โอกาส! มันไม่ใช่เรื่องของแค่ ตี๋น้อย vs MK แต่ยังมีเจ้าอื่นได้ขอเบียดแย่งพื้นที่ ทั้ง ลัคกี้ สุกี้ / สุกี้ดารา / สุกี้จินดา ฯลฯ ในตลาดใหญ่มูลค่ามหาศาลถึง 2.3 หมื่นล้านบาท!!!
สิ่งที่ตี๋น้อยทำ ไม่ใช่แค่เรื่องยักษ์เล็กบี้ยักษ์ใหญ่ แต่คือบุกเบิก "เปลี่ยนแกน" ในตลาด --- "ถางทาง" ให้เจ้าอื่นๆ!
อยากเล่าให้ฟังครับ
แถวปากซอยบ้านผม มี MK เปิดมาเกือบๆ 30 ปีแล้ว
เป็นสาขาที่ไม่ดีของ MK (ขนาดตอนยุครุ่งเรืองของเจ้านี้ ที่คิวยาวเหยียดทั่วบ้านทั่วเมือง แต่สาขานี้ก็เรื่อยๆ ...)
ยิ่งวันยิ่งหงอย --- ช่วง 10 ปีหลัง ถือว่าเงียบเหงาเลย
แต่ไม่กี่สัปดาห์ก่อน ที่ตรงนั้นก็เปลี่ยนหน้า! พลิกโฉม!
(ไม่ค่อยเห็น MK สาขาไหนที่เจ๊งเลยนะครับ)
"ลัคกี้ สุกี้" มาแทนที่
เหลือเชื่อ! เหลือเชื่อ! เหลือเชื่อ!
(บอกตามตรง ผมก็ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน --- เพราะไม่ได้สรรหาเรื่องการกินขนาดนั้น)
มวลมหาชนคนย่านนี้แห่กันมาอย่างเทน้ำเทท่า!!!!!!!!!
ปรากฏการณ์!
คนล้นหลาม ขนาดว่าเก้าอี้หน้าร้านที่ให้ไว้นั่งรอคิว ก็เต็มพรืด! --- อย่างน้อยๆ มี 40-50 คนที่แบกท้อง รออยู่หน้าร้าน!
(ตลอดเกือบ 30 ปี ที่ MK เคยเปิดมา บันไดขึ้นชั้น 2 จะปักป้ายว่า "ไม่เปิดบริการ" แทบทุกครั้ง และชั้น 1 ก็ยังชอบเปิดบริการเป็นบางส่วนด้วยซ้ำ)
เกิดอะไรขึ้นกับ "ลัคกี้ สุกี้" --- แน่น แน่น แน่น ทั้งสองชั้น!
ดีใจ
เชื่อว่านี่เป็นภาพที่สังคมอยากเห็น (ไม่ว่าสังคมไหนๆ ประเทศใดๆ ก็ตาม)
คือการที่เจ้าเล็กเจ้าน้อยก็มีสิทธิ์ลืมตาอ้าปาก --- เป็นบรรยากาศที่น่ารัก
นี่ยังไม่นับว่ามี "สุกี้จินดา" "สุกี้ดารา" ฯลฯ อีกหลายชื่อ
รายได้อาจไม่เยอะ แต่แค่มี "พื้นที่" ให้เข้าไปมีรายได้ด้วยก็พอแล้ว!
(แต่อนาคตก็ไม่แน่! --- พี่ "ตี๋น้อย" ก็เริ่มจากงี้เหมือนกันนิ!)
ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว --- "ส่วนแบ่งตลาด" สุกี้ มิใช่ถูก "ผูกขาด" ยึดโดยเจ้าเดียวเจ้าเดิมอย่างก่อน แต่เจ้าเล็กเจ้าน้อยก็มีโอกาส "แทรก" เข้ามาร่วมวง!
