ฉันเป็นคนที่อายุเกิน 35 คนนึงที่ไม่มีงานประจำทำ
วันๆ ทำแต่งานฟรีแลนซ์ที่ค่าตอบแทนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
และใช่ว่าจะมีงานอยู่ตลอดด้วย บางครั้งก็ไม่มีเลย บางครั้งก็รอเงินนานมาก
การเงินโครตแย่
เพราะต้องอยู่บ้านดูแลคนแก่หลายชีวิตร่วมๆ เกือบ 10 ชีวิตได้
เงินเก็บที่มีหร่อยหรอลงทุกทีเพราะรายจ่ายมากกว่ารายได้
ฉันเคยอยู่กับคนแก่ และสุดท้ายก็ติดเตียง และตายจากไปมาสองคนแล้ว
ฉันรู้ดีว่าบั้นปลายชีวิตต้องใช้เงินมาก
และฉันก็คือเดอะแบกคนนึง ทำให้ไม่มีเงินเก็บเอาไว้ใช้ยามแก่เลย
ฉันไม่มีพี่น้อง และแน่นอนว่าไม่มีเงินเพื่อนย่อมค่อยๆ หายไป
ฉันจะทำยังไงกะชีวิตที่ยากจนดี
มันเหนื่อยมันท้อแท้มาก
ที่บ้านอยากให้รับราชการ แต่พูดง่ายเนอะ
กว่าจะสอบเข้าไปได้ก็ยากเย็น แถมเข้าไปแล้วเงินก็โครตน้อย
ไม่ได้ดูถูกแต่มันไม่พอกับรายจ่ายแน่ๆ ที่รวมถึงค่ารักษาพยาบาลอันมหาศาล
บางครั้งก็คิดว่าอยากหายไปจากโลกนี้จังเลย
จะไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับคนอายุเกิน 35 เลย
เดี๋ยวนี้ขายของก็ยากมาก เศรษฐกิจแย่
ไม่รู้จะทำอะไรเลยจริงๆ ท้อแท้มาก
ฉันรู้ตัวเลยว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป อนาคตฉันต้องกลายเป็นหมาข้างถนนแน่ๆ
บ้านช่องคงโดนยึด ไม่ก็ต้องขายเอามารักษาคนแก่หมด ซึ่งก็ไม่น่าจะขายออกเพราะพิษเศรษฐกิจ
อย่ามาเม้นชวนขายประกันนะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบพิมพ์ตรงนี้ทีเดียวนะ
ที่บ้านญาติทางฝั่งแม่มีเยอะ เพราะว่ายายมีลูกหลายคน
สมัยก่อนโควิดยายอายุยืนมาก แต่ก็มาติดเตียงทีหลัง เข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นทุกอาทิตย์
ลงไอซียูบ่อยมาก ตอนนั้นต้องขายแทบทุกอย่างทิ้ง
หมดเงินหลายล้านบาท
แล้วนี่กี่คนก็คูณดู เงินเดือนเป็นแสนก็ไม่พอ นอกจากจะมีเงินเป็นร้อยล้านอัพ ถึงจะอยู่สบาย
ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าทำไมถึงกลุ้มใจ
ที่บ้านเคยมีญาติคนนึงไปโรงบาลรัฐบาลเกือบตายอยู่หน้าโรงบาล
เพราะรอคิวนานมาก ตอนนี้ก็ยังมีบางส่วนที่รักษารัฐบาล
และญาติอีกคนนึงตายไปแล้วก็รักษากับรัฐบาล
แต่พ่อแม่รักษาเอกชนและหนักทั้งคู่
ทำไมรักษาเอกชนรู้ไหม
พ่อเคยเป็นไส้ติ่งอักเสบไปรัฐบาล หมอไล่ให้ไปเอกชนบอกเตียงเต็ม
พอไปเอกชน หมอบอกไส้ติ่งแตกแล้วนะต้องผ่าด่วน
ดูสภาพสิ
-----------------------------------------------------------------
ต่อนะคะ
เรื่องงานประจำที่ส่วนใหญ่จำกัดอายุไม่เกิน 35 ปี
คนหางานไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็อยากได้งานค่ะ
แต่ประกาศรับสมัครมีแต่อายุไม่เกิน 35 ทั้งนั้นเลยค่ะ
งานราชการบางที่ก็ยังรับไม่เกิน 35 เลย
