สวัสดีค่า ˚ ༘♡ ⋆。˚ ❀ หนูชื่อน้ำอุ่น อายุ 12 ปี เป็นนักเรียนทุนสมทบจำนวน 60,000 บาท ของโครงการ BeWise Global Exchange 2024 รอบเดินทางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา วันนี้หนูจะมาเล่าประสบการณ์การเดินทางไปแลกเปลี่ยน ณ เมือง Boston, MA และจะมาแนะนำทุนลับๆ สำหรับพี่ๆน้องๆ ม.1-ม.6 ค่ะ
เริ่มแรกเลยคือ คุณแม่ไปเจอโพสต์ Facebook ประกาศสมัครสอบโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนระยะสั้นสำหรับนักเรียน ม. 1 - ม. 6 โดยที่สะดุดตามากๆ คือโครงการนี้มีการให้ทุนเต็มจำนวน แบบบินฟรี อยู่ฟรี โดยเสียค่าธรรมเนียมการสอบแค่ 200 บาท ที่ bewise-global.com หนูก็เลยตัดสินใจสมัครไป โดยโครงการบีไวส์มีเมืองให้เลือกทั้งหมด 6 เมือง 4 ประเทศด้วยกัน คือ Oxford, Boston (ไปทั้งหมด 3 สัปดาห์) Sydney, Melbourne, Tokyo, Manchester (ไปทั้งหมด 4 สัปดาห์) โดยแต่ละรอบที่สอบ (มีทั้งหมด 6 รอบ) จะเปิดรับสมัครแตกต่างกันไป หนูเลือกลงเมือง Boston เพราะอยากไปเที่ยวที่ไกลๆ และมีความฝันวัยเด็กว่าอยากจะไป USA ซักครั้งในชีวิต ซึ่งเลือกไม่ผิดจริงๆ ค่ะะ
หลังจากสมัครสอบ จะมีอีเมลล์ส่งเข้ามานัดหมายการเข้าประชุม Zoom หรือวันแนะนำการเข้าห้องสอบและการจัดโต๊ะสอบนั่นเองค่ะ เป็นการทดลองระบบและการแนะนำการจัดโต๊ะสอบ (วิธีการตั้งกล้องให้เห็นหน้าจอคอม ฯลฯ) แล้วก็จะมีอีเมลล์ส่งมาอีกครั้งเป็นลิ้งค์การเข้าทำแบบทดสอบ ในระบบออนไลน์ เพื่อเข้าสอบในวันจริง โดยหลังจากการสอบประมาณ 2-3 วัน ก็จะประกาศผลการสอบผ่านเว็บไซต์ bewise-global.com ค่ะ คนที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละรอบจะเป็นผู้ได้รับทุนเต็มจำนวน หากมีผู้ได้คะแนนสูงสุดเท่ากันก็จะมีการนัดสอบสัมภาษณ์เพื่อเลือกนักเรียนทุนเต็มจำนวนต่อไปค่ะ
หนูคงจะต้องเกริ่นก่อนว่าหนูมีทักษะพื้นฐานภาษาอังกฤษเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หนูเลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากมาย (คงต้องแอบสารภาพว่าส่วนตัวไม่ได้คิดว่าจะได้ทุน เลยทำข้อสอบไปแบบเล่นๆ) ที่จำได้เป็นข้อสอบแบบตัวเลือกทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 4 พาร์ท ทั้งหมด 60 ข้อ โดยข้อสอบจะออกแนวคล้ายๆ ข้อสอบ IELTS ในหลายพาร์ท เลยจะแนะนำให้เอาแนวข้อสอบ IELTS มาเตรียมตัวค่ะ ส่วนข้อสอบที่หนูใช้เตรียมตัวคือเล่มของ อ.ศุภวัฒน์ โดยใช้เล่มตะลุยโจทย์ Grammar กับเล่มสรุปเข้ม Vocab พร้อมแนวข้อสอบค่ะ