10 ปีก่อน ไม่ใช่แบบนี้
20 ปีก่อน ก็ไม่ใช่แบบนี้
ต้องย้อนกลับไป 30 กว่าปีก่อนเลย ที่เราเห็น MK ขับเคี่ยวกับ "โคคา" กับ "แคนตัน"
ภาพแบบนั้นมันก็สนุก และผู้บริโภคก็มี "ตัวเลือก"
วันนี้ ภาพแบบนี้ถูกปลุกขึ้นมาคึกคักอีกแล้ว!
อย่างที่เคยเขียน
MK ย่ามใจเกินไป ว่าคนไม่มี "ตัวเลือก" อื่นแล้ว
ไม่ต้องเอาทฤษฎีการตลาดอะไรมาวิเคราะห์หรอกครับ
ง่ายๆ แบบนี้ครับ เหมือนเพื่อนคุณคนหนึ่ง ไปไหนไปกัน เฮไหนเฮนั่น อยู่กับคุณในทุกๆ เหตุการณ์สำคัญของชีวิต
มาวันหนึ่ง งานการดี มีหน้ามีตา ร่ำรวยเงินทอง ... แล้วเพื่อนก็เปลี่ยนไป ทีละน้อย ทีละน้อย พอรู้ตัวอีกทีก็เหมือนไม่คบกันแล้ว
ถีบตัวเองสูงเกินไป บ้านหรู รถแพง (ซึ่งก็ไม่ผิด ก็เป็นสิทธิ์ของเขา)
แต่ที่สำคัญ คือ เพื่อน "ยกระดับ" สังคม --- และเพื่อนก็ "เข้าถึงยาก"
MK กันพวกเราออกไปด้วย "ราคา" ครับ
ไม่สนิทกันอีกต่อไป
เมื่อมีคนใหม่ๆ เข้ามา คนบ้านๆ ไม่เลิศไม่เลอ คนปอนๆ เหมือนกัน มันก็ถูกคอ ถูกอกถูกใจ
แล้วดัน "ถูกปาก" อีก และด้วย "ราคา" ที่พร้อมกอดคอไปกันได้อีก
น่าสนใจประการหนึ่งนะครับ
ตี๋น้อย "เลือก" ที่จะแช่แข็งราคาไว้นะครับ
ผมไม่แน่ใจว่า ราคาเดิมตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2562 เลยหรือเปล่า แต่ก็เห็น 219 บาท (บวกบวก) มานานหลายปีแล้ว
แน่นอนว่าขึ้นได้ นิดนิดก็ได้ แต่ "ตี๋น้อย" ตัดสินใจไม่ทำ
สมเป็น "เพื่อนรัก" จริงๆ
ลองเช็กๆ ดู เข้าใจว่า "ลัคกี้ สุกี้" ก็ยึดราคาเดิมเช่นกัน ตั้งแต่ปี 2564 --- ตั้งต้นที่ 219 บาท (บวกบวก)
ผมยังไม่เคยลิ้มลอง
แต่นิสัยแบบนี้ เราเป็นเพื่อนกันได้!
ตี๋น้อย กับ MK ทุกวันนี้ รายได้ก็ยังห่างนะครับ แต่กำไรสุทธิ หายใจรดต้นคอแล้วล่ะครับ ดีไม่ดีเมื่อครบปี 2567 อาจแซงเลยก็ได้
จากห่างกันเป็น 100 เท่า เป็น 10 เท่า ตอนนี้เหลือห่างแค่ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์!!!!!
