น้ำท่วมนราฯ ถึงใจกลางเมือง เผยถ้าฝนยังตกต่อเนื่อง จะอ่วมหนักสุดในรอบ 50 ปี
https://ch3plus.com/news/social/morning/426152
 
 
รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะฝนที่ตกลงมา 4 วันติดต่อกัน จากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุด ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ทำให้แม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำสุไหงโกลก ได้เอ่อล้นตลิ่งแล้วในบางส่วน และได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ

โดยเฉพาะ ในช่วงคืนที่ผ่านมา จากผลพวงของแม่น้ำบางนรา และน้ำทะเลหนุน ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกลมาอย่าหนัก ได้ไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ทุกสายหลักทุกสาย รวมทั้งร้านค้าบ้านเรือนของประชาชนมีน้ำท่วมขังสูง โดยเฉลี่ย 30 ถึง 40 ซม. และมีชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้ช่วยกันนำทรายที่ทางเทศบาลเมืองนราธิวาส ได้นำมากองไว้ที่ภายในวัดประชาภิรมย์ ใส่กระสอบแล้วช่วยกันขนย้ายไปทำเป็นบังเกอร์ชั่วคราว ในการป้องกันปริมาณน้ำท่วมขังไม่ให้เข้าไปภายในบ้านเรือน

นอกจากนี้ ผลพวงของสภาวะฝนที่ตกลมาอย่างหนักในครั้งนี้ ได้รับรายงานจากกองอำนวยการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว 10 อำเภอ คือ
• อำเภอบาเจาะ
• อำเภอแว้ง
• อำเภอรือเสาะ
• อำเภอเจาะไอร้อง
• อำเภอสุคิริน
• อำเภอเมืองนราธิวาส
• อำเภอสุไหงปาดี
• อำเภอตากใบ
• อำเภอสุไหงโก-ลก
• อำเภอระแงะ

ซึ่งพื้นที่ที่ถือว่าประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก คือ อำเภอสุคิริน ถนนสายหลักและสายรอง ถูกตัดขาด ที่บริเวณช่วงบ้านปารีย์ ม.3 ต.มาโมง และช่วงบริเวณถนนสายสุคิรินไปภูเขาทอง ถนนทรุดจนเสาไฟฟ้าล้ม

ส่วน อำเภอรือเสาะ มีดินสไลด์ทับเส้นทาง สายเขายือลาแป ช่วงบ้านยือลาแป ม.3 ต.สุวารี

ส่วน อำเภอ.แว้ง ปริมาณน้ำจากคลองสาขาของแม่น้ำโก-ลก ได้ล้นตลิ่งได้ไหลบ่าเข้าท่วมในพื้นที่ตลาด อ.แว้ง ซึ่งมีน้ำท่วมขังโดยเฉลี่ย 40 ซ.ม. บางจุดรถยนต์ขนาดเล็กทุกชนิดไม่สามารถแล่นผ่านไปมาได้

แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากสภาวะฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สาย ล้นตลิ่งจะไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส เป็นวงกว้างและมีแนวโน้มจะมีน้ำท่วมขังเหมือนปีที่ผ่านมา ที่ถือว่าเกิดน้ำท่วมอย่าหนักในรอบ 50 ปี อีกครั้งหนึ่ง

---

เศร้า! เจ้าของโรงมะพร้าวเครียดปัญหาหนี้สิน คว้าปืนยิงตัวเองเสียชีวิตคาบ้าน
https://www.dailynews.co.th/news/4123381/

สุดเศร้า เจ้าของโรงมะพร้าวเครียดปัญหาหนี้สิน คว้าปืนยิงตัวเองเสียชีวิตคาบ้าน
 
เมื่อวันที่ 27 พ.ย.67  พ.ต.ท.อุดมชาติ ทองไซร่ รอง ผกก.สอบสวน  สภ.หนองจอก อ.ท่ายาง  จ.เพชรบุรี  เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 26 พ.ย.67 ได้รับแจ้งมีว่ามีบุคคลถูกยิงเสียชีวิต  ภายในบ้านพัก บ้านหนองบัว ต.หนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ไปตรวจสอบพร้อม  เจ้าหน้าที่ พฐ.เพชรบุรี ชุดสืบสวน สภ.หนองจอก แพทย์เวร รพ.ท่ายาง และกู้ภัยสว่างสรรเพชร

