ปลูกทุเรียนในอิสาน ทุเรียนในภาวะโลกร้อน

กระทู้สนทนา
คู่มือการจัดการสวนทุเรียนในภาวะโลกร้อน (ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม)


การวิเคราะห์ดินและน้ำ


ผู้ชำนาญด้านเคมี:
ตรวจ pH ดิน (ควรอยู่ที่ 5.5-6.5) และน้ำ (pH 6-7)
วิเคราะห์ธาตุอาหาร เช่น ไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม
ตรวจสารเคมีปนเปื้อน เช่น สารกำจัดศัตรูพืช


การปรับปรุงคุณภาพน้ำ


ผู้ชำนาญด้านการปรับปรุงคุณภาพน้ำ:
วัดค่า EC (ความเค็ม) ควรต่ำกว่า 1 mS/cm สำหรับทุเรียน
ใช้ระบบ Reverse Osmosis หรือถ่านกัมมันต์เพื่อลดสารเคมี
ใช้พืชกรองน้ำ เช่น ผักตบชวา หรือบ่อพักน้ำเพื่อลดความเค็ม



การเพิ่มความชื้นในอากาศ


ผู้ชำนาญด้านการเพิ่มความชื้นในอากาศ:
ติดตั้งสปริงเกลอร์หมอกเพื่อเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ให้ถึง 60-80%
ปลูกพืชคลุมดิน เช่น หญ้าแฝก เพื่อรักษาความชื้น
ใช้บ่อน้ำขนาดเล็กในสวนเพื่อเพิ่มความชื้นตามธรรมชาติ


การคัดเลือกพันธุ์ทุเรียน


ผู้ชำนาญด้านพันธุ์ทุเรียน:
พันธุ์ที่ทนร้อนและเค็ม: ก้านยาว, ชะนี
พันธุ์ผลผลิตสูง: หมอนทอง (ในพื้นที่ที่มีน้ำสะอาดและความชื้นเพียงพอ)
คำนึงถึงสภาพอีสาน เช่น ดินทรายและภัยแล้ง


การใช้จุลินทรีย์


ผู้ชำนาญด้านจุลินทรีย์:
ใช้ EM หรือ Trichoderma เพื่อฟื้นฟูดินทรายที่เสื่อมจากความร้อน
ควบคุมศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟ ด้วย Bacillus subtilis


การจัดการสวนในภาคอีสาน


ผู้ชำนาญด้านการปลูกทุเรียนและนักปลูกทุเรียนในภาคอีสานไทย:
ระบบน้ำหยดเพื่อประหยัดน้ำในช่วงภัยแล้ง
คลุมดินด้วยฟางหรือใบไม้เพื่อรักษาความชื้นในดินทราย
ตัดแต่งกิ่งเพื่อลดการสูญเสียน้ำและเพิ่มคุณภาพผล
ใช้ความรู้ท้องถิ่น เช่น การยกโคนต้นเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
...............
อยากปลูกทุเรียนใน ยโสธร แต่ มักจะใบร่วง และตาย แก้ยังไง

สาเหตุที่ใบร่วงและต้นตายในสวนทุเรียนที่ยโสธร
สภาพอากาศร้อนและแห้ง:
ยโสธรมีอากาศร้อน (อุณหภูมิเฉลี่ย 30-35°C) และความชื้นต่ำในฤดูแล้ง (อาจต่ำกว่า 50%) ทำให้ต้นทุเรียนเครียด ใบร่วง และอาจตาย
ภัยแล้งทำให้ขาดน้ำเพียงพอสำหรับราก
คุณภาพน้ำไม่เหมาะสม:
น้ำเค็ม (ค่า EC สูง > 1 mS/cm) หรือน้ำที่มีสารเคมีปนเปื้อน เช่น สารกำจัดศัตรูพืช ทำให้รากดูดซึมน้ำได้ยาก ส่งผลให้ใบร่วง
น้ำขาดแร่ธาตุที่จำเป็นในดินทรายของยโสธร
ดินทรายและขาดธาตุอาหาร:
ดินในยโสธรส่วนใหญ่เป็นดินทราย pH ต่ำ (4.5-5.5) ขาดธาตุอาหาร เช่น ไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส, และโพแทสเซียม ทำให้ต้นขาดสารอาหาร ใบเหลืองและร่วง
ศัตรูพืชและโรค:
เพลี้ยไฟหรือหนอนเจาะลำต้นระบาดหนักในสภาพร้อน ทำให้ใบเสียหายและต้นอ่อนแอ
โรครากเน่าหรือใบจุดจากเชื้อรา เช่น Phytophthora เกิดจากน้ำขังหรือดินชื้นเกินไป
พันธุ์ไม่เหมาะสม:
การเลือกพันธุ์ที่ไม่ทนต่อสภาพร้อนและแห้ง เช่น หมอนทอง ทำให้ต้นอ่อนแอ

