สวัสดีค่าา วันนี้เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ไปซัมเมอร์ที่ประเทศอังกฤษ ด้วยทุนแลกเปลี่ยน 100% เต็มจำนวนจากโครงการ BeWise Global Exchange เป็นเวลา 3 สัปดาห์ที่เมือง Oxford ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2024 ค่ะ
เริ่มแรกเลยคือเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว คุณแม่ไปเจอโพสต์ Facebook เปิดสอบชิงทุนไปซัมเมอร์ที่มีทุนสูงสุดเป็นทุนเต็มจำนวน เป็นทุนสำหรับนักเรียนมัธยม ก็เลยส่งมาให้ เรารู้สึกว่าน่าสนใจ ก็เลยตัดสินใจสมัครสอบไปค่ะ พอเราเข้าไปกรอกข้อมูลต่าง ๆ เพื่อสมัคร เขาก็จะมีให้เลือกว่าเราอยากจะไปประเทศไหนเมืองไหน ทั้งหมดจะมี 6 เมือง 4 ประเทศ คือ Oxford, Manchester, Boston, Sydney, Melbourne, Tokyo แต่ละรอบสอบก็จะมีตัวเลือกให้เลือกได้ 3-4 เมือง สลับกันไปแต่ละรอบสอบ (รู้สึกว่าทางโครงการจะมีจัดสอบประมาณ 6 รอบต่อการเดินทาง รอบที่เราสอบเป็นรอบที่ 4 ค่ะ) ตอนสมัครเราก็เลือกเป็นเมือง Oxford, UK มีเหตุผลหลัก ๆ เพราะอยากตามความฝันวัยเด็กตัวเองในการไปตามรอย Harry Potter ค่ะ 5555 อีกเหตุผลก็คือเป็นเมืองที่ใกล้ London เราเห็นโปรแกรมของโครงการมี London Day Trip อยู่ด้วย เราอยากไปเที่ยวอยู่แล้วก็เลยตัดสินใจเลือกเมืองนี้เลยค่ะ นอกจากนี้คือเรามารู้หลังจากสมัครไปด้วยว่าเพื่อนเราคนนึงก็ไป Oxford กับทุนของโครงการ BeWise เมื่อปีที่ผ่านมา เห็นตอนนั้นเพื่อนสนุก ละก็ลงรูปสวย ๆ เยอะมาก ก็เลยยิ่งรู้สึกว่าตัดสินใจถูกที่เลือกเมืองนี้ค่ะ
หลังจากสมัครสอบแล้ว ก็จะมีอีเมลส่งมาเพื่อนัดหมายเข้า Zoom ฟังชี้แจงเรื่องการสอบก่อนวันสอบจริง แนะนำการจัดห้องสอบ มีการทดลองระบบที่ใช้สอบ แล้วหลังจากนั้นก็จะมีอีเมลส่งมาอีกครั้ง เป็นขั้นตอนการเข้าสู่ระบบสอบออนไลน์ เพื่อเข้าสอบแบบออนไลน์ในวันสอบค่ะ หลังจากสอบไม่กี่วันผลก็จะถูกประกาศทางอีเมลและเว็บไซต์เลยค่ะ คนที่ได้คะแนนสูงสุดในรอบสอบก็จะได้รับทุนเต็มจำนวนเลย แต่ในรอบที่มีคนได้คะแนนสูงสุดเท่ากันมากกว่า 1 คน ก็จะมีการนัดสัมภาษณ์ต่อไป ซึ่งในรอบที่เราสอบก็มีคนคะแนนสูงสุดเท่ากัน เลยมีการนัดสัมภาษณ์ผ่าน Zoom เป็นภาษาอังกฤษ แล้วไม่กี่วันหลังจากนั้นถึงประกาศชื่อผู้ได้รับทุนเต็มจำนวนค่ะ
