีครับ ใส่แล้วไม่รู้สึกคันหรือกดทับเป็นรอย สามารถใส่นอนได้ปกติครับ

หน้าจอ อันนี้น่าจะเป็นจุดที่ชอบสำหรับรุ่นนี้คือหน้าจอ ส่วนตัวมองว่าสวยดี จอแบบแบนคมชัด จอเต็มวงกลมด้วย ปกติถ้ารุ่นที่จอเต็ม ส่วนมากจะไม่ไม่มีเซนเซอร์ปรับแสงหน้าจออัตโนมัติมาให้ แต่ตัวนี้มีมาให้ครับ ตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอว่าเซนเซอร์ไปอยู่ตรงไหน 555
รุ่นนี้หน้าจอขนาด 1.43 นิ้ว แบบ AMOLED รีเฟรชเรท 60Hz ติดนิ้วดีมาก พูดตรงตามการปัดทำได้ดีกว่าบางรุ่นที่ราคาแพงกว่านี้อีก เวลาปัดเลื่อน ไม่ต้องกดแรง รีเฟรชเรทเกือบจะ 60Hz ตลอด ปัดติดมือไม่กระตุกเลย อาจจะด้วยรุ่นนี้ใช้ชิป Dual-core การแสดงผลเลยทำได้เร็วครับ

ส่วนหน้าปัดก็มีให้มาเยอะมาก และที่สำคัญ หน้าปัดสวยจริง ทำให้มีมิติดี มีทั้งแบบปกติและแบบไดนามิกที่ดิ้นได้ (อันนี้ต้องเป็นสมาร์ทที่แรงๆ ใช้ชิปแรง ถึงจะใช้หน้าปัดแบบไดนามิกแบบเนียนๆได้) ที่ชอบอันอีกจะเป็นส่วนของ Animation ของเข็มต่างๆ โดยเฉพาะเข็มยาว มีหลายแบบ ไม่ได้มีแค่เข็มเป็นเส้นๆ แต่มีเป็นเข็มแบบไล่สีด้วย อันนี้ชอบจริงๆ ครับ มันทำให้ดูนาฬิกาแบบไม่เบื่อเลย 555

ส่วน AOD (Always on display) คือการเปิดหน้าปัดแบบขาวดำธรรมดาไว้ตลอด แบบทั้งแบบเข็มนาฬิกาและแบบดิจิตอลมีให้เลือก 5 แบบ การตั้งค่าค่อนข้างละเอียด จะให้เปิดตลอดหรือว่า เปิดแล้วยกมือขึ้นจะแสดงหน้าจอหลัก ก็ได้ครับ ฟังก์ชันนี้กินแบตบ้างนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำให้แบตหมดเร็วขนาดต้องชาร์จวันต่อวันครับ
การแจ้งเตือน รุ่นมีแจ้งเตือน 2 แบบคือทั้งแบบสั่นและสั่นพร้อมเสียง การสั่นสามรรถปรับระดับได้ สั่นค่อนข้างแรง แรงแบบรู้สึกได้เลย ส่วนการแจ้งเตือนแบบเสียง รุ่นนี้ถ้าเชื่อมต่อกับมือถือแล้ว จะเหมือนเป็นการเชื่อมต่อลำโพง คือเสียงทุกอย่างที่บนมือถือจะออกตรงนี้ เช่นถ้าเสียงไลน์แบบมือถือ ถ้ามีแจ้งเตือนมา ก็จะเป็นเสียงไลน์แบบมือถือ แต่เสียงจะออกบนนาฬิกา หรือถ้าฟังเพลง เปิด Youtube เสียงก็จะออกที่นาฬิกาครับ แต่ถ้ามือถือเปิดโหมดสั่นไว้ เสียงก็จะไม่มีแจ้งเตือนบนนาฬิกาเหมือนกับในมือถือครับ เสียงความดังบนลำโพงบนนาฬิกาสามารถปรับได้ครับ การแจ้งเตือนเราสามารถเลือกแอปได้ว่าแอปไหนไม่ให้แจ้งเตือนหรือแจ้งเตือนทุกแอปก็ได้ครับ เป็นการประหยัดแบตในตัว



การแจ้งเตือนรองรับภาษาไทย ตัวหนังสืออ่านง่าย อ่านออกปกติ สามารถกดเข้าไปอ่านเป็นข้อความเต็มได้เลย แต่ถ้าข้อความยาวมากๆ ก็อาจจะอ่านไม่ครบครับ มีการปิดข้อความที่ส่งมาให้ครับ เพื่อกันไม่ให้คนอื่นอ่าน โดยจะขึ้นว่ามีข้อความแจ้งมา แล้วเราก็ไปกดอ่านในนาฬิกาต่อได้ครับ อันนี้ผมว่าดีเหมือนกันสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
