JJNY : “พริษฐ์”จี้รบ.│ ‘อ้วน’ฉุน!ปัด‘ทักษิณ’ดีลลับ│"กรุงศรี"ติดตามเงินเฟ้อ-นโยบายทรัมป์│เผย“ทรัมป์”คุยโทรศัพท์กับ“ปูติน”

“พริษฐ์” จี้ รบ.ประชาสัมพันธ์สินเชื่อภาครัฐสกัดหนี้นอกระบบ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_800720/

 
 
“พริษฐ์” จี้ รบ.ประชาสัมพันธ์สินเชื่อภาครัฐ ปัองกันประชาชนหลุดเสี่ยงหนี้นอกระบบ แนะหาวิธีรับมือสภาวะโลกรวน-สังคมสูงอายุ หวัง เวที COP29 จริงจังแสวงหาความร่วมมือ
 
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายร่วมกับภาคประชาสังคม หลังประสบอุทกภัยและอยู่ระหว่างการฟื้นฟู โดยจากการพูดคุยกับทีมงาน หลายส่วนที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทาง ถูกฟื้นฟูกลับมาใกล้สู่สภาวะปกติแล้ว แต่อาจมีบางประเด็นที่ประชาชนสะท้อนกลับมา แม้บ้านเรือนฟื้นฟู ทำความสะอาด กลับมาอาศัยได้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ เพราะอุปกรณ์ในการทำมาหากินถูกทำลายไปด้วยอุทกภัย จึงเป็นเรื่องเร่งด่วน อีกทั้ง ไม่แน่ใจกลไกในการขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับสินเชื่อตามมาตรการของรัฐเป็นเช่นไร ทั้งนี้ มีการพบใบประชาสัมพันธ์ของหนี้นอกระบบเข้ามาเยอะมาก หากรัฐไม่เร่งประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงสินเชื่อนี้ ก็จะทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงเข้าไปในวงจรหนี้นอกระบบ
 
ส่วนเงินเยียวยาพิเศษ 9,000 บาทต่อครอบครัว ก็ถึงมือประชาชนบ้างแล้ว แต่ประชาชนยังต้องการความชัดเจน คือ เงินเยียวยาสำหรับบ้านเรือนที่เสียหาย จะได้รับเงินเยียวยาสูงสุดถึง 2 แสนกว่าบาท หากบ้านเสียหายที่เสียหาย 70%
 
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มองในภาพรวมเป็นผลลัพธ์จาก 2 ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น คือ 1.สภาวะโลกรวน หรือ การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ที่ทำให้ภัยพิบัติเกิดขึ้น ถี่ขึ้น รุนแรงขึ้น กระทบต่อผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง 2.สังคมสูงวัย หลายครัวเรือนมีผู้สูงอายุ จึงเป็นโจทย์สำคัญหากจะรับมือกับภัยพิบัตในอนาคต ที่จะทำอย่างไรให้หน่วยงานรัฐมีข้อมูลผู้สูงอายุ เพื่อช่วยเหลือได้ทันท่วงที ซึ่งการเชื่อมข้อมูลทุกหน่วยงานให้เป็นแผนที่เรียลไทม์ หรือการแปะสัญลักษณ์หน้าบ้านเพื่อให้กู้ภัยเข้ามาช่วยได้ ดังนั้น นอกจาการฟื้นฟูแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ต้องมาคิดหาวิธีรับมือปัญหาโลกรวนและสังคมสูงวัยว่าทำอย่างไร
 