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานมะพร้าว ภายในห้องพักพบร่างของนายธนวัฒ หงสา อายุ 38 ปี เจ้าของโรงงานมะพร้าว สภาพที่ศีรษะมีรอยกระสุนปืน 1 นัด  นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพัก   ที่เกิดเหตุพบรูกระสุนปืนถูกยิงทะลุฝาผนัง 1 นัด  ที่ระหว่างขาพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน        
 
ด้านภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนและสามีมาตั้งโรงงานทำมะพร้าวขาวส่งขายได้ประมาณ 1 ปีแล้ว   ที่ผ่านมาสามีมักจะบ่นเรื่องนี้สินอยู่เป็นประจำตลอด โดยก่อนเกิดเหตุไม่ได้เอะใจอะไรได้ออกไปงานศพของเพื่อนบ้านข้างบ้าน  กระทั่งคนงานตัดหญ้าได้เมาหาผู้เสียชีวิตเพื่อมาขอเงินค่ารับจ้างตัดหญ้า  มาพบว่าสามีตนนอนเสียชีวิตภายในห้องพักแล้ว จึงรีบโทรศัพท์มาบอก ตนจึงได้รีบเดินทางกลับมาดูที่บ้าน เบื้องต้นตำรวจได้นำส่งร่างผู้เสียชีวิตไปทำการชันสูตรที่ รพ.ท่ายาง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป.

---

 
“ทรงศักดิ์- อธิบดีกรมที่ดิน” เข้าแจงปมเขากระโดง
https://tna.mcot.net/politics-1452651

รัฐสภา​ 27 พ.ย.-“ทรงศักดิ์- อธิบดีกรมที่ดิน” เข้าแจง กมธ.​ที่ดิน ปมเขากระโดง โอด​สงสารชาวบ้าน​กว่า​ 900 รายได้รับผลกระทบ​ ชี้ แม้ศาลพิพากษาถึงที่สุด​ แต่ต้องพิสูจน์สิทธิ​เฉพาะคู่ความ​ ต้องเป็นธรรมต่อประชาชน​ ด้าน​ “พูนศักดิ์” ​ยัน​ พิจารณา​ยึดข้อกฎหมายไม่โยงการเมือง
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (27 พ.ย.) คณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติ​ และสิ่งแวดล้อม​ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี​ ประธาน​เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงประเด็นข้อพิพาทที่ดินเข้ากระโดง​ ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย​ กระทรวงคมนาคม และกรมที่ดิน​ กระทรวงมหาดไทย โดยมีนายทรงศักดิ์​ ทอง​ศรี​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ นายพรพจน์​ เพ็ญ​พาส​ อธิบดี​กรมที่ดิน นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการรถไฟ​แห่ง​ประเทศไทย​ เข้าชี้แจง
 
นายพูนศักดิ์​ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมว่า​ ประเด็นเขากระโดงประชาชนให้ความสนใจ กรรมาธิการฯยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยในขอบเขตอำนาจ หน้าที่  ของคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน รวมถึงกระบวนการที่มาของการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าว ซึ่งจากการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ถ้าเห็นว่ามีประเด็นน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข ตัวประมวลกฎหมาย ควรจะต้องเร่งดำเนินการ รอคณะกรรมการชุดนี้มีผล ในการวินิจฉัยว่าจะเพิกถอนหรือไม่
 
นายพูนศักดิ์​ ยังระบุอีกว่า ประเด็นสำคัญ อยู่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย จะต้องดำเนินการต่อ ไม่ว่าจะไม่ว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งมีระเบียบของการอุทธรณ์ไว้อยู่ ซึ่งต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จ ไม่ต้องการให้เรื่องนี้เงียบและหายไปกับสังคม ยืนยันว่าการประชุมของคณะกรรมาธิการฯในวันนี้จะเห็นภาพของที่มาที่ไป ของคณะกรรมการตามมาตรา 61 ถ้ากระบวนการจัดตั้งไม่ถูกต้อง จะต้องแก้ไขระเบียบใหม่ และเชื่อว่าในประเทศไทยมีปัญหาเรื่องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ การทุจริต ในการเพิกถอน และการออกเอกสารสิทธิ์ ดังนั้นคณะกรรมาธิการชุดนี้จึงมีความสำคัญมาก ในการจัดการที่ดินของประเทศ และประสิทธิภาพของคณะกรรมาธิการชุดนี้ เป็นอีกประเด็นที่ต้องให้ความสนใจ
 