ทำเหมือนคนอายุเกิน 35 ใกล้ตายแล้ว
ทุกวันนี้รายได้แค่พอตัวเองรอด ที่ไม่รอดพราะคนแก่เยอะ + ค่ารักษาพยาบาล + ค่าดูแลจุกจิก
มองอนาคตไว้แล้วค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
เท่าที่ประเมินได้จากการเคยดูแลคุณยายติดเตียง รายจ่ายเยอะมากค่ะ เช่น
เตียงคนป่วย
ที่นอนลมกันแผลกดทับ
ที่ยกคนป่วย เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวยกคนแก่ไม่ไหว จำเป็นต้องมี
รถเข็น แพมเพิส เครื่องดูดเสมหะ บางคนเป็นโรคภูมแพ้เสมหะเยอะ ให้นึกภาพคนจีนที่ชอบคาก

อะ อารมณ์นั้น ส่วนคุณยายโดนเจาะคอเลยต้องดูเสมหะ
อุปกรณ์ทำแผลกดทับ ยาโรคประจำตัว
ค่าเดินทางไปหาหมอ
ถึงตอนนี้จะยังไม่ถึงขั้นติดเตียง แต่แต่ละคนก็ 70 - 80 กว่าทั้งนั้น
บางคนเดินไม่ค่อยได้แล้วกระดูกเสื่อมขั้นรุนแรง บางคนหมอประเมินว่าอีกไม่นานก็จะเดินไม่ได้ กระดูกสั่นหลังทับเส้นประสาท ตาเป็นต้อกระจกด้วย
บางคนอีกไม่นานจะตาบอดรักษาไม่ได้ พังผืดขึ้นจอประสาทตา ผ่าก็เสี่ยงบอดสูง ไม่ผ่าก็บอด
บางคนเป็นไตระยะสุดท้าย บางคนเป็นหัวใจโต + เบาหวาน
ยังไม่รวมคนนึงมีญาติกรรมพันธ์สายตรงเป็นมะเร็งกันหมด
ภาวนาอยู่ว่าอย่าเป็น
ไม่เคยมีความคิดจะให้ใครไปอยู่บ้านพักคนชราค่ะ
แต่ทางฝ่ายคนแก่เอง เวลาเราทำอะไรไม่ถูกใจ บางครั้งก็จะพูดด้วยความน้อยใจว่า
อยากให้ไปอยู่บ้านพักคนชราใช่ไหม
ทำนองว่าเราอกตัญญู
จะใช้ชีวิตยังไงถ้ารู้ตัวว่าแก่ตัวไปจะกลายเป็นหมาข้างถนน
วันๆ ทำแต่งานฟรีแลนซ์ที่ค่าตอบแทนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
และใช่ว่าจะมีงานอยู่ตลอดด้วย บางครั้งก็ไม่มีเลย บางครั้งก็รอเงินนานมาก
การเงินโครตแย่
เพราะต้องอยู่บ้านดูแลคนแก่หลายชีวิตร่วมๆ เกือบ 10 ชีวิตได้
เงินเก็บที่มีหร่อยหรอลงทุกทีเพราะรายจ่ายมากกว่ารายได้
ฉันเคยอยู่กับคนแก่ และสุดท้ายก็ติดเตียง และตายจากไปมาสองคนแล้ว
ฉันรู้ดีว่าบั้นปลายชีวิตต้องใช้เงินมาก
และฉันก็คือเดอะแบกคนนึง ทำให้ไม่มีเงินเก็บเอาไว้ใช้ยามแก่เลย
ฉันไม่มีพี่น้อง และแน่นอนว่าไม่มีเงินเพื่อนย่อมค่อยๆ หายไป
ฉันจะทำยังไงกะชีวิตที่ยากจนดี
มันเหนื่อยมันท้อแท้มาก
ที่บ้านอยากให้รับราชการ แต่พูดง่ายเนอะ
กว่าจะสอบเข้าไปได้ก็ยากเย็น แถมเข้าไปแล้วเงินก็โครตน้อย
ไม่ได้ดูถูกแต่มันไม่พอกับรายจ่ายแน่ๆ ที่รวมถึงค่ารักษาพยาบาลอันมหาศาล
บางครั้งก็คิดว่าอยากหายไปจากโลกนี้จังเลย
จะไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับคนอายุเกิน 35 เลย
เดี๋ยวนี้ขายของก็ยากมาก เศรษฐกิจแย่
ไม่รู้จะทำอะไรเลยจริงๆ ท้อแท้มาก
ฉันรู้ตัวเลยว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป อนาคตฉันต้องกลายเป็นหมาข้างถนนแน่ๆ