สำหรับการคาดการณ์จากนักวิชาการว่า ในปี 2573 จะมีน้ำท่วมหนักกว่าปี 2554 นายพริษฐ์ เดาว่า น่าจะมาจากการวิเคราะห์จากสภาวะโลกรวน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่ผ่านมา คนอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ สะท้อนให้เห็นว่าใกล้ตัวมาก ถ้าไม่เร่งแก้ปัญหานี้ ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นเร็วขึ้น หนักขึ้นเรื่อยๆ โดยสิ่งที่รัฐบาลทำได้ คือ ในเวที COP29 รัฐบาลต้องจริงจังในการวางแผนว่าจะไปแสวงหาความร่วมมือจากประเทศอื่นอย่างไร รวมถึง ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ พ.ร.บ. Climate Change ซึ่งเข้าใจว่ารัฐบาลมีแนวคิดนี้อยู่ โดยทางพรรคประชาชนได้ยื่นเรื่องเข้าสู่สภาแล้ว รอร่างของรัฐบาลมาประกบเร็ว เพื่อให้กฎหมายที่เข้าไปกำกับดูแลแก้ปัญหาเรื่องนี้ ทั้งนี้ ร่างของพรรคประชาชน มีสาระสำคัญ ที่พยายามให้มีกลไกกำหนดเพดานก๊าซเรือนกระจกอุตสาหกรรม ที่ต้องมีการปรับลดในทุกๆ ปี
 


‘บิ๊กอ้วน’ ฉุน! ปัด ‘ทักษิณ’ ดีลลับ ‘ฮุนเซน’ บอก ไม่มีบทบาท-หน้าที่ จะทำได้อย่างไร
https://www.matichon.co.th/politics/news_4892405

‘บิ๊กอ้วน’ ฉุน! ปัด ‘ทักษิณ’ ดีลลับ ‘ฮุนเซน’ บอกไม่มีบทบาท-หน้าที่ จะทำได้อย่างไร ถามใครไม่ไว้วางใจรบ. ซัด พูดจนกระทบคนเกาะกูด มั่นใจ ไม่กระทบการเจรจา
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่เกาะกูด จ.ตราด เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่นมาว่า ตนไปสองวัตถุประสงค์คือ ไปตรวจเยี่ยมกำลังพลของกองทัพเรือ และสอบถามเรื่องราวต่างๆ จากคนที่ดูแลทางทะเลและทางบก กับฝ่ายที่เป็นข้าราชการ ฝ่ายปกครอง ทั้งนายอำเภอและผู้บริหารท้องถิ่นต่างๆ รวมถึงทางสถานีตำรวจ ซึ่งสบายใจได้ว่าทางกองปฏิบัติการชายแดนบริเวณนั้นมีความแข็งแรง เข้มแข็ง การดูแลนั้นยืนยันว่า จะปกป้องดินแดนบริเวณเกาะกูด ไม่ยอมเสียผืนแผ่นดินแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ตรงนี้เป็นการยืนยันให้ทุกคนสบายใจ เพราะข่าวที่ออกมามันสับสน ยืนยันว่า กองทัพเรือเรายังสามารถดำเนินการและปกป้องอธิปไตยบริเวณเกาะกูดได้อย่างไม่มีปัญหา และจากการสอบถามความสัมพันธ์ของนายทหารที่ดูแลของทั้งสองประเทศ มีความสัมพันธ์ที่ดี และฝ่ายนั้นยอมรับแล้วว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของประเทศไทย ส่วนเรื่องของเอ็มโอยูที่จะมีการคุยกัน ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับดินแดน เป็นเพียงเรื่องของการดำเนินการในเรื่องที่ยังไม่เข้าใจกันหรือยังไม่มีข้อสรุปร่วมกัน โดยจะเป็นกรอบที่จะหารือร่วมกันต่อไป ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2515 มีการคุยกันเรื่องนี้ต่อเนื่องตลอดมา
 
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์นักท่องเที่ยวที่เกาะกูดนั้น ดีขึ้น ตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ โรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยว ยอดจองโรงแรมหายไป 30% แต่หลังจากมีการทำความเข้าใจก็ดีขึ้น แต่ปกตินักท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยมีบางส่วนที่ไม่มั่นใจว่า การที่มีปัญหาดังกล่าวจะเป็นอันตรายต่อการท่องเที่ยวหรือไม่ แต่จากการทำความเข้าใจแล้วเขาก็เข้าใจว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นที่น่าเป็นปัญหาอะไร
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในพื้นที่ได้สะท้อนอะไรมาบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีอะไรน่ากังวลใจ ชาวกัมพูชาที่เข้ามาก็ถือพาสปอร์ตเข้ามา โดยการขอทางกระทรวงแรงงานในการเข้ามาทำงานในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีอยู่ประมาณไม่กี่ร้อยคน นอกนั้นเป็นคนไทย
 
