JJNY : 'หมออ๋อง' หดหู่กับรัฐไทย│ขึ้นค่าแรงไม่ใช่ของขวัญปีใหม่│ฝุ่น PM2.5 พุ่ง! ปกคลุมทั่วกทม.│ผู้นำยูเครนเซ็นรับรองแผนงบ

'หมออ๋อง' หดหู่กับรัฐไทย เรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทย เรียกยิงเตือน
https://ch3plus.com/news/political/morning/426677
 
 
'หมออ๋อง' หดหู่กับรัฐไทย เรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทย เรียกยิงเตือน
 
https://x.com/Padipat_Ong/status/1863042149086113993/history


 
ส.อ.ท. ชี้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 ไม่ใช่ของขวัญปีใหม่ หวั่นธุรกิจแบกภาระไม่ไหว
https://www.matichon.co.th/economy/news_4930898

ส.อ.ท. ชี้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 ไม่ใช่ของขวัญปีใหม่ หวั่นธุรกิจแบกภาระไม่ไหว
 
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากกรณีกระทรวงแรงงานเตรียมเสนอการแต่งตั้งกรรมการผู้แทนฝ่ายรัฐบาลในคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 แทนตำแหน่งที่ว่างลง เพื่อเริ่มต้นการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง หรือไตรภาคี พิจารณาการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ หรือขึ้นค่าแรง 400 บาท ทั่วประเทศ ให้ทันวันที่ 1 มกราคม 2568 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนนั้น ในมุมของผู้ใช้แรงงาน ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลมอบให้ แต่ในมุมของผู้ประกอบการ อาจยังไม่ใช่ของขวัญปีใหม่ที่ได้มา โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้รับ โดยสิ่งสำคัญคือ ต้องเป็นการปรับขึ้นที่สามารถสะท้อนความเป็นจริงในทุกด้านได้ ทั้งภาระต้นทุน ความสามารถในการแข่งขัน การสร้างรายได้ และคำนึงถึงการฟื้นของเศรษฐกิจในภาพรวม
 
การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มีการคุยกันมาตลอดทั้งปีอยู่แล้ว ซึ่งการปรับขึ้นต้องทำตามไตรภาคีจังหวัด ที่จะพิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงที่เหมาะสมในแต่ละจังหวัด โดยการขึ้นค่าแรงสำหรับผู้ใช้แรงงานที่ได้รับค่าจ้างตามค่าแรงขั้นต่ำ ก็ถือเป็นของขวัญปีใหม่ได้ แต่มีแรงงานอีกจำนวนมากที่รายได้เกินค่าแรงขั้นต่ำไปแล้ว เพราะมีทักษะสูง จึงได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้นตามทักษะที่มี ผลกระทบจึงจะอยู่กับธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ยังเปราะบาง ต้องอาศัยแรงงานมนุษย์เข้มข้น และอยู่ในช่วงการทยอยฟื้นตัว เมื่อต้องเจอต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้ธุรกิจทรุดตัวลงได้” นายเกรียงไกร กล่าว
 
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ผู้ที่ได้ของขวัญด้วยอีกกลุ่มคือ แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ได้รับค่าแรงแบบขั้นต่ำอยู่ กลุ่มนี้จะได้อานิสงส์เชิงบวกไปด้วยแน่นอน เพราะมีอุตสาหกรรมอีกหลายกลุ่มที่จ่ายค่าแรงขั้นต่ำ แต่เป็นอุตสาหกรรมเดิม โดยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยังมองว่าควรจ่ายตามทักษะจริง เพราะต้องยอมรับว่าค่าแรงขั้นต่ำ สะท้อนถึงอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่ใช้แรงงานเข้มข้น ส่วนมากเป็นการรับจ้างผลิต ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีมากนัก แต่ใช้แรงงานมนุษย์สูง โดยเฉพาะแรงงานจากเพื่อนบ้าน แต่ก็มีอุตสาหกรรมที่สามารถเปลี่ยนผ่านได้แล้ว เพราะนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาปรับใช้กับการผลิต ซึ่งส่วนนี้จ่ายค่าแรงสูงตามทักษะอยู่แล้ว ประเทศไทยจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงผ่านการเพิ่มทักษะให้กับแรงงานไทย และการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาพัฒนาธุรกิจมากขึ้น เป็นการแก้ไขและเดินหน้าควบคู่กัน เพราะแรงงานคือ ต้นทุนใหญ่ของภาคอุตสาหกรรมทั้งการผลิตและบริการ
 
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ด้านของขวัญปีใหม่ที่ผู้ประกอบการต้องการ เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่สามารถทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างแท้จริง รวมถึงการลดหนี้ครัวเรือน ที่ส่งผลกระทบต่อศักยภาพในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน และการลดภาระต้นทุนในด้านต่างๆ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต้องการของขวัญชิ้นใหญ่จากรัฐบาล คือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทำอย่างไรให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อออกมาช่วยธุรกิจได้มากขึ้น เพิ่มสภาพคล่องเข้าไปในระบบควบคู่กับการฟื้นกำลังซื้อกลับคืนมา เพื่อให้การเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยวิ่งถึง 3-4% ซึ่งถือเป็นของขวัญที่รอทั้งประชาชนและภาคธุรกิจคอยจากรัฐบาล.


 
ฝุ่น PM2.5 พุ่ง! ปกคลุมทั่ว กทม.
https://www.innnews.co.th/news/criminal/news_810097/

ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งปกคลุมทั่วกรุงเทพฯ ระดับสีส้ม เริ่มมีผลต่อสุขภาพ 63 พื้นที่

วันนี้ (2 ธ.ค. 67)ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ณ เวลา 07.00 น. :ตรวจวัดได้ 30.9-56.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 63 พื้นที่ สูงสุด 5 อันดับแรกอยู่ที่ 1.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 มีค่าเท่ากับ 56.3 มคก./ลบ.ม. 2. เขตลาดกระบัง
 
ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ มีค่าเท่ากับ 54.3 มคก./ลบ.ม. 3.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย มีค่าเท่ากับ 53.7 มคก./ลบ.ม. 4.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ มีค่าเท่ากับ 52.6 มคก./ลบ.ม. 5.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย มีค่าเท่ากับ 51.9 มคก./ลบ.ม.
 
เตือนประชาชนทั่วไปใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคารจำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมากควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยงใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
 
ทั้งนี้ในช่วงวันที่ 2 – 8 ธ.ค. 67 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “ไม่ดี – อ่อน” ขณะที่ชั้นบนรรยากาศใกล้ผิวมีลักษณะค่อนข้างปิด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่