หลังจากประกาศผลแล้ว ก็จะมีการยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการ โดยเรื่องการจ่ายเงินสำหรับนักเรียนทุนสมทบจะต้องจ่ายเพิ่มทั้งหมด 178,000 บาท จะมีการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ทั้งหมด 4 งวดด้วยกัน ซึ่งตรงนี้หนูไม่แน่ใจว่าแบ่งเป็นงวดละเท่าไหร่ แล้วก็จะมีปฐนนิเทศออนไลน์ ซึ่งจะชี้แจงเรื่องรายละเอียดโครงการและรายละเอียดเอกสารยื่นวีซ่าต่างๆ แล้วก็จะมีนัดทำวีซ่า และนัดทำกิจกรรม pre-departure ซึ่งจะมีแจ้งเรื่องการจัดกระเป๋า การเดินทาง แผนกำหนดการต่างๆ ขณะเดินทางไปเมืองนั้นๆ และมีกิจกรรมทำความรู้จักกับเพื่อนที่ไปเมืองเดียวกันด้วยค่ะ กิจกรรม pre-departure ยังมีให้เลือกว่าจะเข้าแบบ on-site หรือ online อีกด้วย และหนูก็ไม่ได้ติดภารกิจอะไร จึงเข้าแบบ on-site ค่ะ ตลอดทุกๆ กิจกรรมจะมีพี่ของโครงการคอยดูแลอยู่เสมอ และหากคำถามใดๆ ก็สามารถทักถามทางไลน์ official ของบีไวส์ได้ตลอดเลยด้วย
ส่วนเรื่องของ Host Family จะสามารถทราบได้ 1 - 2 สัปดาห์ก่อนวันบิน ซึ่งข้อหนดกำหนดของโครงการคือ เด็กที่อายุต่ำกว่า 16 จะอยู่กันบ้านละ 2 - 3 คน ทางโครงการจะส่งมาเป็นไฟล์ให้ โดยมีข้อมูลครบทั้งชื่อโฮสต์ ที่อยู่บ้าน และเบอร์โทรการติดต่อ กับอีเมลล์ หนูแนะนำให้วางแผนการเดินทางล่วงหน้าไปก่อนเลยค่ะ
เข้าสู้เรื่องการเดินทางกันค่ะ เมืองบอสตันบินวันที่ 6 ตุลาคมเวลา 03.30 โดยโครงการนัดเจอที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 23.30 โดยมีการนัดหมายให้ใส่เสื้อกันหนาวสีขาวของบีไวส์ที่แจกให้ในงาน Pre-departure เมื่อไปถึงสนามบินก็จะนัดรวมตัวกัน รอบบินของหนูดึกมาก ซึ่งรอบนัดตอนนั้นจะมีด้วยกันสองเมืองคือ Boston & Oxford ค่ะ เมื่อไปถึงก็จะมีการแจกแท็กกระเป๋า และบัตรนักเรียน ไปถึงแล้วก็สามารถไปทักทาย เมคเฟรนด์กับเพื่อนๆ ที่จะไปร่วมโครงการด้วยกันได้ ซักพักก็จะมีนัดถ่ายรูปรวมและเป็นการโหลดกระเป๋าพร้อมเข้าไปที่เกตค่ะ พอเข้าไปถึงเกตแล้ว พี่ๆ ก็จะปล่อยฟรีให้เดินใน duty-free เพื่อซื้อของหรือหาอะไรทานได้ แล้วจะนัดรวมที่หน้าเกตอีกทีประมาณ 20 นาทีก่อนเกตเปิดค่ะ

นั่งรอโหลดกระเป๋า ♫
เมืองบอสตันนั่งสายการบิน Emirates เพื่อไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ แล้วนั่ง Emirates ไปลงเครื่องที่ Boston Logan International Airport ค่ะ ระยะเวลาเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบมีเพียงชั่วโมงกว่าๆ เลยไม่ได้แวะที่ไหนเลย พอลงเครื่องแล้วก็รีบขึ้นรถบัสเปลี่ยน Terminal ซึ่งค่อนข้างใช้เวลานานแล้วก็เดินไปหาเกตเลยค่ะ กลุ่มพวกเราไปถึงทันเวลาพอดี เข้าเกตไปก็รอประมาณ 10 นาทีแล้วก็มีการเรียกบอร์ดิ้งเลยค่ะ