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะจบอย่างไร เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับนักท่องเที่ยว เพราะอีกฝ่ายยังออกมากระทุ้งในเรื่องนี้อยู่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็จบตามกระบวนการ ฝ่ายที่ออกมากระทุ้งก็กระทุ้งไป เพราะเขายังไม่เข้าใจสิ่งที่เป็นจริง เราพยายามที่จะชี้แจง ซึ่งประเด็นนี้ยังไม่มีปัญหาอะไรเลย เพียงแต่เราจำเป็นต้องมีคณะกรรมการตามกรอบที่กำหนด ถ้าได้รับฟังฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ดูแลอยู่ รวมถึงนายทหารที่ดูแลอยู่ ก็เข้าใจว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับอธิปไตย ดังนั้น การที่จะไปพูดอะไรอย่างไรก็คงไม่มีความหมายอะไร สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่า จะจัดสรรที่ดินหรือการที่จะแบ่งแยกอย่างไรในการเจรจาก็ต้องรอดูผลการเจรจาก่อน อย่าใช้จินตนาการมาพูดจนกลายเป็นปัญหาไป มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และไม่เป็นผลดีต่อความเชื่อมั่นที่ต่างประเทศมีต่อเรา
 
เมื่อถามว่า การตั้งคณะกรรมการฝ่ายไทยจะชัดเจนเมื่อไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกฯเคยพูดว่า จะมีความชัดเจนหลังจากนายกฯกลับมา ถ้าดำเนินการได้ก็จะดำเนินการ แต่หากยังติดขัดอะไรก็ต้องรอ ทั้งนี้ หากนายกฯกลับมาเชื่อว่าทุกอย่างไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังเตรียมการเรื่องนี้อยู่ และเท่าที่ดูเราพยายามเปิดให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาเป็นคณะกรรมการด้วยให้มากที่สุด โดยเฉพาะคนที่รู้ทุกๆ ด้าน เช่น กรมอุทกศาสตร์ หรือทางฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล คณะกรรมการกฤษฎีกา ตนคิดว่า รอดูตอนออกมาก่อน ขอให้ทุกฝ่ายได้ทำงานดีกว่า และไปดูเรื่องอื่นดีกว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย อย่าไปพูดให้มันเป็นประเด็น โดยที่ไม่มีมูลเหตุที่จะเป็นประเด็นได้เลย ทั้งนี้ ขอย้ำว่า เรื่องนี้จะต้องนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยกระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการเพื่อเสนอให้นายกฯนำเข้า ครม.
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะทำให้การทำงานของคณะกรรมการเจทีซีลำบากขึ้นหรือไม่ และทำให้การเจรจาสะดุดอีกครั้งหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ยืดเยื้อและไม่สะดุดแน่นอน เพราะในระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นเสียงเดียวหรือสองเสียงก็สามารถแสดงออกได้ เพียงแต่ต้องดูเสียงส่วนใหญ่และผลประโยชน์ของประเทศ อย่าให้คนเพียงไม่กี่คนหรือบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจ โดยรัฐบาลจะพยายามชี้แจงให้เข้าใจ อย่าให้เป็นประเด็นที่จะมาขัดกับปัญหาของประเทศที่ควรจะต้องแก้ไข
 
