เปิดตัวโมเดลใหม่อีกแล้วครับกับค่ายปีกนก โดยครั้งนี้เปิดตัวบิ๊กไบค์ 2 โมเดลจากตระกูลรีเบล ครูเซอร์ไบค์ของทางค่าย โดยบทความนี้เราจะพูดถึงเจ้า 2025 Honda Rebel1100 หรือรุ่น CMX1100 กันก่อน ตัว 500 จะพูดในอีกบทความนะครับ
สำหรับโมเดลใหม่นี้นอกจากสีสันใหม่แล้วก็จะมีการปรับปรุงในส่วนของดีไซน์เล็กน้อย หากมองเผิน ๆ ผ่าน ๆ ก็อาจจะไม่รู้ถึงจุดที่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ แต่มีการปรับปรุงให้ขับขี่ได้สบายมากขึ้นจากการยกแฮนด์บาร์ให้สูงขึ้นและโน้มเข้าหาตัวผู้ขับขี่มากขึ้น ส่วนของพักเท้าเองก็ขยับไปด้านหน้ามากขึ้นอีกเล็กน้อย และที่สำคัญคือเบาะที่หนานุ่มขึ้นอีก 10 มม. ช่วยให้มีเล็กรูมมากขึ้น นั่งขับขี่ได้สบายมากขึ้นนั่นเอง
ส่วนขุมพลังก็จะเป็นเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงขนาด 1,084 ซีซีบล็อกเดียวกันกับที่ใช้ใน Africa Twin แต่มีการปรับจูนใหม่ เพิ่มกำลังอัดให้มากขึ้นเพื่อให้ได้กำลังในรอบต่ำและรอบกลางมากยิ่งขึ้น โดยมีกำลังสูงสุด 87.17 แรงม้าที่ 7,250 รอบต่อนาที (เพิ่มขึ้นประมาณ 1 ตัวนิด ๆ) กับแรงบิดสูงสุดที่ 98 นิวตันเมตรที่ 4,750 รอบต่อนาที เคลมท็อปสปีดไว้ที่ 160 กม./ชม. ใช้น้ำมันจากถังน้ำมันขนาด 13.6 ลิตร สั่งงานผ่านระบบคันเร่งไฟฟ้า พร้อมระบบเกียร์ 6 สปีด หรือระบบเกียร์ DCT 6 สปีดแล้วแต่รุ่น
ช่วงล่างเลือกใช้เฟรมสตีลไดมอน มีระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นโช้คเทเลสโคปิกขนาด 43 มม.ที่ปรับพรีโหลดได้ ด้านหลังจะเป็นโช้คคู่พร้อมซับแทงค์ ปรับพรีโหลดได้ ระบบเบรกด้านหน้าจะเป็นดิสก์เบรกหน้าเดี่ยวขนาด 330 มม. กับคาลิเปอร์เบรกเรเดียลเมาท์แบบโมโนบล็อก 4 ลูกสูบ ด้านหลังจะเป็นดิสก์เบรกขนาด 256 มม. เดี่ยวกับคาลิเปอร์เบรกลูกสูบเดี่ยว ส่วนล้อและยางจะมีขนาด 130/70 B18และ 180/65 B16 หน้าหลังตามลำดับ
เทคโนโลยีก็เป็นอีกส่วนนึงที่ได้รับการปรับปรุง โดยจะมีในส่วนของหน้าจอสี TFT 5 นิ้วที่เป็นหน้าจอใหม่ ปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้ โดยยังเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้เช่นเดิม และมีการปรับช่องจ่ายไฟแบบ USB-C มาไว้ทางด้านซ้ายของเรือนไมล์แล้ว ส่วนระบบอื่น ๆ ก็จะยังคงมีอยู่เช่นเดิม อาทิ โหมดการขับขี่ 3 โหมดกับโหมด User อีก 2 โหมดสำหรับไว้คัสตอมให้ถูกจริตของตัวเอง ระบบ HSTC ที่รวมเอาระบบควบคุมการลอยตัวของล้อปรับได้ 3 ระดับ
และสำหรับตัว DCT ก็มีการปรับปรุงให้มีการออกตัว การหยุด และการกลับรถที่ความเร็วต่ำ ให้ทำได้นุ่มนวลขึ้น ซึ่งทุกโมเดลปี 2025 ที่มีระบบ DCT ก็จะได้รับรุ่นปรับปรุงนี้ไปกันหมดอย่างหลาย ๆ โมเดลที่เปิดตัวกันไปก่อนหน้านี้
สุดท้าย 2025 Honda Rebel 1100 ก็มีการเพิ่มรุ่นย่อยออกมาอีกรุ่นนอกเหนือไปจากรุ่นสแตนดาร์ดรุ่น T (มีกล่องข้างขนาดรวม 35 ลิตร แฟริ่งหน้าขนาดใหญ่และสีพิเศษ) คือรุ่น SE หรือ Special Edition ที่มีดีเทลแตกต่างกันออกไป โดยจะใช้ของแต่งจากทาง Honda มาตกแต่งเพิ่มเติม ได้แก่ กระจกปลายแฮนด์อลูมิเนียมแบบตัดแสงสะท้อน เบาะนั่งปักลายไดมอนด์เพิ่มความหรูหรา และครอบไฟหน้าขนาดเล็กแมตช์กับสีรถ
ที่มา : โมโตครอส, Moto Bigbike
2025 Honda Rebel 1100 ครูเซอร์รุ่นใหญ่ แรงขึ้น สบายขึ้น
สำหรับโมเดลใหม่นี้นอกจากสีสันใหม่แล้วก็จะมีการปรับปรุงในส่วนของดีไซน์เล็กน้อย หากมองเผิน ๆ ผ่าน ๆ ก็อาจจะไม่รู้ถึงจุดที่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ แต่มีการปรับปรุงให้ขับขี่ได้สบายมากขึ้นจากการยกแฮนด์บาร์ให้สูงขึ้นและโน้มเข้าหาตัวผู้ขับขี่มากขึ้น ส่วนของพักเท้าเองก็ขยับไปด้านหน้ามากขึ้นอีกเล็กน้อย และที่สำคัญคือเบาะที่หนานุ่มขึ้นอีก 10 มม. ช่วยให้มีเล็กรูมมากขึ้น นั่งขับขี่ได้สบายมากขึ้นนั่นเอง
ส่วนขุมพลังก็จะเป็นเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงขนาด 1,084 ซีซีบล็อกเดียวกันกับที่ใช้ใน Africa Twin แต่มีการปรับจูนใหม่ เพิ่มกำลังอัดให้มากขึ้นเพื่อให้ได้กำลังในรอบต่ำและรอบกลางมากยิ่งขึ้น โดยมีกำลังสูงสุด 87.17 แรงม้าที่ 7,250 รอบต่อนาที (เพิ่มขึ้นประมาณ 1 ตัวนิด ๆ) กับแรงบิดสูงสุดที่ 98 นิวตันเมตรที่ 4,750 รอบต่อนาที เคลมท็อปสปีดไว้ที่ 160 กม./ชม. ใช้น้ำมันจากถังน้ำมันขนาด 13.6 ลิตร สั่งงานผ่านระบบคันเร่งไฟฟ้า พร้อมระบบเกียร์ 6 สปีด หรือระบบเกียร์ DCT 6 สปีดแล้วแต่รุ่น
ช่วงล่างเลือกใช้เฟรมสตีลไดมอน มีระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นโช้คเทเลสโคปิกขนาด 43 มม.ที่ปรับพรีโหลดได้ ด้านหลังจะเป็นโช้คคู่พร้อมซับแทงค์ ปรับพรีโหลดได้ ระบบเบรกด้านหน้าจะเป็นดิสก์เบรกหน้าเดี่ยวขนาด 330 มม. กับคาลิเปอร์เบรกเรเดียลเมาท์แบบโมโนบล็อก 4 ลูกสูบ ด้านหลังจะเป็นดิสก์เบรกขนาด 256 มม. เดี่ยวกับคาลิเปอร์เบรกลูกสูบเดี่ยว ส่วนล้อและยางจะมีขนาด 130/70 B18และ 180/65 B16 หน้าหลังตามลำดับ
เทคโนโลยีก็เป็นอีกส่วนนึงที่ได้รับการปรับปรุง โดยจะมีในส่วนของหน้าจอสี TFT 5 นิ้วที่เป็นหน้าจอใหม่ ปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้ โดยยังเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้เช่นเดิม และมีการปรับช่องจ่ายไฟแบบ USB-C มาไว้ทางด้านซ้ายของเรือนไมล์แล้ว ส่วนระบบอื่น ๆ ก็จะยังคงมีอยู่เช่นเดิม อาทิ โหมดการขับขี่ 3 โหมดกับโหมด User อีก 2 โหมดสำหรับไว้คัสตอมให้ถูกจริตของตัวเอง ระบบ HSTC ที่รวมเอาระบบควบคุมการลอยตัวของล้อปรับได้ 3 ระดับ
และสำหรับตัว DCT ก็มีการปรับปรุงให้มีการออกตัว การหยุด และการกลับรถที่ความเร็วต่ำ ให้ทำได้นุ่มนวลขึ้น ซึ่งทุกโมเดลปี 2025 ที่มีระบบ DCT ก็จะได้รับรุ่นปรับปรุงนี้ไปกันหมดอย่างหลาย ๆ โมเดลที่เปิดตัวกันไปก่อนหน้านี้
สุดท้าย 2025 Honda Rebel 1100 ก็มีการเพิ่มรุ่นย่อยออกมาอีกรุ่นนอกเหนือไปจากรุ่นสแตนดาร์ดรุ่น T (มีกล่องข้างขนาดรวม 35 ลิตร แฟริ่งหน้าขนาดใหญ่และสีพิเศษ) คือรุ่น SE หรือ Special Edition ที่มีดีเทลแตกต่างกันออกไป โดยจะใช้ของแต่งจากทาง Honda มาตกแต่งเพิ่มเติม ได้แก่ กระจกปลายแฮนด์อลูมิเนียมแบบตัดแสงสะท้อน เบาะนั่งปักลายไดมอนด์เพิ่มความหรูหรา และครอบไฟหน้าขนาดเล็กแมตช์กับสีรถ
ที่มา : โมโตครอส, Moto Bigbike