ปีแรก ปี 2562 ตี๋น้อย กำไร 15 ล้านบาท
ปี 2563 กำไร 140 ล้านบาท --- ตอนนั้น MK กำไร 907 ล้านบาท
ล่าสุด ปีนี้ (นับถึงไตรมาส 3) พี่ "ตี๋น้อย" ของผม กำไร 890 ล้านบาท --- เกือบทาบ MK ที่ 1,088 ล้านบาท
รายได้ MK ปีนี้ (นับถึงไตรมาส 3) อยู่ที่ 11,735 ล้านบาท --- คะเนว่าน่าจะราวๆ 2 เท่ากว่าๆ (*ตี๋น้อยไม่ได้รายงานรายได้ รายงานแต่กำไร)
ก็แคบลงจากตัวเลขทั้งปี 2566 ที่ห่างกัน 3 เท่า
(*MK นี่คือรวมลูกๆ ด้วย ทั้ง ยาโยอิ แหลมเจริญ ฯลฯ --- ซึ่งถ้าคิดคร่าวๆ ว่าเฉพาะสุกี้ คือ 72% ตามรายงานผลประกอบการ ก็ประมาณว่ารายได้ MK สุกี้ คือ 8,449 ล้านบาท ... ก็จะยิ่งทำให้ตี๋น้อยใกล้เข้าไปอีก)
ประเด็นอยู่ที่ "ลัคกี้ สุกี้" รายได้ปีที่แล้ว 400 ล้านบาทแล้ว
ปีนี้จะเพิ่มขึ้นไปถึงเท่าไหร่ยังไม่รู้ (แต่น่าจะไม่เบาเชียว ดูจากปากซอยบ้านผม!)
"สุกี้จินดา" รายได้ปีที่แล้ว 18 ล้านบาท
"สุกี้ดารา" หาข้อมูลไม่เจอ
ใช่ครับ น้อยกว่า MK มาก ๆ ๆ ๆ อย่างที่เอามาเทียบกันไม่ได้
แต่อยากให้เห็นว่าเจ้าอื่นๆ ก็สามารถสร้าง "รายได้" ขึ้นมาในตลาดสุกี้
จะมากจะน้อย คือเงิน คือโอกาส
จากที่แต่ก่อน มองไม่เห็นเลยว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง
ปัจจุบัน
MK สุกี้ มี 441 สาขา
พี่ "ตี๋น้อย" เพื่อนรักของผม มี 73 สาขา (แล้วเดี๋ยวจะโต ๆ ๆ ๆ แน่)
"ลัคกี้ สุกี้" 14 สาขา (ก็หวังว่าจะโตอีก ๆ)
"สุกี้ดารา" 8 สาขา
ลองไปหา "เพื่อนใหม่ๆ" กันดูนะครับ
Cr. FB เดือดทะลักจุดแตก
ตลาดสุกี้เดือด
สิ่งที่ตี๋น้อยทำ ไม่ใช่แค่เรื่องยักษ์เล็กบี้ยักษ์ใหญ่ แต่คือบุกเบิก "เปลี่ยนแกน" ในตลาด --- "ถางทาง" ให้เจ้าอื่นๆ!
อยากเล่าให้ฟังครับ
แถวปากซอยบ้านผม มี MK เปิดมาเกือบๆ 30 ปีแล้ว
เป็นสาขาที่ไม่ดีของ MK (ขนาดตอนยุครุ่งเรืองของเจ้านี้ ที่คิวยาวเหยียดทั่วบ้านทั่วเมือง แต่สาขานี้ก็เรื่อยๆ ...)
ยิ่งวันยิ่งหงอย --- ช่วง 10 ปีหลัง ถือว่าเงียบเหงาเลย
แต่ไม่กี่สัปดาห์ก่อน ที่ตรงนั้นก็เปลี่ยนหน้า! พลิกโฉม!
(ไม่ค่อยเห็น MK สาขาไหนที่เจ๊งเลยนะครับ)
"ลัคกี้ สุกี้" มาแทนที่
เหลือเชื่อ! เหลือเชื่อ! เหลือเชื่อ!
(บอกตามตรง ผมก็ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน --- เพราะไม่ได้สรรหาเรื่องการกินขนาดนั้น)
มวลมหาชนคนย่านนี้แห่กันมาอย่างเทน้ำเทท่า!!!!!!!!!
ปรากฏการณ์!
คนล้นหลาม ขนาดว่าเก้าอี้หน้าร้านที่ให้ไว้นั่งรอคิว ก็เต็มพรืด! --- อย่างน้อยๆ มี 40-50 คนที่แบกท้อง รออยู่หน้าร้าน!