การออกกำลังกาย รุ่นนี้มี GPS มาให้ 5 เครือข่าย ใช้งานครั้งแรกต้องให้จูนดาวเทียมหน่อย แต่หลังจากนั้นพอเข้าโหมดออกกำลังกายกลางแจ้ง ใช้เวลาแปปเดียวในการจูนครับ ผมใช้ปั่นจักรยาน ปั่นประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้งานได้ดี ไม่มีหลุด ระยะทางตรง ลองมาดูบนแอปละ ไม่วิ่งมั่ว ที่สำคัญปุ่ม 2 ปุ่มด้านข้างไม่โดนหน้ามือด้วย เพราะนาฬิกาบางรุ่นมีปุ่มตรงกลาง พอเรางอมืออาจจะไปโดนปุ่ม กลายเป็นหยุดการออกกำลังกายไปก็มีครับ อันนี้ผมเจอมาละ 5555 สรุปพอปั่นเสร็จ มาดูนาฬิกากลายเป็นหยุดออกกำลังกายไปตั้งแต่ 5 กิโลเมตรแรก เซ็งเลยครับ
การวัดสุขภาพ รุ่นนี้การวัดสุขภาพจะตั้งค่าแบบละเอียดผ่านแอป Mibro Fit นะครับ
- การวัดการเต้นอัตราของหัวใจ วัดแบบอัจฉริยะเป็นพักๆ หรือวัดแบบตลอด 24 ชั่วโมงได้ สามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือน อัตราการเต้นของหัวใจต่ำหรือสูงได้ กำหนดเป็นตัวเลขได้เลยครับ
- การวัดออกซิเจนในเลือกก็มีมาให้
- การวัดความเครียด วัดการแจ้งเตือนการยืน
- วัดการนอนหลับ วัดการงีบระหว่างวันก็ได้ครับ
- ตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ
- สำหรับผู้หญิงก็มีฟีเจอร์นับรอบเดือนด้วยครับ

การวัดการนอน น่าจะเป็นสมาร์ทวอชรุ่นแรกแบบแนวสปอร์ตถึกๆ ที่ผมเอาใส่นอนได้ โดยไม่รู้สึกอะไร เพราะมันเบาและไม่หนา ไม่รู้สึกกดทับเลย ลองใช้วัดการนอนก็ใช้งานได้ดีครับ รายละเอียดครบ ดูได้บนแอป หรือดูบนนาฬิกาก็ได้ ถ้าในแอปจะแสดงผลแบบละเอียดมาก ทั้ง นอนหลับลึก นอนหลับสบาย หลับแบบ REM ระยะการกรอกตาหรือวัดการตื่นก็มีมาให้ครับ
การเชื่อมต่อแอป Mibro Fit แอปตัวนี้ผมเคยชมตอนใช้งานตัว Mibro Lite 3 Pro ว่าใช้งานดีมาก ดูง่าย ละเอียดดี ในเรื่องของการออกกำลังกายก็แสดงผลแบบละเอียดยิบมากๆ หน้าปัดก็มีอัพเดตตลอด เช่นช่วงนี้เป็นช่วงปีใหม่ คริสมาส หน้าปัดซานต้าก็จะมีเยอะหน่อย และก็จะมีให้เลือกตามเทศกาลนั้นๆด้วยครับ ใช้งานเชื่อมต่อตลอด ยังไม่เจออาการหลุดตอนใช้งาน รองรับทั้ง iOS และ Android ครับ
แบตเตอรี่และการชาร์จ รุ่นนี้ให้แบตเตอรี่มา 460mAh การใช้งานของผม 5 วันแบตจะเหลือประมาณ 60% มีออกกำลังกายตอนเช้าเปิด GPS ประมาณ 40 นาทีแบตลดไป 6-8% ถ้าในช่วงสแตนบายและมีแจ้งเตือนบ้าง จะลดน้อยกว่านี้ครับ รุ่นนี้เคลมไว้ว่าใช้งานได้สูงสุด 20 วัน แต่หมดเร็วหรือช้าอยู่ที่การใช้งานของเราด้วยครับ ถ้ามีเปิด AOD ก็จะมีลดลงไปอีกหน่อยครับ รุ่นนี้ชาร์จผ่านหัวแม่เหล็กที่แถมมาให้นะครับ