แนวทางแก้ไขปัญหาใบร่วงและต้นตาย
1. การเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม (ผู้ชำนาญด้านพันธุ์ทุเรียน)
คำแนะนำ: เลือกพันธุ์ที่ทนร้อนและทนเค็ม เช่น ก้านยาว หรือ ชะนี ซึ่งเหมาะกับสภาพยโสธร มากกว่าหมอนทองที่ต้องการน้ำและความชื้นสูง
วิธีปฏิบัติ:
ซื้อต้นกล้าจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ
ทดสอบปลูกก้านยาวในแปลงทดลองขนาดเล็กก่อนขยายพื้นที่
เหตุผล: ก้านยาวทนต่อสภาพแห้งและดินทรายได้ดีกว่า ช่วยลดปัญหาใบร่วง
2. การจัดการคุณภาพน้ำ (ผู้ชำนาญด้านการปรับปรุงคุณภาพน้ำ)
ปัญหา: น้ำเค็มหรือมีสารเคมีปนเปื้อนในยโสธร ส่งผลให้รากเสียหายและใบร่วง
คำแนะนำ:
ตรวจวัดค่า EC ของน้ำ (ควรต่ำกว่า 1 mS/cm) และ pH (6-7)
ใช้ระบบกรองน้ำ เช่น Reverse Osmosis หรือถ่านกัมมันต์ เพื่อลดความเค็มและสารเคมี
ปลูกพืชกรองน้ำ เช่น ผักตบชวา ในบ่อพักน้ำ เพื่อลดสารพิษตามธรรมชาติ
วิธีปฏิบัติ:
ติดตั้งบ่อพักน้ำและใช้ถ่านกัมมันต์กรองน้ำก่อนรดต้น
หลีกเลี่ยงการใช้น้ำจากแหล่งที่มีน้ำเค็ม เช่น คลองชลประทานในช่วงน้ำทะเลหนุน
เหตุผล: น้ำสะอาดช่วยให้รากดูดซึมน้ำได้ดี ลดอาการใบร่วง
3. การเพิ่มความชื้นในอากาศ (ผู้ชำนาญด้านการเพิ่มความชื้นในอากาศ)
ปัญหา: ความชื้นต่ำในยโสธร (ฤดูแล้ง < 50%) ทำให้ใบร่วงและต้นเครียด
คำแนะนำ:
ติดตั้ง สปริงเกลอร์หมอก เพื่อเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ให้ถึง 60-80%
ปลูกพืชคลุมดิน เช่น หญ้าแฝก รอบโคนต้นเพื่อรักษาความชื้น
สร้างบ่อน้ำขนาดเล็กในสวนเพื่อเพิ่มความชื้นตามธรรมชาติ
วิธีปฏิบัติ:
ติดตั้งสปริงเกลอร์หมอกในช่วงเช้าและเย็น (หลีกเลี่ยงแดดจัด)
คลุมดินด้วยฟางหรือใบไม้แห้งเพื่อลดการระเหยของน้ำ
เหตุผล: ความชื้นที่เหมาะสมช่วยลดการสูญเสียน้ำของใบ ป้องกันใบร่วง
4. การปรับปรุงดิน (ผู้ชำนาญด้านเคมีและจุลินทรีย์)
ปัญหา: ดินทรายในยโสธรขาดธาตุอาหารและความชื้น ทำให้ต้นขาดสารอาหาร
คำแนะนำ:
ผู้ชำนาญด้านเคมี:
ตรวจ pH ดิน (ควรอยู่ที่ 5.5-6.5) ถ้าต่ำเกินไป ใช้ปูนขาวปรับ
ใช้ปุ๋ย NPK (15-15-15) ในระยะเจริญเติบโต และเพิ่มโพแทสเซียมเพื่อให้ต้นทนร้อน
ผู้ชำนาญด้านจุลินทรีย์:
ใช้ EM (Effective Microorganisms) หรือ Trichoderma เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ใส่ปุ๋ยคอกหมักเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุในดินทราย
วิธีปฏิบัติ:
ใส่ปุ๋ยคอก 5-10 กก./ต้น/ปี และ EM 1 ลิตร/น้ำ 100 ลิตร รดทุก 2 สัปดาห์
คลุมดินด้วยฟางเพื่อรักษาความชื้นและลดการสูญเสียธาตุอาหาร
เหตุผล: ดินที่สมบูรณ์ช่วยให้รากแข็งแรง ลดอาการใบเหลืองและร่วง
5. การจัดการศัตรูพืชและโรค (ผู้ชำนาญด้านจุลินทรีย์และการปลูก)
ปัญห: เพลี้ยไฟหรือโรครากเน่าทำให้ใบร่วงและต้นตาย
คำแนะนำ:
ผู้ชำนาญด้านจุลินทรีย์:
ใช้ Bacillus subtilis หรือ Trichoderma ฉีดพ่นเพื่อควบคุมเพลี้ยไฟและเชื้อรา
ใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพเพื่อป้องกันโรครากเน่า
ผู้ชำนาญด้านการปลูก:
ตัดแต่งกิ่งที่เสียหายจากเพลี้ยไฟ และทำความสะอาดสวนเพื่อลดแหล่งเพาะเชื้อ
ควบคุมการรดน้ำให้เหมาะสม (ไม่มากเกินไป) เพื่อป้องกันน้ำขัง
วิธีปฏิบัติ:
ฉีดพ่น Bacillus subtilis ทุก 7-10 วันในช่วงที่มีเพลี้ยไฟระบาด
ยกโคนต้นและขุดร่องระบายน้ำในหน้าฝนเพื่อป้องกันรากเน่า
เหตุผล: การควบคุมศัตรูพืชและโรคช่วยให้ต้นแข็งแรง ลดการตาย
6. การจัดการสวนในสภาพยโสธร (นักปลูกทุเรียนในภาคอีสานและผู้ชำนาญด้านการปลูก)
คำแนะนำ:
ใช้ ระบบน้ำหยด เพื่อให้ต้นได้รับน้ำสม่ำเสมอในฤดูแล้ง
ยกโคนต้นเพื่อป้องกันน้ำขังในหน้าฝน ซึ่งเป็นปัญหาในบางพื้นที่ของยโสธร
ตัดแต่งกิ่งเพื่อลดการสูญเสียน้ำและเพิ่มการระบายอากาศ
วิธีปฏิบัติ:
ติดตั้งระบบน้ำหยด โดยรดน้ำวันละ 20-30 ลิตร/ต้น ในฤดูแล้ง
คลุมโคนต้นด้วยฟางหรือใบไม้แห้งเพื่อรักษาความชื้นในดินทราย
ใช้ความรู้ท้องถิ่น เช่น การปลูกในที่ลาดเอียงเพื่อระบายน้ำ
เหตุผล: การจัดการที่เหมาะสมกับสภาพยโสธรช่วยให้ต้นทนต่อสภาพอากาศและดิน

