Miss Universe Thailand 2024 บทเรียนการออกแบบชุดโบราณ

1. “Siam Manustree”  การใช้ชื่อ ในตลาดอินเตอร์ น่าจะใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อให้ง่ายแก่การจดจำ
2.  แรงบันดาลใจจาก “พระศรีสุริโยทัย” วีรสตรีผู้กล้าหาญและเสียสละปกป้องแผ่นดินไทย 
(สละชีวิต ทรงไสช้างเข้าปกป้องพระสวามี ซึ่งรักษาชีวิตกษัตริย์ในสนามรบ) 

ลักษณะชุด ลวดลายงดงาม ทรงสง่างาม
วิเคราะห์สันนิษฐาน จากประวัติศาสตร์ การออกรบ น่าจะมีชฎา
ให้รู้ว่านี่คือ ระดับพระราชินี แต่เป็นการต่อสู้กันด้วยอาวุธบนหลังช้าง 
เป็นวิธีการรบอย่างกษัตริย์ในสมัยโบราณ
มีเสื้อเกราะด้วย กันปืน หอก 

แต่พอถึงออกแบบท่าประกอบของการเดินในชุดประจำชาติ
เป็นแนวการต่อสู้คล้ายกระบี่กระบอง
ซึ่งเหมาะกับเป็นแบบไม่ใส่ชฎา เพื่อให้การขยับ เคลื่อนไหว สะดวก
ในที่นี้ ถือพระแสงคล้ายดาบยาวใช้ฟันจากหลังช้าง  ไปถึงคู่ต่อสู้ที่นั่งหลังช้างเช่นกัน
ก็เป็นการออกแบบท่าที่เท่ห์ประมาณหนึ่ง ขยับเรียกความมั่นใจก่อนออกศึก
อย่างไรก็ดี ความรู้เรื่องคณิตศาสตร์ก็สำคัญ เช่น ความยาวชฎา ความยาวไม้
กรณีพรีเซนต์บนเวที

ต้องชื่นชม ว่า โอปอล ตั้งสติได้ดี จิตใจหนักแน่น ควบคุมสถานการณ์ได้ 
แต่ยังไม่ได้คิดแผน 2 ว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น เราจะสร้างโอกาสจากวิกฤตนั้นอย่างไร 

อย่างไรก็ดี อาจจะต้อง 
1. ผ่านการซ้อมหลายรอบ จนมั่นใจ 
2. การออกแบบชฎา น่าจะคำนึงถึงสนามรบ ไม่ใช่ชฎาทรงสูง แบบเทวดา หรือ พิธีกรรม 

บ่อยครั้ง ที่เราจะเห็นนักออกแบบคอสตูม ไม่คำนึงถึง การใช้ในเชิงปฏิบัติ
เช่น ตุ้มหู ของฟิล์ม ในเรื่องแม่หยัว ในซีนตามท้าวศรีสุดาจันทร์ แล้วเจอกันต่อหน้าพระ 
รู้สึกสงสารนักแสดง ที่วัสดุ ทำตุ้มหูหนักมาก จนหูยานกันเลยทีเดียว
ตรงนี้ น่าจะช่วยดูกัน ว่า หาวัสดุใดให้น้ำหนักเบาลง ให้เข้ากับการใช้งานจริง
คือ การถ่ายทำ สนับสนุนให้อภิปรายร่วมกันจากทุกฝ่ายในทีม 

อุบัติเหตุ เกิดขึ้นได้
ไม่ใช่ต้องเสียใจ แต่ควรทำความเข้าใจสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน
เมื่อทำงาน เจอสถานการณ์หลากหลาย จึงเกิดทักษะการแก้ปัญหา
ที่สำคัญ ความไม่ perfect คือ ปรัชญาในยุคปัจจุบัน
เพอร์เฟ็คเกินไปดูเป็นเอไอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่