วิธี ห่มดิน เตรียมดูแลพืชหน้าแล้ง มีเทคนิคยังไงบ้าง ?
.
คำว่า “ห่มดิน” คืออะไร สามารถทำให้ดิน พืช ที่ปลูกได้ประโยชน์อะไรบ้าง เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันครับ
.
“ห่มดิน” สามารถเรียกได้อีกชื่อว่า “คลุมดิน” ซึ่งการห่มดินคือการนำฟาง เศษใบไม้แห้ง หรือหญ้าแห้ง นำมาคลุมดินจากนั้นตามด้วยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อเป็นอาหารบำรุงให้แก่ดิน เมื่อดินเกิดกระบวนการย่อยสลาย ก็จะปล่อยแร่ธาตุสารอาหารออกมา เรียกว่า “การเลี้ยงดิน ให้ดินดูแลพืช”
.
วิธีการห่มดิน เหมาะมากสำหรับการปลูกพืชหน้าแล้ง เพราะจะช่วยรักษาความชื้นในดิน ไม่ให้ระเหยไปกับอากาศที่ร้อน แถมยังช่วยปรับปรุงดินดินก่อนการเพาะปลูกและเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดิน นอกจากนั้นยังป้องกันการเจริญเติบโตของวัชพืชในแปลงที่ปลูกได้ด้วย
.
เทคนิคการห่มดินมีขั้นตอนดังนี้
.
1.การห่มดินเพื่อรักษาความชื้น
- เตรียมวัสดุ เช่น ฟาง เศษหญ้าแห้ง เศษใบไม้แห้ง โรยรอบโคนต้นไม้ประเภทไม้ยืนต้น โดยเว้นพื้นที่ให้ห่างจากโคนต้น 1 คืบ และให้มีความหนาประมาณ 1คืบ-1ฟุต ทำลักษณะเป็นวงกลมเหมือนโดนัท
- จากนั้นโรยด้วยปุ๋ยคอก หรือมูลสัตว์บาง ๆ และรดน้ำหมักชีวภาพที่ผสมน้ำแบบเจือจางให้ทั่ว
.
2.การห่มดินเพื่อปรับปรุงดิน
- การห่มดินเพื่อปรับปรุงดินสามารถใช้กับดินใหม่และดินที่เสื่อมสภาพ ก่อนทำการเพาะปลูก
- เตรียมเศษฟาง เศษหญ้า หรือเศษใบไม้ โรบไปทั่วทั้งแปลง ความหนาอย่างน้อย 1 ฟุต
- จากนั้นโรยปุ๋ยคอก และรดน้ำหมักชีวภาพผสมน้ำแบบเข้มข้น อัตราส่วน 1:10
.
ข้อควรระวังในการห่มดิน ในบริเวณพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟใหม้ ควรทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันไฟไหม้และลุกลาม เนื่องจาก วัสดุที่นำมาห่มดินเป็นวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงที่ดี ควรมีการป้องกันไว้ก่อน
.
การห่มดินนอกจากจะช่วยรักษาความชื้นของดินในช่วงหน้าแล้งแล้ว ยังช่วยให้ดินกลับมาอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากกระบวนการย่อยสลายของเศษซากใบไม้และน้ำหมักชีวภาพที่เติมลงไป ใครที่ปลูกพืชแล้วกังวลปัญหาภัยแล้งที่จะมาถึงลองนำเทคนิคนี้ไปเตรียมใช้ไว้ก่อนได้เลยครับ
.
ที่มา
กลุ่มวางแผนการจัดการที่ดินในพื้นที่เสี่ยงภัยทางการเกษตร กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดินกรมพัฒนาที่ดิน
ห่มดิน ช่วยลดการคายน้ำของต้นไม้ในช่วงหน้าหนาว ....
.
คำว่า “ห่มดิน” คืออะไร สามารถทำให้ดิน พืช ที่ปลูกได้ประโยชน์อะไรบ้าง เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันครับ
.
“ห่มดิน” สามารถเรียกได้อีกชื่อว่า “คลุมดิน” ซึ่งการห่มดินคือการนำฟาง เศษใบไม้แห้ง หรือหญ้าแห้ง นำมาคลุมดินจากนั้นตามด้วยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อเป็นอาหารบำรุงให้แก่ดิน เมื่อดินเกิดกระบวนการย่อยสลาย ก็จะปล่อยแร่ธาตุสารอาหารออกมา เรียกว่า “การเลี้ยงดิน ให้ดินดูแลพืช”
.
วิธีการห่มดิน เหมาะมากสำหรับการปลูกพืชหน้าแล้ง เพราะจะช่วยรักษาความชื้นในดิน ไม่ให้ระเหยไปกับอากาศที่ร้อน แถมยังช่วยปรับปรุงดินดินก่อนการเพาะปลูกและเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดิน นอกจากนั้นยังป้องกันการเจริญเติบโตของวัชพืชในแปลงที่ปลูกได้ด้วย
.
เทคนิคการห่มดินมีขั้นตอนดังนี้
.
1.การห่มดินเพื่อรักษาความชื้น
- เตรียมวัสดุ เช่น ฟาง เศษหญ้าแห้ง เศษใบไม้แห้ง โรยรอบโคนต้นไม้ประเภทไม้ยืนต้น โดยเว้นพื้นที่ให้ห่างจากโคนต้น 1 คืบ และให้มีความหนาประมาณ 1คืบ-1ฟุต ทำลักษณะเป็นวงกลมเหมือนโดนัท
- จากนั้นโรยด้วยปุ๋ยคอก หรือมูลสัตว์บาง ๆ และรดน้ำหมักชีวภาพที่ผสมน้ำแบบเจือจางให้ทั่ว
.
2.การห่มดินเพื่อปรับปรุงดิน
- การห่มดินเพื่อปรับปรุงดินสามารถใช้กับดินใหม่และดินที่เสื่อมสภาพ ก่อนทำการเพาะปลูก
- เตรียมเศษฟาง เศษหญ้า หรือเศษใบไม้ โรบไปทั่วทั้งแปลง ความหนาอย่างน้อย 1 ฟุต
- จากนั้นโรยปุ๋ยคอก และรดน้ำหมักชีวภาพผสมน้ำแบบเข้มข้น อัตราส่วน 1:10
.
ข้อควรระวังในการห่มดิน ในบริเวณพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟใหม้ ควรทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันไฟไหม้และลุกลาม เนื่องจาก วัสดุที่นำมาห่มดินเป็นวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงที่ดี ควรมีการป้องกันไว้ก่อน
.
การห่มดินนอกจากจะช่วยรักษาความชื้นของดินในช่วงหน้าแล้งแล้ว ยังช่วยให้ดินกลับมาอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากกระบวนการย่อยสลายของเศษซากใบไม้และน้ำหมักชีวภาพที่เติมลงไป ใครที่ปลูกพืชแล้วกังวลปัญหาภัยแล้งที่จะมาถึงลองนำเทคนิคนี้ไปเตรียมใช้ไว้ก่อนได้เลยครับ
.
ที่มา
กลุ่มวางแผนการจัดการที่ดินในพื้นที่เสี่ยงภัยทางการเกษตร กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดินกรมพัฒนาที่ดิน