อันนี้ส่งคอนเฟิร์มแม่ว่าของยังอยู่ครบค่า
ไฟลท์แรกจะเป็นไฟลท์ที่ค่อนข้างจะสั้น เพราะบินแค่ประมาณ 5 - 6 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ส่วนไฟลท์ที่สองจากดูไบไปบอสตันจะใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง เป็นไฟลท์ที่นานมากเลยค่ะ ถือว่าหนูโชคดีที่ได้นั่งข้างทางเดินเลยไปลุกออกไปบ้าง แต่ไฟลท์ที่สองเป็นไฟลท์ที่ทรมานมากๆ เพราะส่วนใหญ่จะได้นอนกันชั่วโมงท้ายๆ เลย In-flight entertainment ก็ไม่ได้มีเยอะมาก หนังใหม่ๆ ส่วนใหญ่ยังไม่เข้า นั่งดูหนังกันไปซัก 4 ชั่วโมงก็ปวดหัวกันแล้วค่ะ (แอบกระซิบว่า WIFI บนเครื่องใช้ไม่ได้ทั้งขาไปขากลับเลย)


อันนี้รูปจากหน้าต่าง ไม่ได้ถ่ายเยอะ ตอนนั้นปวดหัวมากกกกก ˚ ༘♡ ⋆。˚
พอมาถึงบอสตันก็ตามขั้นตอนเลยค่ะ ผ่าน Security ผ่านตม. รับกระเป๋า (ตอนนั้นกระเป๋ามีรอยเยอะมากๆ) เสร็จทุกอย่างแล้วก็ลงไปซื้อบัตร Charlie Card (คล้ายๆ บัตร Rabbit ของไทยแต่สามารถใช้แตะขึ้น Bus & Subway ได้) และรอ Airport Pickup มารับไปส่งที่บ้านค่ะ

แนบรูป Charlie card คับ ・❥・
วันแรกก็จะมีการส่งทุกคนถึงบ้านแล้วก็ปล่อยให้พักผ่อน/สำรวจเมืองแถวๆ บ้าน ซึ่งแต่ละบ้านอยู่ค่อนข้างไกลเลยทีเดียว (บ้านแรกของหนูอยู่ Ashmont แต่มีปัญหากับบ้านโฮสต์นิดนึง เลยได้ย้ายบ้านไปอยู่แถว Hyde Park แทน) วันต่อมาก็จะมีการนัดหมายที่โรงเรียน OHC Boston ซึ่งเวลาเข้าเรียนคือ 9.00 น.
(ขอแอบย้ำตรงนี้นิดนึง การบินจากไทยไป Boston คือเวลาของไทยจะเร็วกว่าเวลาบอสตันทั้งหมด 11 ชั่วโมง ทำให้เหมือนเวลาพลิกกลับด้าน ทุกคนที่ไป Jet lag กันมาก และต้องใช้เวลาปรับตัวเกือบหนึ่งสัปดาห์ และกลับมาปรับตัวให้เข้ากับเวลาไทยอีก 1 สัปดาห์)

รูปจากสนามบิน Boston Logan International Airport

ทางตอนที่ airport pickup ไปส่ง

โบสถ์แถวบ้านตอนไปเดินเล่นกลางดึก

บรรยากาศแถวบ้านเพื่อน (ถ่ายตอนไปเยี่ยมเพื่อน)
โรงเรียนที่บอสตันไปเรียนคือสถาบันสอนภาษา OHC Boston ซึ่งอยู่ตรงใจกลางเมืองบอสตันเลย การเดินทางไปที่โรงเรียนไม่ยากเลย ถ้าเข้าไปในตัวเมืองแล้วจะง่ายมากๆ ถึงแม้ว่าบ้านจะอยู่นอกตัวเมืองแต่ส่วนใหญ่จะมีรถไฟไปถึงละแวกบ้านเลย บางคนอาจจะต้องต่อบัสนิดๆ หน่อยแต่โดยรวมแล้วเดินทางไปกลับง่ายมากๆ ส่วน OHC Boston ในความคิดเห็นส่วนตัวหนูชอบมากๆ เลยค่ะ วันแรกที่เข้าไปเรียนจะมีกิจกรรมที่แนะนำตัวเรากับไม่ใช่แค่นักเรียนเก่า แต่กับเพื่อนคนไทยด้วยกันด้วย (เพื่อนในกลุ่มทั้งหมด 20 คนไม่มีใครรู้จักกันมาก่อน) หลังจากนั้นก็มีทดสอบ speaking อีกทีเพื่อแบ่งเข้าคลาส คลาสเรียนมีทั้งหมด 4 ระดับ หนูอยู่คลาส advanced ก็จะบทเรียนที่ยากบ้างง่ายบ้าง คละๆกันเลยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากพูดดีพูดเก่งขึ้น เพราะสำหรับหนูแล้ว OHC Boston เค้าเน้น pronunciation เยอะมากๆ เลย คุณครูกับสตาฟทุกคนก็น่ารักกันมากๆ พร้อมต้อนรับทุกคนแบบอบอุ่นมากๆ เลยค่ะ

บางทีคุณครูจะมาประมาณ 7.30 และช่วงแรกๆ ที่ทุกคน Jet lag กันมากๆ ก็จะมาโรงเรียนเช้ามาก คุณครูก็จะเอาขนมออกมาวางไว้เผื่อเด็กๆ ในตอนเช้าค่ะ น่ารักมากเลยยย ˗ˏˋ ´ˎ˗
พี่ๆ จะมีตารางและพาพวกเราไปเที่ยวเกือบทุกวัน ซึ่งก่อนเดินทางจะมีแบบฟอร์มเรื่องโฮสต์ เรื่องสถานที่ที่อยากไป มาให้กรอก และพี่ๆ ก็พยายามกระจายสถานที่ให้ทุกคนได้ไปที่ที่อยากไป ด้วยความที่บอสตันเป็นเมืองการศึกษา ทำให้พิพิธภัณฑ์ค่อนข้างเยอะ แต่พิพิธภัณฑ์ทุกที่ก็จะมีเอกลักษณ์และความน่าสนใจของมันแตกต่างกันออกไป ทำให้เดินไม่เบื่อเลย แถมพี่ๆ พาไปเก็บจุด check-in ในบอสตันครบทุกที่และพาตะลอนกินตะลอนช้อปปิ้งด้วยค่า ✧˚ · .




อันนี้คือเพื่อนซื้อเป็ดให้แล้วเห่อเป็ดมากก เลยพาน้องเที่ยว1วัน ✎












อันนี้จะออกแนวถ่ายไปเรื่อย สวยบ้างไม่สวยบ้าง ตามนั้นงับ

แถมรูปอุ่นเบะใส่กล้องให้รูปนึง
✧・゚: *✧・゚
หนูรู้สึกดีใจมากๆ ที่สอบได้ทุนไปบอสตัน การเดินทางครั้งนี้มันเปิดโลกให้เด็กสิบสองคนนี้มากๆ เลยค่ะ แม้ว่าตอนไปจะเจอปัญหาอุปสรรคเยอะแยะเลย ไม่ว่าจะเรื่องโฮสต์ กระเป๋าสตางค์ตกรางรถไฟบ้าง กระเป๋าหายบ้าง ตกรถหรือนั่งรถผิดป้าย โดนรถบัสบิดบ้าง แต่ทุกอย่างล้วนเป็นประสบการณ์ที่ดีให้หนู ให้หนูได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบคนเดียว เดินทางเอง อยู่เอง หากินเอง พร้อมกับการแสดงให้หนูเห็นว่า โลกภายนอกมันมีอะไรให้เห็นเยอะแยะมากกว่าที่คิดไว้เลย
การไปครั้งนี้ยังทำให้หนูมีเพื่อน มีรุ่นพี่เพิ่มด้วย ทุกคนรักกันมากจริงๆ เพราะใช้ชีวิตมาด้วยกันสามสัปดาห์ มันเหมือนได้ค้นพบมิตรภาพจริงๆ ที่โรวเรียนของหนูไม่สามารถหยิบยื่นให้หนูได้ ทุกคนอบอุ่น เป็นกันเอง และพร้อมจะยื่นมือช่วยเหลือกันและกันได้เวลาที่ใครซักคนลำบาก รักพี่ๆ ทุกคนมากๆ
สุดท้ายก็คงขอบคุณบีไวส์ที่หยิบยื่นโอกาสดีๆ มาให้ ทริปนี้จะถูกเก็บไว้ในหัวใจของหนูอย่างดี และจะเป็นความทรงจำที่หนูกลับมาและยิ้มกับมันได้ทุกๆ ครั้ง ขอขอบคุณทุกคนและขอบคุณบอสตันที่ใจดีกับเด็กคนนี้นะ