(ตลอดเกือบ 30 ปี ที่ MK เคยเปิดมา บันไดขึ้นชั้น 2 จะปักป้ายว่า "ไม่เปิดบริการ" แทบทุกครั้ง และชั้น 1 ก็ยังชอบเปิดบริการเป็นบางส่วนด้วยซ้ำ)
เกิดอะไรขึ้นกับ "ลัคกี้ สุกี้" --- แน่น แน่น แน่น ทั้งสองชั้น!
ดีใจ
เชื่อว่านี่เป็นภาพที่สังคมอยากเห็น (ไม่ว่าสังคมไหนๆ ประเทศใดๆ ก็ตาม)
คือการที่เจ้าเล็กเจ้าน้อยก็มีสิทธิ์ลืมตาอ้าปาก --- เป็นบรรยากาศที่น่ารัก
นี่ยังไม่นับว่ามี "สุกี้จินดา" "สุกี้ดารา" ฯลฯ อีกหลายชื่อ
รายได้อาจไม่เยอะ แต่แค่มี "พื้นที่" ให้เข้าไปมีรายได้ด้วยก็พอแล้ว!
(แต่อนาคตก็ไม่แน่! --- พี่ "ตี๋น้อย" ก็เริ่มจากงี้เหมือนกันนิ!)
ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว --- "ส่วนแบ่งตลาด" สุกี้ มิใช่ถูก "ผูกขาด" ยึดโดยเจ้าเดียวเจ้าเดิมอย่างก่อน แต่เจ้าเล็กเจ้าน้อยก็มีโอกาส "แทรก" เข้ามาร่วมวง!
10 ปีก่อน ไม่ใช่แบบนี้
20 ปีก่อน ก็ไม่ใช่แบบนี้
ต้องย้อนกลับไป 30 กว่าปีก่อนเลย ที่เราเห็น MK ขับเคี่ยวกับ "โคคา" กับ "แคนตัน"
ภาพแบบนั้นมันก็สนุก และผู้บริโภคก็มี "ตัวเลือก"
วันนี้ ภาพแบบนี้ถูกปลุกขึ้นมาคึกคักอีกแล้ว!
อย่างที่เคยเขียน
MK ย่ามใจเกินไป ว่าคนไม่มี "ตัวเลือก" อื่นแล้ว
ไม่ต้องเอาทฤษฎีการตลาดอะไรมาวิเคราะห์หรอกครับ
ง่ายๆ แบบนี้ครับ เหมือนเพื่อนคุณคนหนึ่ง ไปไหนไปกัน เฮไหนเฮนั่น อยู่กับคุณในทุกๆ เหตุการณ์สำคัญของชีวิต
มาวันหนึ่ง งานการดี มีหน้ามีตา ร่ำรวยเงินทอง ... แล้วเพื่อนก็เปลี่ยนไป ทีละน้อย ทีละน้อย พอรู้ตัวอีกทีก็เหมือนไม่คบกันแล้ว
ถีบตัวเองสูงเกินไป บ้านหรู รถแพง (ซึ่งก็ไม่ผิด ก็เป็นสิทธิ์ของเขา)
แต่ที่สำคัญ คือ เพื่อน "ยกระดับ" สังคม --- และเพื่อนก็ "เข้าถึงยาก"
MK กันพวกเราออกไปด้วย "ราคา" ครับ
ไม่สนิทกันอีกต่อไป
เมื่อมีคนใหม่ๆ เข้ามา คนบ้านๆ ไม่เลิศไม่เลอ คนปอนๆ เหมือนกัน มันก็ถูกคอ ถูกอกถูกใจ
แล้วดัน "ถูกปาก" อีก และด้วย "ราคา" ที่พร้อมกอดคอไปกันได้อีก
น่าสนใจประการหนึ่งนะครับ
ตี๋น้อย "เลือก" ที่จะแช่แข็งราคาไว้นะครับ
ผมไม่แน่ใจว่า ราคาเดิมตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2562 เลยหรือเปล่า แต่ก็เห็น 219 บาท (บวกบวก) มานานหลายปีแล้ว
แน่นอนว่าขึ้นได้ นิดนิดก็ได้ แต่ "ตี๋น้อย" ตัดสินใจไม่ทำ
สมเป็น "เพื่อนรัก" จริงๆ
ลองเช็กๆ ดู เข้าใจว่า "ลัคกี้ สุกี้" ก็ยึดราคาเดิมเช่นกัน ตั้งแต่ปี 2564 --- ตั้งต้นที่ 219 บาท (บวกบวก)
ผมยังไม่เคยลิ้มลอง
แต่นิสัยแบบนี้ เราเป็นเพื่อนกันได้!