ส่วนตัวเราอาจจะต้องขอเกริ่นว่าเรามีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างดีมากอยู่แล้ว เลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรเพิ่มเป็นพิเศษสำหรับการสอบเลยค่ะ ข้อสอบเป็นแบบช้อยส์ทั้งหมดเลยค่ะ แบ่งออกเป็นพาร์ท ๆ ส่วนตัวเท่าที่จำได้เรารู้สึกว่าข้อสอบ โดยเฉพาะพาร์ท Listening มีความคล้ายกับข้อสอบ IELTS ดังนั้นคิดว่าใครที่อยากเตรียมตัวเพื่อสอบชิงทุนโครงการ BeWise Global Exchange น่าจะสามารถฝึกจากพวก IELTS practice tests ได้ค่ะ ส่วนการสัมภาษณ์ (เนื่องจากรอบของเรามีคนคะแนนสูงสุดเท่ากัน) ก็มีการถามคำถามทั่วไปเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยน เช่น ทำไมถึงอยากไป ทำไมถึงเลือกเมืองนี้ คิดว่าทำไมถึงควรจะได้รับทุน ประมาณนี้ค่ะ ทุกคำถามไม่ได้ยากเกินไป ขอแค่มีความมั่นใจ และแสดงความมุ่งมั่นออกมาก็เชื่อว่าทุกคนทำได้ค่ะ
หลังประกาศผล เราก็ยืนยันสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ แล้วก็จะมีปฐมนิเทศทางออนไลน์ ซึ่งก็จะมีการชี้แจงรายละเอียดต่าง ๆ ของโครงการ รวมถึงพูดถึงเรื่องเอกสารยื่นวีซ่าที่เราต้องส่งให้ทางโครงการด้วยค่ะ ขั้นตอนการยื่นวีซ่าส่วนตัวก็คือรู้สึกว่าสะดวกมากเพราะมีพี่ทีมงานช่วยเหลือหมดเลยค่ะ หลังจากเราส่งเอกสารสำคัญต่าง ๆ ให้ พี่ทีมงานจะทำการจัดการจองวันยื่นวีซ่าให้ และนัดหมายวันพาไปยื่นถึงที่เลย ค่าทำวีซ่าก็คือรวมอยู่ในทุนด้วยเลยค่ะ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเอง (แต่ถ้าทำที่เชียงใหม่จะมีเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ) พอวีซ่าได้รับการอนุมัติแล้วพาสปอร์ตจะถูกส่งไปที่ BeWise และพี่ทีมงานก็จะแจ้งให้เราทราบค่ะ ก่อนการเดินทางจริงจะมี Pre-departure Orientation ซึ่งสามารถเข้าร่วมงานได้ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ ส่วนตัวเข้าร่วมเป็นแบบออนไลน์เนื่องจากอยู่ต่างจังหวัด และช่วงนั้นติดสอบค่ะ ในงานก็จะมีการเตรียมความพร้อม บอกรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางจากประเทศไทยไปถึงอังกฤษ รายละเอียดไฟลท์บิน ข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนภาษาที่จะไปเรียน การเตรียมเสื้อผ้าจัดกระเป๋า การใช้เงิน/บัตรเดบิต การใช้รถบัส และการใช้ซิมการ์ด เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีการแจกกระเป๋า แจกเสื้อสำหรับใส่วันเดินทางด้วยค่ะ (แต่สำหรับคนที่เข้าแบบออนไลน์ ทีมงานก็มีการส่งของมาให้ถึงบ้านค่ะ)