สรุป สำหรับใครที่กำลังหาสมาร์ตวอชแนวสปอร์ต ไม่เทอะทะ น้ำหนักเบา ใส่ไปได้ทุกที หน้าจอสวย มี GPS ในตัว ลำโพง ไมค์คุยผ่านได้ หรือใครที่ชอบแต่งหน้าปัด Mibro GS Pro เป็นต้วเลือกอีกตัวที่ดี ใช้งานได้ในราคา 2,000 กว่าบาท ถ้ามีโปรน่าจะต่ำกว่า 2,000 ศูนย์ไทยประกัน 1 ปี ซื้อผ่านร้าน Mibro Official store หรือ Thaisuperphone ได้เลยครับ ของแท้มีรับประกันในประเทศนะครับ
[SR] รีวิว Mibro Watch GS Pro | ใครชอบหน้าปัดสวยๆ มาทางนี้ (อัพเดตล่าสุด)
วันนี้จะมารีวิวหลังใช้งาน Mibro GS Pro มาสักพักครับ เช่น การออกกำลังกาย การใช้งานทั่วไป แจ้งเตือน การวัดการนอน และเรื่องหน้าจอที่ผมว่ามันลื่นตา สีสดจริงๆครับ
ดูรีวิวตัวเป็นๆได้ที่ Youtube ครับ
อุปกรณ์ในกล่อง
- ตัวเครื่อง Mibro Watch GS Pro
- สายชาร์จแบบแม่เหล็ก
- สายนาฬิกาแบบผ้า
- คู่มือการใช้งาน
วัสดุและดีไซน์ ตัวนี้ใส่ตอนแรกเลยรู้สึกเลยว่าเบากว่ารุ่นก่อนๆที่ใช้งานมา รุ่นนี้วัสดุตัวเรือนจะใช้ PF + GF จะเป็นพลาสติกคุณภาพสูง แบบว่าเหนียวแข็ง ไม่เป็นรอยง่าย ไม่อุ้มน้ำ ไม่เป็นสนิม คือถ้าโดนน้ำแค่สลัดน้ำจะออกครับ ผิวจะเป็นแบบเนื้อเม็ดทรายผิวด้าน ตรง Bezel หน้าปัดจะเป็นวัสดุสเตนเลส 316L ทนทานต่อรอยกับการกัดกร่อน ขอบหน้าปัดมากับตัวเลขนาที มีสามเหลี่ยมสีแดงด้านบน ออกแบบสวยดี ออกแนวสปอร์ต มันจะตัดกับปุ่มสีแดงด้านข้างของตัวเครื่อง รุ่นนี้มี 2 ปุ่ม ปุ่มแรกเป็นปุ่มเมนู+power ปุ่มสองสีแดงเป็นปุ่มทางลัดสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นเมนูไหนครับ
ด้านหลังจะมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ อัพเกรดใหม่ทั้หมด วัดแม่น วัดได้เร็วครับ มีไมค์และลำโพงในตัว คุยผ่านนาฬิกาได้เลย ขอบอกเลยว่าลำโพงแบบดังมากกกกก 5555 การกันน้ำรุ่นนี้กันน้ำระดับ 5ATM โดนน้ำโดนฝน หายห่วงครับ
สายตัวนี้จะมี 2 แบบมาให้ครับ แบบแรกจะเป็นซิลิโคน อันนี้ติดมากับเครื่องเลย กับอีกอันจะเป็นแบบผ้า สายใช้ขนาด 18มม. ครับ สามารถใช้แบบอื่นมาใส่ได้ที่ขนาดเท่ากัน ส่วนตัวชอบแบบผ้า แต่ซิลิโคนก็ใช้ได้ดีครับ ใส่แล้วไม่รู้สึกคันหรือกดทับเป็นรอย สามารถใส่นอนได้ปกติครับ
หน้าจอ อันนี้น่าจะเป็นจุดที่ชอบสำหรับรุ่นนี้คือหน้าจอ ส่วนตัวมองว่าสวยดี จอแบบแบนคมชัด จอเต็มวงกลมด้วย ปกติถ้ารุ่นที่จอเต็ม ส่วนมากจะไม่ไม่มีเซนเซอร์ปรับแสงหน้าจออัตโนมัติมาให้ แต่ตัวนี้มีมาให้ครับ ตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอว่าเซนเซอร์ไปอยู่ตรงไหน 555