วันนี้ขอปิดไดอารี่บันทึกชีวิตไว้แค่นี้ค่ะ
ไว้เจอกันใหม่นะ
#BeWiseGlobalExchange #ทุนBeWise #รีวิวทุนBeWise
รีวิวทุน(ไม่)ลับ สำหรับนักเรียนมัธยม ❀ แลกเปลี่ยนระยะสั้น Bewise Global Exchange October 2024
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะเริ่มแรกเลยคือ คุณแม่ไปเจอโพสต์ Facebook ประกาศสมัครสอบโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนระยะสั้นสำหรับนักเรียน ม. 1 - ม. 6 โดยที่สะดุดตามากๆ คือโครงการนี้มีการให้ทุนเต็มจำนวน แบบบินฟรี อยู่ฟรี โดยเสียค่าธรรมเนียมการสอบแค่ 200 บาท ที่ bewise-global.com หนูก็เลยตัดสินใจสมัครไป โดยโครงการบีไวส์มีเมืองให้เลือกทั้งหมด 6 เมือง 4 ประเทศด้วยกัน คือ Oxford, Boston (ไปทั้งหมด 3 สัปดาห์) Sydney, Melbourne, Tokyo, Manchester (ไปทั้งหมด 4 สัปดาห์) โดยแต่ละรอบที่สอบ (มีทั้งหมด 6 รอบ) จะเปิดรับสมัครแตกต่างกันไป หนูเลือกลงเมือง Boston เพราะอยากไปเที่ยวที่ไกลๆ และมีความฝันวัยเด็กว่าอยากจะไป USA ซักครั้งในชีวิต ซึ่งเลือกไม่ผิดจริงๆ ค่ะะ
หลังจากสมัครสอบ จะมีอีเมลล์ส่งเข้ามานัดหมายการเข้าประชุม Zoom หรือวันแนะนำการเข้าห้องสอบและการจัดโต๊ะสอบนั่นเองค่ะ เป็นการทดลองระบบและการแนะนำการจัดโต๊ะสอบ (วิธีการตั้งกล้องให้เห็นหน้าจอคอม ฯลฯ) แล้วก็จะมีอีเมลล์ส่งมาอีกครั้งเป็นลิ้งค์การเข้าทำแบบทดสอบ ในระบบออนไลน์ เพื่อเข้าสอบในวันจริง โดยหลังจากการสอบประมาณ 2-3 วัน ก็จะประกาศผลการสอบผ่านเว็บไซต์ bewise-global.com ค่ะ คนที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละรอบจะเป็นผู้ได้รับทุนเต็มจำนวน หากมีผู้ได้คะแนนสูงสุดเท่ากันก็จะมีการนัดสอบสัมภาษณ์เพื่อเลือกนักเรียนทุนเต็มจำนวนต่อไปค่ะ
หนูคงจะต้องเกริ่นก่อนว่าหนูมีทักษะพื้นฐานภาษาอังกฤษเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หนูเลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากมาย (คงต้องแอบสารภาพว่าส่วนตัวไม่ได้คิดว่าจะได้ทุน เลยทำข้อสอบไปแบบเล่นๆ) ที่จำได้เป็นข้อสอบแบบตัวเลือกทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 4 พาร์ท ทั้งหมด 60 ข้อ โดยข้อสอบจะออกแนวคล้ายๆ ข้อสอบ IELTS ในหลายพาร์ท เลยจะแนะนำให้เอาแนวข้อสอบ IELTS มาเตรียมตัวค่ะ ส่วนข้อสอบที่หนูใช้เตรียมตัวคือเล่มของ อ.ศุภวัฒน์ โดยใช้เล่มตะลุยโจทย์ Grammar กับเล่มสรุปเข้ม Vocab พร้อมแนวข้อสอบค่ะ