พอถึงวันเดินทางจริงทุกคนก็จะถูกนัดไปเจอที่สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ ก็จะมีการแจกเอกสารต่างๆ แจก tag ห้อยกระเป๋า แล้วก็มีการถ่ายรูป การนัดหมายโหลดกระเป๋า เช็คอิน โดยจะมีพี่ทีมงานดูแลตลอดเลยค่ะ เราเดินทางจากสุวรรณภูมิ ไปสิงคโปร์ ไปบาห์เรน และไปลงประเทศอังกฤษที่สนามบิน London Heathrow หลังจากนั้นเราก็จะนั่งรถ coach ต่อไปที่โรงเรียนที่ Oxford เพื่อรอให้โฮสต์แต่ละบ้านมารับเข้าบ้านค่ะ


ตอนไปใช้ชีวิตที่ Oxford ก็คือสนุกมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ ทุกเช้าเราก็จะเดินทางด้วยบัสไปเรียนเวลา 9.30-13.00 น. แล้วหลังจากนั้นแต่ละวันก็จะได้ไปทานอาหารเที่ยงกับเพื่อน ๆ และไปเที่ยวแต่ละที่ในเมือง Oxford ค่ะ ส่วนมากพอเที่ยวเสร็จแล้วเราก็จะเดินทางกลับบ้านไปทานอาหารเย็นกับโฮสต์ แต่ก็มีบางวันที่ทานอาหารเย็นกับเพื่อน ๆ ค่ะ พอวันหยุดเราก็จะมีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างเมือง หรือสถานที่ที่ไกลขึ้นออกไป อย่างเราก็ได้ไป London กับ Bath มาค่ะ

การไปเรียนของเราไม่มีความเครียด หรือความไม่สนุกเลยค่ะ ในทุก ๆ วันคุณครูจะมีเรื่องใหม่ ๆ มาสอน มีกิจกรรมให้ทำตลอด ห้องเรียนที่ไม่ใหญ่มาก (ห้องของเรามีนักเรียน 8 คน) ก็ทำให้คุณครูสามารถให้ความสนใจทุกคนได้อย่างครบถ้วนด้วย เราประทับใจคุณครูมาก ๆ เพราะนอกจากคุณครูจะสอนดีแล้ว เขายังรับฟัง feedback และ requests จากนักเรียนตลอดด้วยค่ะ บรรยากาศการเรียนก็เอื้อต่อการเรียนมาก ๆ เพราะทุกคนในห้องสนับสนุนกันเลยทำให้เรียนรู้ได้เยอะ ทั้งเพื่อนคนไทยและต่างชาติทุกคนน่ารักมากค่ะ นอกจากนี้ในทุกวันสุดท้ายของสัปดาห์ก็จะมีการทบทวนสิ่งที่เรียนมาตลอดสัปดาห์ด้วยเพื่อให้จำสิ่งที่เรียนมาได้ค่ะ


เรารู้สึกว่าการมาที่นี่คือเติมเต็มความฝันวัยเด็กของเรามาก ๆ ด้วยความที่เราเติบโตมากับ Harry Potter การได้ไปเห็นสถานที่ถ่ายทำหนัง และสถานที่ที่เป็นแรงบันดาลใจให้หนังสือเรื่องนี้ มันก็เลยพิเศษมาก ๆ สำหรับเรา ไหนจะ Alice in Wonderland, Lord of the Rings, Narnia, Wonka อีก หลาย ๆ อย่างที่เราได้เห็นใน Oxford มันเหมือนฝันไปจริง ๆ เราเองเป็นคนชอบพิพิธภัณฑ์มากอยู่แล้วด้วย การมาที่นี่ก็เลยทำให้เรามีโอกาสได้เข้าพิพิธภัณฑ์ฟรี แบบไม่เสียเงิน ที่ดีมากหลายที่เลยค่ะ นอกจากนี้เรายังได้ไปตามรอยซีรีส์เรื่อง Bridgerton และตามรอยนักเขียน Jane Austen ในเมือง Bath ซึ่งไม่ไกลจาก Oxford ด้วยค่ะ อีกความฝันหนึ่งของเราที่ได้กลายเป็นจริงก็คือการได้ไปดูละครเวที West End Musical เรื่อง The Phantom of The Opera ด้วยตาของตัวเองจริง ๆ เราชื่นชอบละครเวทีอยู่แล้ว พอมีโอกาสได้มาที่ประเทศอังกฤษเราเลยถือโอกาสเข้าไปดูที่ London ซึ่งเรารู้สึกว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่เราประทับใจมากที่สุดใน London พอ ๆ กับการได้เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ชื่อดังอย่าง The British Museum เลยค่ะ