รุ่นนี้หน้าจอขนาด 1.43 นิ้ว แบบ AMOLED รีเฟรชเรท 60Hz ติดนิ้วดีมาก พูดตรงตามการปัดทำได้ดีกว่าบางรุ่นที่ราคาแพงกว่านี้อีก เวลาปัดเลื่อน ไม่ต้องกดแรง รีเฟรชเรทเกือบจะ 60Hz ตลอด ปัดติดมือไม่กระตุกเลย อาจจะด้วยรุ่นนี้ใช้ชิป Dual-core การแสดงผลเลยทำได้เร็วครับ
ส่วนหน้าปัดก็มีให้มาเยอะมาก และที่สำคัญ หน้าปัดสวยจริง ทำให้มีมิติดี มีทั้งแบบปกติและแบบไดนามิกที่ดิ้นได้ (อันนี้ต้องเป็นสมาร์ทที่แรงๆ ใช้ชิปแรง ถึงจะใช้หน้าปัดแบบไดนามิกแบบเนียนๆได้) ที่ชอบอันอีกจะเป็นส่วนของ Animation ของเข็มต่างๆ โดยเฉพาะเข็มยาว มีหลายแบบ ไม่ได้มีแค่เข็มเป็นเส้นๆ แต่มีเป็นเข็มแบบไล่สีด้วย อันนี้ชอบจริงๆ ครับ มันทำให้ดูนาฬิกาแบบไม่เบื่อเลย 555
ส่วน AOD (Always on display) คือการเปิดหน้าปัดแบบขาวดำธรรมดาไว้ตลอด แบบทั้งแบบเข็มนาฬิกาและแบบดิจิตอลมีให้เลือก 5 แบบ การตั้งค่าค่อนข้างละเอียด จะให้เปิดตลอดหรือว่า เปิดแล้วยกมือขึ้นจะแสดงหน้าจอหลัก ก็ได้ครับ ฟังก์ชันนี้กินแบตบ้างนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำให้แบตหมดเร็วขนาดต้องชาร์จวันต่อวันครับ
การแจ้งเตือน รุ่นมีแจ้งเตือน 2 แบบคือทั้งแบบสั่นและสั่นพร้อมเสียง การสั่นสามรรถปรับระดับได้ สั่นค่อนข้างแรง แรงแบบรู้สึกได้เลย ส่วนการแจ้งเตือนแบบเสียง รุ่นนี้ถ้าเชื่อมต่อกับมือถือแล้ว จะเหมือนเป็นการเชื่อมต่อลำโพง คือเสียงทุกอย่างที่บนมือถือจะออกตรงนี้ เช่นถ้าเสียงไลน์แบบมือถือ ถ้ามีแจ้งเตือนมา ก็จะเป็นเสียงไลน์แบบมือถือ แต่เสียงจะออกบนนาฬิกา หรือถ้าฟังเพลง เปิด Youtube เสียงก็จะออกที่นาฬิกาครับ แต่ถ้ามือถือเปิดโหมดสั่นไว้ เสียงก็จะไม่มีแจ้งเตือนบนนาฬิกาเหมือนกับในมือถือครับ เสียงความดังบนลำโพงบนนาฬิกาสามารถปรับได้ครับ การแจ้งเตือนเราสามารถเลือกแอปได้ว่าแอปไหนไม่ให้แจ้งเตือนหรือแจ้งเตือนทุกแอปก็ได้ครับ เป็นการประหยัดแบตในตัว
การแจ้งเตือนรองรับภาษาไทย ตัวหนังสืออ่านง่าย อ่านออกปกติ สามารถกดเข้าไปอ่านเป็นข้อความเต็มได้เลย แต่ถ้าข้อความยาวมากๆ ก็อาจจะอ่านไม่ครบครับ มีการปิดข้อความที่ส่งมาให้ครับ เพื่อกันไม่ให้คนอื่นอ่าน โดยจะขึ้นว่ามีข้อความแจ้งมา แล้วเราก็ไปกดอ่านในนาฬิกาต่อได้ครับ อันนี้ผมว่าดีเหมือนกันสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
การออกกำลังกาย รุ่นนี้มี GPS มาให้ 5 เครือข่าย ใช้งานครั้งแรกต้องให้จูนดาวเทียมหน่อย แต่หลังจากนั้นพอเข้าโหมดออกกำลังกายกลางแจ้ง ใช้เวลาแปปเดียวในการจูนครับ ผมใช้ปั่นจักรยาน ปั่นประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้งานได้ดี ไม่มีหลุด ระยะทางตรง ลองมาดูบนแอปละ ไม่วิ่งมั่ว ที่สำคัญปุ่ม 2 ปุ่มด้านข้างไม่โดนหน้ามือด้วย เพราะนาฬิกาบางรุ่นมีปุ่มตรงกลาง พอเรางอมืออาจจะไปโดนปุ่ม กลายเป็นหยุดการออกกำลังกายไปก็มีครับ อันนี้ผมเจอมาละ 5555 สรุปพอปั่นเสร็จ มาดูนาฬิกากลายเป็นหยุดออกกำลังกายไปตั้งแต่ 5 กิโลเมตรแรก เซ็งเลยครับ