หลังจากประกาศผลแล้ว ก็จะมีการยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการ โดยเรื่องการจ่ายเงินสำหรับนักเรียนทุนสมทบจะต้องจ่ายเพิ่มทั้งหมด 178,000 บาท จะมีการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ทั้งหมด 4 งวดด้วยกัน ซึ่งตรงนี้หนูไม่แน่ใจว่าแบ่งเป็นงวดละเท่าไหร่ แล้วก็จะมีปฐนนิเทศออนไลน์ ซึ่งจะชี้แจงเรื่องรายละเอียดโครงการและรายละเอียดเอกสารยื่นวีซ่าต่างๆ แล้วก็จะมีนัดทำวีซ่า และนัดทำกิจกรรม pre-departure ซึ่งจะมีแจ้งเรื่องการจัดกระเป๋า การเดินทาง แผนกำหนดการต่างๆ ขณะเดินทางไปเมืองนั้นๆ และมีกิจกรรมทำความรู้จักกับเพื่อนที่ไปเมืองเดียวกันด้วยค่ะ กิจกรรม pre-departure ยังมีให้เลือกว่าจะเข้าแบบ on-site หรือ online อีกด้วย และหนูก็ไม่ได้ติดภารกิจอะไร จึงเข้าแบบ on-site ค่ะ ตลอดทุกๆ กิจกรรมจะมีพี่ของโครงการคอยดูแลอยู่เสมอ และหากคำถามใดๆ ก็สามารถทักถามทางไลน์ official ของบีไวส์ได้ตลอดเลยด้วย
ส่วนเรื่องของ Host Family จะสามารถทราบได้ 1 - 2 สัปดาห์ก่อนวันบิน ซึ่งข้อหนดกำหนดของโครงการคือ เด็กที่อายุต่ำกว่า 16 จะอยู่กันบ้านละ 2 - 3 คน ทางโครงการจะส่งมาเป็นไฟล์ให้ โดยมีข้อมูลครบทั้งชื่อโฮสต์ ที่อยู่บ้าน และเบอร์โทรการติดต่อ กับอีเมลล์ หนูแนะนำให้วางแผนการเดินทางล่วงหน้าไปก่อนเลยค่ะ
เข้าสู้เรื่องการเดินทางกันค่ะ เมืองบอสตันบินวันที่ 6 ตุลาคมเวลา 03.30 โดยโครงการนัดเจอที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 23.30 โดยมีการนัดหมายให้ใส่เสื้อกันหนาวสีขาวของบีไวส์ที่แจกให้ในงาน Pre-departure เมื่อไปถึงสนามบินก็จะนัดรวมตัวกัน รอบบินของหนูดึกมาก ซึ่งรอบนัดตอนนั้นจะมีด้วยกันสองเมืองคือ Boston & Oxford ค่ะ เมื่อไปถึงก็จะมีการแจกแท็กกระเป๋า และบัตรนักเรียน ไปถึงแล้วก็สามารถไปทักทาย เมคเฟรนด์กับเพื่อนๆ ที่จะไปร่วมโครงการด้วยกันได้ ซักพักก็จะมีนัดถ่ายรูปรวมและเป็นการโหลดกระเป๋าพร้อมเข้าไปที่เกตค่ะ พอเข้าไปถึงเกตแล้ว พี่ๆ ก็จะปล่อยฟรีให้เดินใน duty-free เพื่อซื้อของหรือหาอะไรทานได้ แล้วจะนัดรวมที่หน้าเกตอีกทีประมาณ 20 นาทีก่อนเกตเปิดค่ะ
นั่งรอโหลดกระเป๋า ♫
เมืองบอสตันนั่งสายการบิน Emirates เพื่อไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ แล้วนั่ง Emirates ไปลงเครื่องที่ Boston Logan International Airport ค่ะ ระยะเวลาเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบมีเพียงชั่วโมงกว่าๆ เลยไม่ได้แวะที่ไหนเลย พอลงเครื่องแล้วก็รีบขึ้นรถบัสเปลี่ยน Terminal ซึ่งค่อนข้างใช้เวลานานแล้วก็เดินไปหาเกตเลยค่ะ กลุ่มพวกเราไปถึงทันเวลาพอดี เข้าเกตไปก็รอประมาณ 10 นาทีแล้วก็มีการเรียกบอร์ดิ้งเลยค่ะ