สรุปค่าใช้จ่ายของเราที่ได้จ่ายไปทั้งหมดตั้งแต่สมัครสอบ ทำวีซ่า เดินทางไปอังกฤษจนถึงเดินทางกลับไทย เราเสียค่าใช้จ่ายไปทั้งหมดประมาณ 30,000-35,000 บาทค่ะ ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นค่ากิน ค่าเที่ยว (ที่เราไปนอกเหนือจากโปรแกรม) ค่าของใช้ ค่าของฝากต่าง ๆ ซึ่งเรารู้สึกว่าคุ้มค่ามาก เทียบกับประสบการณ์ที่เราได้รับ เพราะเราได้รับการสนับสนุนทั้งค่าเรียนภาษา ค่าเครื่องบิน ค่าทำวีซ่า ไปจนถึงค่าบัตรโดยสารบัสที่เมือง Oxford จากการได้รับทุนจาก BeWise Global Exchange หมดเลยค่ะ
ตั้งแต่ต้นจนจบทางโครงการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ มาตลอดเลยค่ะ พี่ ๆ BeWise ที่เราได้เจอใจดีและ willing ที่จะช่วยเราเต็มที่ทุกคนเลยค่ะ ตั้งแต่พาไปทำวีซ่า พาเดินทาง ติดต่อเรื่องโรงเรียนและโฮสต์ให้ ช่วยจัดการเรื่องซิมโทรศัพท์มือถือ แนะนำการใช้รถบัส พาเที่ยวพากิน รวมถึงเป็นช่างภาพให้ด้วยค่ะ 5555 จบโครงการแล้วเราก็รู้สึกประทับใจจริง ๆ จากใจเลยค่ะ
รีวิวได้ทุนแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน BeWise Global Exchange
เริ่มแรกเลยคือเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว คุณแม่ไปเจอโพสต์ Facebook เปิดสอบชิงทุนไปซัมเมอร์ที่มีทุนสูงสุดเป็นทุนเต็มจำนวน เป็นทุนสำหรับนักเรียนมัธยม ก็เลยส่งมาให้ เรารู้สึกว่าน่าสนใจ ก็เลยตัดสินใจสมัครสอบไปค่ะ พอเราเข้าไปกรอกข้อมูลต่าง ๆ เพื่อสมัคร เขาก็จะมีให้เลือกว่าเราอยากจะไปประเทศไหนเมืองไหน ทั้งหมดจะมี 6 เมือง 4 ประเทศ คือ Oxford, Manchester, Boston, Sydney, Melbourne, Tokyo แต่ละรอบสอบก็จะมีตัวเลือกให้เลือกได้ 3-4 เมือง สลับกันไปแต่ละรอบสอบ (รู้สึกว่าทางโครงการจะมีจัดสอบประมาณ 6 รอบต่อการเดินทาง รอบที่เราสอบเป็นรอบที่ 4 ค่ะ) ตอนสมัครเราก็เลือกเป็นเมือง Oxford, UK มีเหตุผลหลัก ๆ เพราะอยากตามความฝันวัยเด็กตัวเองในการไปตามรอย Harry Potter ค่ะ 5555 อีกเหตุผลก็คือเป็นเมืองที่ใกล้ London เราเห็นโปรแกรมของโครงการมี London Day Trip อยู่ด้วย เราอยากไปเที่ยวอยู่แล้วก็เลยตัดสินใจเลือกเมืองนี้เลยค่ะ นอกจากนี้คือเรามารู้หลังจากสมัครไปด้วยว่าเพื่อนเราคนนึงก็ไป Oxford กับทุนของโครงการ BeWise เมื่อปีที่ผ่านมา เห็นตอนนั้นเพื่อนสนุก ละก็ลงรูปสวย ๆ เยอะมาก ก็เลยยิ่งรู้สึกว่าตัดสินใจถูกที่เลือกเมืองนี้ค่ะ
