ทำไมอายุ 23 เหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบเลย ทำไมโตมาถึงเครียดผิดหวังล้มเหลวในหลายๆเรื่อง ไม่คิดว่าโตมาในเจนนี้จะแย่ขนาดนี้เลย

สวัสดีค่ะ เราอายุ 23 กำลังเรียนจบปริญญาตรี สาขา บริหาร ระหว่างเรียนก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เงินเดือนไม่ได้มาก อยากลาออกก็ไม่ได้เพราะมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ต้องใช้อยู่ พยายามฝึกหาสกิลเพิ่มเติม เปลี่ยนงานใหม่ไปเรื่อยๆแต่ก็ทุกอย่างดูไม่ได้เป็นตามที่คิดเลย เหนื่อยเครียด งานที่ทำก็ไม่ได้ชอบ(บัญชี)เพราะเปป็นรูทีน จบมาก็ไม่รู้อยากทำไร ชอบอะไรก็ไม่รู้ อยากลองทำงานสายอื่นครีเอทีฟแต่ก็ไม่มีประสบการณ์ เค้าก้ไม่รับ พอมองตัวเองกับคนอื่นเพื่อนๆรู้สึกล้มเหลวมากเลยเพื่อนเงินเดือน 2 หมื่น มีคอนเนคชั่นมากมาย ที่บ้านซัพพอร์ตได้ตลอด ก็ไม่ได้อยากเปรียบเทียบหรอกนะคะ แต่บางอย่างมันก็แอบคิดไม่ได้ พยายามคิดว่าทุกอย่างมีจังหวะของตัวเเอง แต่ก็ได้แต่เฝ้ารอพร้อมฝึกตัวเองไปเรื่อยๆให้พร้อม มันจะมีจริงๆไหมาคะ จัวงหวะชีวิต
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
- เงินเดือนไม่มาก
ตอบ คนจำนวนมากก็เงินเดือนไม่มากค่ะ บางคนแก่จะเกษียณแต่เงินเดือนไม่ถึงหมื่นยังมี
- อยากลาออก แต่ลาออกไม่ได้ มีค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ตอบ ทุกคนมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวค่ะ แต่บางคนไปจนถึงหลายคน ต้องแบกค่าใช้จ่ายของพ่อแม่พี่น้องด้วย
- งานที่ทำไม่ใช่งานที่ชอบ ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร
ตอบ คนส่วนมากในสังคมการทำงานก็ไม่ได้ทำงานที่ชอบ ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรเช่นกัน แค่มีงานทำ ทำแล้วมีเงินซื้อข้าวกินก็ดีแล้ว

ปัญหาที่คุณเจอคือปัญหาที่คนส่วนใหญ่ในสังคมเจอค่ะ มันไม่ได้หนักหนามากเป็นพิเศษกว่าใครๆ
ทุกเจนมันมีทั้งคนรวย พ่อแม่อุปถัมภ์ อยากทำอะไรก็ทำ ต่อให้เจ๊ง ที่บ้านก็ช่วย
รวมไปถึงคนที่ลำบากมากๆ แค่เรียนต่อป.ตรียังยาก ทำงานจบมา ก้มหน้าก้มตาใช้หนี้ ไม่เคยมีชีวิตเป็นของตัวเอง
ฉะนั้นคุณพยายามอย่าไปเทียบตัวเองกับคนที่ต้นทุนชีวิตดีค่ะ
จริงๆคือเทียบได้ แต่ในเชิงที่จะพัฒนาตัวเองให้เท่าทันเค้า
ไม่ใช่เทียบแล้วมาตัดพ้อชีวิตแบบนี้ มันก็จะยิ่งบั่นทอนกำลังใจ

คนเราจะมีแรงสู้ได้ก็ต่อเมื่อเราคิดว่าตัวเองสู้ไหว
ถ้ารู้สึกท้อแต่เริ่มแรก มันเลยกลายเป็นมองปัญหาให้มันใหญ่กว่าความเป็นจริง
มองเรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก มองเรื่องธรรมดาให้มันมีเงื่อนงำ ชีวิตมันจะดูยากไปอีกขั้น
ลองปล่อยตัวให้ไหลไปตามกระแสชีวิตไปก่อนค่ะ บางทีมันอาจจะไม่ได้ยากอย่างที่คิดก็ได้
ความคิดเห็นที่ 1
คุณไม่ได้แบกโลกนะ คุณก็แบกแค่ตัวคุณ ซึ่งก็ปกติเพราะทุกคนก็ต้องดูแลชีวิตตัวเองทั้งนั้น
ความคิดเห็นที่ 4
คิดเห็นเหมือน คห 3 นะ ทุกเจนมีปัญหาของเขา และมันไม่ได้แตกต่างในแต่ละยุคสมัย มุมมองในการรับมือของแต่ละเจนต่างหากที่ต่างกัน

คนสมัยก่อน อย่างยุคเบบี้บูม ถ้าลองมีเวลาไปคุยกับพวกเขา ปัญหาเขาหนักหนามากนะ โอกาสทางการศึกษาที่เข้าไม่ถึง ดอกเบี้ยเงินกู้ที่แพงสุดกู่ การถูกเอารัดเอาเปรียบจากชนชั้นบน กว่าจะดิ้นรนจนยืนด้วยตนเองได้นี่ลากเลือดมาก คือฟังเค้าเล่าแล้วเป็นท้ออะ แต่สิ่งที่เขาคิดคือ ก็ดิ้นรนกันไป เขาคิดแค่นั้นเลย แล้วก็หัวเราะ...เป็นไรที่น่าทึ่งมาก

ในขณะที่คนยุคนี้ที่โซเชียลมันเข้าถึงง่าย เลยได้รับข้อมูลมากเกินจำเป็น แล้วก็เอาชีวิตตัวเองเปรียบเทียบกับทุกสิ่งแล้วสร้างปัญหาให้ใหญ่เกินจริงกว่าที่ตนเองพบเจอ เมื่อแยกแยะปัญหาที่แท้จริงไม่ได้ ก็จะประสบปัญหาทางจิตใจต่อ

เคส จขกท จึงแก้ได้ด้วยการเปลี่ยนมุมมองเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวไรกับเจนเลย
ความคิดเห็นที่ 9
คำพูดวัยรุ่นสมัยนี้ แบกโลกบ้าง โลกใจร้ายกับตัวเองบ้าง ทำเหมือนตัวเองเจอปัญหาอยู่คนเดียว
ความคิดเห็นที่ 2
หลังๆ เริ่มเอียนกับคำว่าเจนโน้นเจนนี้มากเลย

ความแตกต่างของชีวิตมันมีทุกเจนเนอเรชั่นข่ะ สมัยปู่ย่าตายายหนุ่มสาวเขาก็มีเรื่องให้แบก สมัยพ่อแม่หนุ่มสาวเขาก็มีเรื่องให้แบก สมัยเดี๊ยนเป็นวัยรุ่นก็มีเรื่องให้แบก ลูกหลานเราจากนี้ไปพอเขาอายุ 20 ต้นๆ เดี๋ยวเขาก็มีเรื่องให้แบก ทุกชีวิตมีเรื่องให้แบกหมดล่ะข่ะ เราเห็นเขามีความสุข เราไม่รู้หรอกลึกๆ เขามีปัญหาอะไรที่เราไม่รู้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่