ตี๋น้อย กับ MK ทุกวันนี้ รายได้ก็ยังห่างนะครับ แต่กำไรสุทธิ หายใจรดต้นคอแล้วล่ะครับ ดีไม่ดีเมื่อครบปี 2567 อาจแซงเลยก็ได้
จากห่างกันเป็น 100 เท่า เป็น 10 เท่า ตอนนี้เหลือห่างแค่ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์!!!!!
ปีแรก ปี 2562 ตี๋น้อย กำไร 15 ล้านบาท
ปี 2563 กำไร 140 ล้านบาท --- ตอนนั้น MK กำไร 907 ล้านบาท
ล่าสุด ปีนี้ (นับถึงไตรมาส 3) พี่ "ตี๋น้อย" ของผม กำไร 890 ล้านบาท --- เกือบทาบ MK ที่ 1,088 ล้านบาท
รายได้ MK ปีนี้ (นับถึงไตรมาส 3) อยู่ที่ 11,735 ล้านบาท --- คะเนว่าน่าจะราวๆ 2 เท่ากว่าๆ (*ตี๋น้อยไม่ได้รายงานรายได้ รายงานแต่กำไร)
ก็แคบลงจากตัวเลขทั้งปี 2566 ที่ห่างกัน 3 เท่า
(*MK นี่คือรวมลูกๆ ด้วย ทั้ง ยาโยอิ แหลมเจริญ ฯลฯ --- ซึ่งถ้าคิดคร่าวๆ ว่าเฉพาะสุกี้ คือ 72% ตามรายงานผลประกอบการ ก็ประมาณว่ารายได้ MK สุกี้ คือ 8,449 ล้านบาท ... ก็จะยิ่งทำให้ตี๋น้อยใกล้เข้าไปอีก)
ประเด็นอยู่ที่ "ลัคกี้ สุกี้" รายได้ปีที่แล้ว 400 ล้านบาทแล้ว
ปีนี้จะเพิ่มขึ้นไปถึงเท่าไหร่ยังไม่รู้ (แต่น่าจะไม่เบาเชียว ดูจากปากซอยบ้านผม!)
"สุกี้จินดา" รายได้ปีที่แล้ว 18 ล้านบาท
"สุกี้ดารา" หาข้อมูลไม่เจอ
ใช่ครับ น้อยกว่า MK มาก ๆ ๆ ๆ อย่างที่เอามาเทียบกันไม่ได้
แต่อยากให้เห็นว่าเจ้าอื่นๆ ก็สามารถสร้าง "รายได้" ขึ้นมาในตลาดสุกี้
จะมากจะน้อย คือเงิน คือโอกาส
จากที่แต่ก่อน มองไม่เห็นเลยว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง
ปัจจุบัน
MK สุกี้ มี 441 สาขา
พี่ "ตี๋น้อย" เพื่อนรักของผม มี 73 สาขา (แล้วเดี๋ยวจะโต ๆ ๆ ๆ แน่)
"ลัคกี้ สุกี้" 14 สาขา (ก็หวังว่าจะโตอีก ๆ)
"สุกี้ดารา" 8 สาขา
ลองไปหา "เพื่อนใหม่ๆ" กันดูนะครับ
Cr. FB เดือดทะลักจุดแตก