หลังจากสมัครสอบแล้ว ก็จะมีอีเมลส่งมาเพื่อนัดหมายเข้า Zoom ฟังชี้แจงเรื่องการสอบก่อนวันสอบจริง แนะนำการจัดห้องสอบ มีการทดลองระบบที่ใช้สอบ แล้วหลังจากนั้นก็จะมีอีเมลส่งมาอีกครั้ง เป็นขั้นตอนการเข้าสู่ระบบสอบออนไลน์ เพื่อเข้าสอบแบบออนไลน์ในวันสอบค่ะ หลังจากสอบไม่กี่วันผลก็จะถูกประกาศทางอีเมลและเว็บไซต์เลยค่ะ คนที่ได้คะแนนสูงสุดในรอบสอบก็จะได้รับทุนเต็มจำนวนเลย แต่ในรอบที่มีคนได้คะแนนสูงสุดเท่ากันมากกว่า 1 คน ก็จะมีการนัดสัมภาษณ์ต่อไป ซึ่งในรอบที่เราสอบก็มีคนคะแนนสูงสุดเท่ากัน เลยมีการนัดสัมภาษณ์ผ่าน Zoom เป็นภาษาอังกฤษ แล้วไม่กี่วันหลังจากนั้นถึงประกาศชื่อผู้ได้รับทุนเต็มจำนวนค่ะ
ส่วนตัวเราอาจจะต้องขอเกริ่นว่าเรามีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างดีมากอยู่แล้ว เลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรเพิ่มเป็นพิเศษสำหรับการสอบเลยค่ะ ข้อสอบเป็นแบบช้อยส์ทั้งหมดเลยค่ะ แบ่งออกเป็นพาร์ท ๆ ส่วนตัวเท่าที่จำได้เรารู้สึกว่าข้อสอบ โดยเฉพาะพาร์ท Listening มีความคล้ายกับข้อสอบ IELTS ดังนั้นคิดว่าใครที่อยากเตรียมตัวเพื่อสอบชิงทุนโครงการ BeWise Global Exchange น่าจะสามารถฝึกจากพวก IELTS practice tests ได้ค่ะ ส่วนการสัมภาษณ์ (เนื่องจากรอบของเรามีคนคะแนนสูงสุดเท่ากัน) ก็มีการถามคำถามทั่วไปเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยน เช่น ทำไมถึงอยากไป ทำไมถึงเลือกเมืองนี้ คิดว่าทำไมถึงควรจะได้รับทุน ประมาณนี้ค่ะ ทุกคำถามไม่ได้ยากเกินไป ขอแค่มีความมั่นใจ และแสดงความมุ่งมั่นออกมาก็เชื่อว่าทุกคนทำได้ค่ะ
หลังประกาศผล เราก็ยืนยันสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ แล้วก็จะมีปฐมนิเทศทางออนไลน์ ซึ่งก็จะมีการชี้แจงรายละเอียดต่าง ๆ ของโครงการ รวมถึงพูดถึงเรื่องเอกสารยื่นวีซ่าที่เราต้องส่งให้ทางโครงการด้วยค่ะ ขั้นตอนการยื่นวีซ่าส่วนตัวก็คือรู้สึกว่าสะดวกมากเพราะมีพี่ทีมงานช่วยเหลือหมดเลยค่ะ หลังจากเราส่งเอกสารสำคัญต่าง ๆ ให้ พี่ทีมงานจะทำการจัดการจองวันยื่นวีซ่าให้ และนัดหมายวันพาไปยื่นถึงที่เลย ค่าทำวีซ่าก็คือรวมอยู่ในทุนด้วยเลยค่ะ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเอง (แต่ถ้าทำที่เชียงใหม่จะมีเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ) พอวีซ่าได้รับการอนุมัติแล้วพาสปอร์ตจะถูกส่งไปที่ BeWise และพี่ทีมงานก็จะแจ้งให้เราทราบค่ะ ก่อนการเดินทางจริงจะมี Pre-departure Orientation ซึ่งสามารถเข้าร่วมงานได้ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ ส่วนตัวเข้าร่วมเป็นแบบออนไลน์เนื่องจากอยู่ต่างจังหวัด และช่วงนั้นติดสอบค่ะ ในงานก็จะมีการเตรียมความพร้อม บอกรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางจากประเทศไทยไปถึงอังกฤษ รายละเอียดไฟลท์บิน ข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนภาษาที่จะไปเรียน การเตรียมเสื้อผ้าจัดกระเป๋า การใช้เงิน/บัตรเดบิต การใช้รถบัส และการใช้ซิมการ์ด เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีการแจกกระเป๋า แจกเสื้อสำหรับใส่วันเดินทางด้วยค่ะ (แต่สำหรับคนที่เข้าแบบออนไลน์ ทีมงานก็มีการส่งของมาให้ถึงบ้านค่ะ)
พอถึงวันเดินทางจริงทุกคนก็จะถูกนัดไปเจอที่สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ ก็จะมีการแจกเอกสารต่างๆ แจก tag ห้อยกระเป๋า แล้วก็มีการถ่ายรูป การนัดหมายโหลดกระเป๋า เช็คอิน โดยจะมีพี่ทีมงานดูแลตลอดเลยค่ะ เราเดินทางจากสุวรรณภูมิ ไปสิงคโปร์ ไปบาห์เรน และไปลงประเทศอังกฤษที่สนามบิน London Heathrow หลังจากนั้นเราก็จะนั่งรถ coach ต่อไปที่โรงเรียนที่ Oxford เพื่อรอให้โฮสต์แต่ละบ้านมารับเข้าบ้านค่ะ
ตอนไปใช้ชีวิตที่ Oxford ก็คือสนุกมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ ทุกเช้าเราก็จะเดินทางด้วยบัสไปเรียนเวลา 9.30-13.00 น. แล้วหลังจากนั้นแต่ละวันก็จะได้ไปทานอาหารเที่ยงกับเพื่อน ๆ และไปเที่ยวแต่ละที่ในเมือง Oxford ค่ะ ส่วนมากพอเที่ยวเสร็จแล้วเราก็จะเดินทางกลับบ้านไปทานอาหารเย็นกับโฮสต์ แต่ก็มีบางวันที่ทานอาหารเย็นกับเพื่อน ๆ ค่ะ พอวันหยุดเราก็จะมีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างเมือง หรือสถานที่ที่ไกลขึ้นออกไป อย่างเราก็ได้ไป London กับ Bath มาค่ะ
การไปเรียนของเราไม่มีความเครียด หรือความไม่สนุกเลยค่ะ ในทุก ๆ วันคุณครูจะมีเรื่องใหม่ ๆ มาสอน มีกิจกรรมให้ทำตลอด ห้องเรียนที่ไม่ใหญ่มาก (ห้องของเรามีนักเรียน 8 คน) ก็ทำให้คุณครูสามารถให้ความสนใจทุกคนได้อย่างครบถ้วนด้วย เราประทับใจคุณครูมาก ๆ เพราะนอกจากคุณครูจะสอนดีแล้ว เขายังรับฟัง feedback และ requests จากนักเรียนตลอดด้วยค่ะ บรรยากาศการเรียนก็เอื้อต่อการเรียนมาก ๆ เพราะทุกคนในห้องสนับสนุนกันเลยทำให้เรียนรู้ได้เยอะ ทั้งเพื่อนคนไทยและต่างชาติทุกคนน่ารักมากค่ะ นอกจากนี้ในทุกวันสุดท้ายของสัปดาห์ก็จะมีการทบทวนสิ่งที่เรียนมาตลอดสัปดาห์ด้วยเพื่อให้จำสิ่งที่เรียนมาได้ค่ะ