อันนี้ส่งคอนเฟิร์มแม่ว่าของยังอยู่ครบค่า
ไฟลท์แรกจะเป็นไฟลท์ที่ค่อนข้างจะสั้น เพราะบินแค่ประมาณ 5 - 6 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ส่วนไฟลท์ที่สองจากดูไบไปบอสตันจะใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง เป็นไฟลท์ที่นานมากเลยค่ะ ถือว่าหนูโชคดีที่ได้นั่งข้างทางเดินเลยไปลุกออกไปบ้าง แต่ไฟลท์ที่สองเป็นไฟลท์ที่ทรมานมากๆ เพราะส่วนใหญ่จะได้นอนกันชั่วโมงท้ายๆ เลย In-flight entertainment ก็ไม่ได้มีเยอะมาก หนังใหม่ๆ ส่วนใหญ่ยังไม่เข้า นั่งดูหนังกันไปซัก 4 ชั่วโมงก็ปวดหัวกันแล้วค่ะ (แอบกระซิบว่า WIFI บนเครื่องใช้ไม่ได้ทั้งขาไปขากลับเลย)
อันนี้รูปจากหน้าต่าง ไม่ได้ถ่ายเยอะ ตอนนั้นปวดหัวมากกกกก ˚ ༘♡ ⋆。˚
พอมาถึงบอสตันก็ตามขั้นตอนเลยค่ะ ผ่าน Security ผ่านตม. รับกระเป๋า (ตอนนั้นกระเป๋ามีรอยเยอะมากๆ) เสร็จทุกอย่างแล้วก็ลงไปซื้อบัตร Charlie Card (คล้ายๆ บัตร Rabbit ของไทยแต่สามารถใช้แตะขึ้น Bus & Subway ได้) และรอ Airport Pickup มารับไปส่งที่บ้านค่ะ
แนบรูป Charlie card คับ ・❥・
วันแรกก็จะมีการส่งทุกคนถึงบ้านแล้วก็ปล่อยให้พักผ่อน/สำรวจเมืองแถวๆ บ้าน ซึ่งแต่ละบ้านอยู่ค่อนข้างไกลเลยทีเดียว (บ้านแรกของหนูอยู่ Ashmont แต่มีปัญหากับบ้านโฮสต์นิดนึง เลยได้ย้ายบ้านไปอยู่แถว Hyde Park แทน) วันต่อมาก็จะมีการนัดหมายที่โรงเรียน OHC Boston ซึ่งเวลาเข้าเรียนคือ 9.00 น.
(ขอแอบย้ำตรงนี้นิดนึง การบินจากไทยไป Boston คือเวลาของไทยจะเร็วกว่าเวลาบอสตันทั้งหมด 11 ชั่วโมง ทำให้เหมือนเวลาพลิกกลับด้าน ทุกคนที่ไป Jet lag กันมาก และต้องใช้เวลาปรับตัวเกือบหนึ่งสัปดาห์ และกลับมาปรับตัวให้เข้ากับเวลาไทยอีก 1 สัปดาห์)
รูปจากสนามบิน Boston Logan International Airport
ทางตอนที่ airport pickup ไปส่ง
โบสถ์แถวบ้านตอนไปเดินเล่นกลางดึก
บรรยากาศแถวบ้านเพื่อน (ถ่ายตอนไปเยี่ยมเพื่อน)
โรงเรียนที่บอสตันไปเรียนคือสถาบันสอนภาษา OHC Boston ซึ่งอยู่ตรงใจกลางเมืองบอสตันเลย การเดินทางไปที่โรงเรียนไม่ยากเลย ถ้าเข้าไปในตัวเมืองแล้วจะง่ายมากๆ ถึงแม้ว่าบ้านจะอยู่นอกตัวเมืองแต่ส่วนใหญ่จะมีรถไฟไปถึงละแวกบ้านเลย บางคนอาจจะต้องต่อบัสนิดๆ หน่อยแต่โดยรวมแล้วเดินทางไปกลับง่ายมากๆ ส่วน OHC Boston ในความคิดเห็นส่วนตัวหนูชอบมากๆ เลยค่ะ วันแรกที่เข้าไปเรียนจะมีกิจกรรมที่แนะนำตัวเรากับไม่ใช่แค่นักเรียนเก่า แต่กับเพื่อนคนไทยด้วยกันด้วย (เพื่อนในกลุ่มทั้งหมด 20 คนไม่มีใครรู้จักกันมาก่อน) หลังจากนั้นก็มีทดสอบ speaking อีกทีเพื่อแบ่งเข้าคลาส คลาสเรียนมีทั้งหมด 4 ระดับ หนูอยู่คลาส advanced ก็จะบทเรียนที่ยากบ้างง่ายบ้าง คละๆกันเลยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากพูดดีพูดเก่งขึ้น เพราะสำหรับหนูแล้ว OHC Boston เค้าเน้น pronunciation เยอะมากๆ เลย คุณครูกับสตาฟทุกคนก็น่ารักกันมากๆ พร้อมต้อนรับทุกคนแบบอบอุ่นมากๆ เลยค่ะ
บางทีคุณครูจะมาประมาณ 7.30 และช่วงแรกๆ ที่ทุกคน Jet lag กันมากๆ ก็จะมาโรงเรียนเช้ามาก คุณครูก็จะเอาขนมออกมาวางไว้เผื่อเด็กๆ ในตอนเช้าค่ะ น่ารักมากเลยยย ˗ˏˋ ´ˎ˗
พี่ๆ จะมีตารางและพาพวกเราไปเที่ยวเกือบทุกวัน ซึ่งก่อนเดินทางจะมีแบบฟอร์มเรื่องโฮสต์ เรื่องสถานที่ที่อยากไป มาให้กรอก และพี่ๆ ก็พยายามกระจายสถานที่ให้ทุกคนได้ไปที่ที่อยากไป ด้วยความที่บอสตันเป็นเมืองการศึกษา ทำให้พิพิธภัณฑ์ค่อนข้างเยอะ แต่พิพิธภัณฑ์ทุกที่ก็จะมีเอกลักษณ์และความน่าสนใจของมันแตกต่างกันออกไป ทำให้เดินไม่เบื่อเลย แถมพี่ๆ พาไปเก็บจุด check-in ในบอสตันครบทุกที่และพาตะลอนกินตะลอนช้อปปิ้งด้วยค่า ✧˚ · .
อันนี้คือเพื่อนซื้อเป็ดให้แล้วเห่อเป็ดมากก เลยพาน้องเที่ยว1วัน ✎
อันนี้จะออกแนวถ่ายไปเรื่อย สวยบ้างไม่สวยบ้าง ตามนั้นงับ
แถมรูปอุ่นเบะใส่กล้องให้รูปนึง
✧・゚: *✧・゚
หนูรู้สึกดีใจมากๆ ที่สอบได้ทุนไปบอสตัน การเดินทางครั้งนี้มันเปิดโลกให้เด็กสิบสองคนนี้มากๆ เลยค่ะ แม้ว่าตอนไปจะเจอปัญหาอุปสรรคเยอะแยะเลย ไม่ว่าจะเรื่องโฮสต์ กระเป๋าสตางค์ตกรางรถไฟบ้าง กระเป๋าหายบ้าง ตกรถหรือนั่งรถผิดป้าย โดนรถบัสบิดบ้าง แต่ทุกอย่างล้วนเป็นประสบการณ์ที่ดีให้หนู ให้หนูได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบคนเดียว เดินทางเอง อยู่เอง หากินเอง พร้อมกับการแสดงให้หนูเห็นว่า โลกภายนอกมันมีอะไรให้เห็นเยอะแยะมากกว่าที่คิดไว้เลย
การไปครั้งนี้ยังทำให้หนูมีเพื่อน มีรุ่นพี่เพิ่มด้วย ทุกคนรักกันมากจริงๆ เพราะใช้ชีวิตมาด้วยกันสามสัปดาห์ มันเหมือนได้ค้นพบมิตรภาพจริงๆ ที่โรวเรียนของหนูไม่สามารถหยิบยื่นให้หนูได้ ทุกคนอบอุ่น เป็นกันเอง และพร้อมจะยื่นมือช่วยเหลือกันและกันได้เวลาที่ใครซักคนลำบาก รักพี่ๆ ทุกคนมากๆ
สุดท้ายก็คงขอบคุณบีไวส์ที่หยิบยื่นโอกาสดีๆ มาให้ ทริปนี้จะถูกเก็บไว้ในหัวใจของหนูอย่างดี และจะเป็นความทรงจำที่หนูกลับมาและยิ้มกับมันได้ทุกๆ ครั้ง ขอขอบคุณทุกคนและขอบคุณบอสตันที่ใจดีกับเด็กคนนี้นะ
วันนี้ขอปิดไดอารี่บันทึกชีวิตไว้แค่นี้ค่ะ
ไว้เจอกันใหม่นะ
#BeWiseGlobalExchange #ทุนBeWise #รีวิวทุนBeWise