แผนปฏิบัติการโดยทีมงาน
ระยะสั้น (0-3 เดือน):
ตรวจสอบสภาพแวดล้อม:
ผู้ชำนาญด้านเคมีตรวจ pH ดินและน้ำ
ผู้ชำนาญด้านการปรับปรุงคุณภาพน้ำวัดค่า EC และสารเคมี
ผู้ชำนาญด้านการเพิ่มความชื้นวัดความชื้นสัมพัทธ์
เลือกพันธุ์: เริ่มปลูกก้านยาวในแปลงทดลอง
ปรับปรุงดินและน้ำ:
ใส่ปูนขาวและปุ๋ยคอกในดิน
ติดตั้งบ่อพักน้ำและถ่านกัมมันต์สำหรับกรองน้ำ
ระยะกลาง (3-12 เดือน):
เพิ่มความชื้น: ติดตั้งสปริงเกลอร์หมอกและปลูกหญ้าแฝก
จัดการศัตรูพืช: ใช้ Bacillus subtilis และตรวจสวนทุกสัปดาห์
บำรุงต้น: ใช้ EM และปุ๋ย NPK ตามคำแนะนำ
ระยะยาว (1-3 ปี):
ขยายพื้นที่ปลูกโดยใช้ระบบน้ำหยดและสปริงเกลอร์หมอก
ติดตามผลผลิต เช่น ขนาดผลและรสชาติ เพื่อปรับปรุงต่อไป
แบ่งปันความรู้กับชุมชนเกษตรกรในยโสธร (นักปลูกทุเรียนในภาคอีสาน)

การป้องกันผลกระทบจากโลกร้อน
อุณหภูมิสูง: ใช้สปริงเกลอร์หมอกและคลุมดินเพื่อลดความร้อน
ภัยแล้ง: ใช้ระบบน้ำหยดและเลือกพันธุ์ก้านยาว
น้ำเค็ม: กรองน้ำด้วย Reverse Osmosis หรือพืชกรองน้ำ
ดินเสื่อมโทรม: ใช้ EM และปุ๋ยคอกเพื่อฟื้นฟูดิน

สรุป
ปัญหาใบร่วงและต้นตายในสวนทุเรียนที่ยโสธรเกิดจากสภาพอากาศร้อนและแห้ง
ดินทราย น้ำเค็ม และศัตรูพืช การแก้ไขต้องเริ่มจากการเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม (เช่น ก้านยาว),
ปรับปรุงคุณภาพน้ำด้วย Reverse Osmosis, เพิ่มความชื้นด้วยสปริงเกลอร์หมอก,
และบำรุงดินด้วย EM และปุ๋ยคอก ทีมงานที่มีความชำนาญหลากหลายสามารถจัดการปัญหาได้อย่างครบวงจร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่