เรารู้สึกว่าการมาที่นี่คือเติมเต็มความฝันวัยเด็กของเรามาก ๆ ด้วยความที่เราเติบโตมากับ Harry Potter การได้ไปเห็นสถานที่ถ่ายทำหนัง และสถานที่ที่เป็นแรงบันดาลใจให้หนังสือเรื่องนี้ มันก็เลยพิเศษมาก ๆ สำหรับเรา ไหนจะ Alice in Wonderland, Lord of the Rings, Narnia, Wonka อีก หลาย ๆ อย่างที่เราได้เห็นใน Oxford มันเหมือนฝันไปจริง ๆ เราเองเป็นคนชอบพิพิธภัณฑ์มากอยู่แล้วด้วย การมาที่นี่ก็เลยทำให้เรามีโอกาสได้เข้าพิพิธภัณฑ์ฟรี แบบไม่เสียเงิน ที่ดีมากหลายที่เลยค่ะ นอกจากนี้เรายังได้ไปตามรอยซีรีส์เรื่อง Bridgerton และตามรอยนักเขียน Jane Austen ในเมือง Bath ซึ่งไม่ไกลจาก Oxford ด้วยค่ะ อีกความฝันหนึ่งของเราที่ได้กลายเป็นจริงก็คือการได้ไปดูละครเวที West End Musical เรื่อง The Phantom of The Opera ด้วยตาของตัวเองจริง ๆ เราชื่นชอบละครเวทีอยู่แล้ว พอมีโอกาสได้มาที่ประเทศอังกฤษเราเลยถือโอกาสเข้าไปดูที่ London ซึ่งเรารู้สึกว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่เราประทับใจมากที่สุดใน London พอ ๆ กับการได้เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ชื่อดังอย่าง The British Museum เลยค่ะ
สรุปค่าใช้จ่ายของเราที่ได้จ่ายไปทั้งหมดตั้งแต่สมัครสอบ ทำวีซ่า เดินทางไปอังกฤษจนถึงเดินทางกลับไทย เราเสียค่าใช้จ่ายไปทั้งหมดประมาณ 30,000-35,000 บาทค่ะ ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นค่ากิน ค่าเที่ยว (ที่เราไปนอกเหนือจากโปรแกรม) ค่าของใช้ ค่าของฝากต่าง ๆ ซึ่งเรารู้สึกว่าคุ้มค่ามาก เทียบกับประสบการณ์ที่เราได้รับ เพราะเราได้รับการสนับสนุนทั้งค่าเรียนภาษา ค่าเครื่องบิน ค่าทำวีซ่า ไปจนถึงค่าบัตรโดยสารบัสที่เมือง Oxford จากการได้รับทุนจาก BeWise Global Exchange หมดเลยค่ะ
ตั้งแต่ต้นจนจบทางโครงการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ มาตลอดเลยค่ะ พี่ ๆ BeWise ที่เราได้เจอใจดีและ willing ที่จะช่วยเราเต็มที่ทุกคนเลยค่ะ ตั้งแต่พาไปทำวีซ่า พาเดินทาง ติดต่อเรื่องโรงเรียนและโฮสต์ให้ ช่วยจัดการเรื่องซิมโทรศัพท์มือถือ แนะนำการใช้รถบัส พาเที่ยวพากิน รวมถึงเป็นช่างภาพให้ด้วยค่ะ 5555 จบโครงการแล้วเราก็รู้สึกประทับใจจริง ๆ จากใจเลยค่ะ