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่า ประชาชนบางส่วนยังไม่ไว้วางใจรัฐบาลเท่าที่ควร นายภูมิธรรม ย้อนถามว่า ประชาชนส่วนไหน เพราะก็มีไม่กี่ส่วนนี่แหละ ประชาชนส่วนใหญ่ที่เกาะกูดเขายังรู้สึกไม่ดีเลยว่า ทำไมมาพูดในสิ่งที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะเขารู้สึกว่า มันกระทบกระเทือนต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเขา ฉะนั้น รอให้มันมีกิจกรรมหรือมีผลของการเจรจาออกมาก่อน ซึ่งคิดว่า ไม่น่ามีปัญหาอะไร จากนั้นค่อยมาถกเถียงกันดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายภูมิธรรม ได้กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “เรื่องนี้จบได้แล้วครับ ไปเรื่องอื่นๆ
 
เมื่อถามย้ำว่า ล่าสุดมีข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีการดีลลับกับสมเด็จฮุน เซน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีดีลลับอะไรทั้งนั้น คนไม่มีบทบาท ไม่มีหน้าที่จะเข้าไปดีลลับได้อย่างไร คณะกรรมการยังไม่ตั้งเลย ก็ต้องรอคณะกรรมการทั้งสองฝ่ายคุยกัน ซึ่งคณะกรรมการก็มาจากหลายส่วน



"กรุงศรี" คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.85-34.65 ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ-นโยบายการค้าของทรัมป์
https://siamrath.co.th/n/579586

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.85-34.65 ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯและนโยบายการค้าของทรัมป์
 
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.67 กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.85-34.65 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 34.07 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายผันผวนในช่วง 33.59-34.46 บาท/ดอลลาร์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือน เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดคาดการณ์ผลกระทบต่างๆที่อาจเกิดจากนโยบายของอดีตปธน.ทรัมป์ซึ่งคว้าชัยชนะกลับมาเป็นผู้นำสหรัฐฯอีกหน โดยปฏิกิริยาของตลาดสะท้อนการประเมินว่านโยบายต่างๆจะส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯสูงขึ้นและธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)อาจไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยลงมาก นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลอีกด้วยว่ามาตรการด้านศุลกากรจะฉุดรั้งการค้าโลก ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯเหวี่ยงตัวผันผวน โดยนักลงทุนรอดูแผนใช้จ่ายของทรัมป์ซึ่งอาจทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณสหรัฐฯเพิ่มขึ้นอีก 7.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 3,641 ล้านบาท และ 24,489 ล้านบาท ตามลำดับ
 
สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ ผู้ร่วมตลาดจะยังคงชั่งน้ำหนักผลกระทบจากนโยบายด้านการค้าและการคลังของสหรัฐฯต่อไปเมื่อทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่งปธน.ช่วงต้นปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร และราคาทองคำ รวมถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อประเมินว่าจะมีการปรับเปลี่ยนแผนนโยบายการเงินภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ในอีกหลายปีข้างหน้าหรือไม่ ทั้งนี้ เฟดลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bp สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมรอบล่าสุด โดยประธานเฟดระบุว่าผลการเลือกตั้งจะไม่กระทบการตัดสินใจด้านนโยบายของเฟดในอนาคตอันใกล้ ขณะที่เฟดจะประเมินข้อมูลเพื่อกำหนดดอกเบี้ยและมองว่าเงินเฟ้อกำลังลดลงสอดคล้องกับที่เฟดคาดการณ์ ส่วนภาคแรงงานในภาพรวมชะลอความร้อนแรงลงแต่ถือว่ายังแข็งแกร่งอยู่ อนึ่ง เราคาดว่าเงินดอลลาร์จะยังคงได้แรงหนุนในระยะสั้นขณะที่ตลาดรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับระดับความรุนแรงของสงครามการค้ารวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน
 
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนตุลาคมของไทยเพิ่มขึ้น 0.77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.83% ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 1.12% ในไตรมาสปัจจุบัน
 
#กรุงศรี #เงินบาท #ข่าววันนี้ #เงินเฟ้อ #สยามรัฐ #สยามรัฐอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่