ส่วนที่เรื่องนี้มีคนการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเมืองหรืออิทธิพล หรือการเมืองอาจมีส่วนสัมพันธ์เกี่ยวข้อง เราอาจจะไม่ได้พิจารณาในการประชุมวันนี้ โดยหัวข้อหลัก ในการประชุมคือเรื่องของข้อกฎหมาย ระเบียบวิธีปฏิบัติ แต่หากมีช่องโหว่ใด ที่ได้รับอิทธิพลทางการเมือง ก็เป็นหน้าที่ ของคณะกรรมาธิการในการแก้ไขและปรับปรุง ข้อกฎหมาย
 
เมื่อถามต่อว่าหากมีคนการเมืองเข้าไปล้วงลูกเกี่ยวข้องจริงๆจะสาวถึงเจ้าตัวหรือไม่ นายพูนศักดิ์กล่าวย้ำว่า​ การประชุมกรรมาธิการ​ จะเน้นระเบียบวิธีปฏิบัติ ของคณะกรรมการมาตรา​ 61 มีข้อบกพร่องอย่างไร และหากมีข้อบกพร่องกรรมาธิการจะดำเนินอย่างไร ซึ่งเป็นงานหลักของฝ่ายนิติ​บัญญัติ​ ในการดูว่าข้อกฎหมายช่องโหว่ระเบียบปฏิบัติของฝ่ายบริหารเป็นอย่างไร เพื่อนำมาแก้ไข
 
ขณะที่ นายทรงศักดิ์​ กล่าวระหว่างการประชุมช่วงแรกว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ตนในฐานะได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกรมที่ดิน ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่คณะกรรมาธิ​การจะประชุมวันนี้ ซึ่งเรื่องเขากระโดงเป็นเรื่องที่สนใจจากประชาชน ซึ่งประชาชนเองจะดูข้อมูลจากสื่อเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ความชัดเจนเท่าที่ควร และข้อมูลในวันนี้จะเป็นประโยชน์ทำให้กรรมาธิการได้มีข้อมูลในการที่จะประชุมหารือและสรุปประเด็น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นประโยชน์กับการรถไฟ ซึ่งบอกว่าเป็นที่ของการรถไฟให้เกิดความชัดเจน​
  
นายทรงศักดิ์​ ระบุว่า​ เรื่องเขากระโดง ไม่ได้กระทบกับสิทธิของคนคนเดียว​ ทั้งส่วนราชการก็ด้วยทั้งการรถไฟ และส่วนของประชาชน​ ซึ่งตนเห็นตัวเลขก็รู้สึกเห็นใจ 900 กว่าราย ที่ได้ครอบครองที่ดินมาโดยชอบด้วยกฎหมายมาโดยตลอด ซึ่งหลายคนก็เข้าใจว่าเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้วถึงที่สุดที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟทั้งหมด​ แม้ให้กรรมาธิการเป็นสื่อกลางสะท้อนข้อเท็จจริงให้เห็นทั้ง 2 ทาง ทั้งการได้มาที่ดินของการรถไฟ ประชาชนได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวมาอย่างไร เพื่อที่ได้เป็นข้อมูลให้เกิดความชัดเจน แม้ว่าคำพิพากษาถึงที่สุดก็ต้องยอมรับ แต่จะเป็นที่สุดเฉพาะคู่ความ คู่ความคนอื่นที่ไม่ได้เป็นคู่ความก็ต้องมีการพิสูจน์สิทธิ์ว่าการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์​ หากเพิกถอนทั้งหมด​ จะเป็นธรรมต่อประชาชนหรือไม่.-319.-สำนักข่าวไทย