การวัดสุขภาพ รุ่นนี้การวัดสุขภาพจะตั้งค่าแบบละเอียดผ่านแอป Mibro Fit นะครับ
- การวัดการเต้นอัตราของหัวใจ วัดแบบอัจฉริยะเป็นพักๆ หรือวัดแบบตลอด 24 ชั่วโมงได้ สามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือน อัตราการเต้นของหัวใจต่ำหรือสูงได้ กำหนดเป็นตัวเลขได้เลยครับ
- การวัดออกซิเจนในเลือกก็มีมาให้
- การวัดความเครียด วัดการแจ้งเตือนการยืน
- วัดการนอนหลับ วัดการงีบระหว่างวันก็ได้ครับ
- ตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ
- สำหรับผู้หญิงก็มีฟีเจอร์นับรอบเดือนด้วยครับ
การวัดการนอน น่าจะเป็นสมาร์ทวอชรุ่นแรกแบบแนวสปอร์ตถึกๆ ที่ผมเอาใส่นอนได้ โดยไม่รู้สึกอะไร เพราะมันเบาและไม่หนา ไม่รู้สึกกดทับเลย ลองใช้วัดการนอนก็ใช้งานได้ดีครับ รายละเอียดครบ ดูได้บนแอป หรือดูบนนาฬิกาก็ได้ ถ้าในแอปจะแสดงผลแบบละเอียดมาก ทั้ง นอนหลับลึก นอนหลับสบาย หลับแบบ REM ระยะการกรอกตาหรือวัดการตื่นก็มีมาให้ครับ
การเชื่อมต่อแอป Mibro Fit แอปตัวนี้ผมเคยชมตอนใช้งานตัว Mibro Lite 3 Pro ว่าใช้งานดีมาก ดูง่าย ละเอียดดี ในเรื่องของการออกกำลังกายก็แสดงผลแบบละเอียดยิบมากๆ หน้าปัดก็มีอัพเดตตลอด เช่นช่วงนี้เป็นช่วงปีใหม่ คริสมาส หน้าปัดซานต้าก็จะมีเยอะหน่อย และก็จะมีให้เลือกตามเทศกาลนั้นๆด้วยครับ ใช้งานเชื่อมต่อตลอด ยังไม่เจออาการหลุดตอนใช้งาน รองรับทั้ง iOS และ Android ครับ
แบตเตอรี่และการชาร์จ รุ่นนี้ให้แบตเตอรี่มา 460mAh การใช้งานของผม 5 วันแบตจะเหลือประมาณ 60% มีออกกำลังกายตอนเช้าเปิด GPS ประมาณ 40 นาทีแบตลดไป 6-8% ถ้าในช่วงสแตนบายและมีแจ้งเตือนบ้าง จะลดน้อยกว่านี้ครับ รุ่นนี้เคลมไว้ว่าใช้งานได้สูงสุด 20 วัน แต่หมดเร็วหรือช้าอยู่ที่การใช้งานของเราด้วยครับ ถ้ามีเปิด AOD ก็จะมีลดลงไปอีกหน่อยครับ รุ่นนี้ชาร์จผ่านหัวแม่เหล็กที่แถมมาให้นะครับ
สรุป สำหรับใครที่กำลังหาสมาร์ตวอชแนวสปอร์ต ไม่เทอะทะ น้ำหนักเบา ใส่ไปได้ทุกที หน้าจอสวย มี GPS ในตัว ลำโพง ไมค์คุยผ่านได้ หรือใครที่ชอบแต่งหน้าปัด Mibro GS Pro เป็นต้วเลือกอีกตัวที่ดี ใช้งานได้ในราคา 2,000 กว่าบาท ถ้ามีโปรน่าจะต่ำกว่า 2,000 ศูนย์ไทยประกัน 1 ปี ซื้อผ่านร้าน Mibro Official store หรือ Thaisuperphone ได้เลยครับ ของแท้มีรับประกันในประเทศนะครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้