บ้านช่องคงโดนยึด ไม่ก็ต้องขายเอามารักษาคนแก่หมด ซึ่งก็ไม่น่าจะขายออกเพราะพิษเศรษฐกิจ
อย่ามาเม้นชวนขายประกันนะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบพิมพ์ตรงนี้ทีเดียวนะ
ที่บ้านญาติทางฝั่งแม่มีเยอะ เพราะว่ายายมีลูกหลายคน
สมัยก่อนโควิดยายอายุยืนมาก แต่ก็มาติดเตียงทีหลัง เข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นทุกอาทิตย์
ลงไอซียูบ่อยมาก ตอนนั้นต้องขายแทบทุกอย่างทิ้ง
หมดเงินหลายล้านบาท
แล้วนี่กี่คนก็คูณดู เงินเดือนเป็นแสนก็ไม่พอ นอกจากจะมีเงินเป็นร้อยล้านอัพ ถึงจะอยู่สบาย
ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าทำไมถึงกลุ้มใจ
ที่บ้านเคยมีญาติคนนึงไปโรงบาลรัฐบาลเกือบตายอยู่หน้าโรงบาล
เพราะรอคิวนานมาก ตอนนี้ก็ยังมีบางส่วนที่รักษารัฐบาล
และญาติอีกคนนึงตายไปแล้วก็รักษากับรัฐบาล
แต่พ่อแม่รักษาเอกชนและหนักทั้งคู่
ทำไมรักษาเอกชนรู้ไหม
พ่อเคยเป็นไส้ติ่งอักเสบไปรัฐบาล หมอไล่ให้ไปเอกชนบอกเตียงเต็ม
พอไปเอกชน หมอบอกไส้ติ่งแตกแล้วนะต้องผ่าด่วน
ดูสภาพสิ
-----------------------------------------------------------------
ต่อนะคะ
เรื่องงานประจำที่ส่วนใหญ่จำกัดอายุไม่เกิน 35 ปี
คนหางานไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็อยากได้งานค่ะ
แต่ประกาศรับสมัครมีแต่อายุไม่เกิน 35 ทั้งนั้นเลยค่ะ
งานราชการบางที่ก็ยังรับไม่เกิน 35 เลย
ทำเหมือนคนอายุเกิน 35 ใกล้ตายแล้ว
ทุกวันนี้รายได้แค่พอตัวเองรอด ที่ไม่รอดพราะคนแก่เยอะ + ค่ารักษาพยาบาล + ค่าดูแลจุกจิก
มองอนาคตไว้แล้วค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
เท่าที่ประเมินได้จากการเคยดูแลคุณยายติดเตียง รายจ่ายเยอะมากค่ะ เช่น
เตียงคนป่วย
ที่นอนลมกันแผลกดทับ
ที่ยกคนป่วย เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวยกคนแก่ไม่ไหว จำเป็นต้องมี
รถเข็น แพมเพิส เครื่องดูดเสมหะ บางคนเป็นโรคภูมแพ้เสมหะเยอะ ให้นึกภาพคนจีนที่ชอบคาก
อุปกรณ์ทำแผลกดทับ ยาโรคประจำตัว
ค่าเดินทางไปหาหมอ
ถึงตอนนี้จะยังไม่ถึงขั้นติดเตียง แต่แต่ละคนก็ 70 - 80 กว่าทั้งนั้น
บางคนเดินไม่ค่อยได้แล้วกระดูกเสื่อมขั้นรุนแรง บางคนหมอประเมินว่าอีกไม่นานก็จะเดินไม่ได้ กระดูกสั่นหลังทับเส้นประสาท ตาเป็นต้อกระจกด้วย
บางคนอีกไม่นานจะตาบอดรักษาไม่ได้ พังผืดขึ้นจอประสาทตา ผ่าก็เสี่ยงบอดสูง ไม่ผ่าก็บอด
บางคนเป็นไตระยะสุดท้าย บางคนเป็นหัวใจโต + เบาหวาน
ยังไม่รวมคนนึงมีญาติกรรมพันธ์สายตรงเป็นมะเร็งกันหมด
ภาวนาอยู่ว่าอย่าเป็น
ไม่เคยมีความคิดจะให้ใครไปอยู่บ้านพักคนชราค่ะ
แต่ทางฝ่ายคนแก่เอง เวลาเราทำอะไรไม่ถูกใจ บางครั้งก็จะพูดด้วยความน้อยใจว่า
อยากให้ไปอยู่บ้านพักคนชราใช่ไหม
ทำนองว่าเราอกตัญญู