

เสียงและความสั่นสะเทือน จัดเป็นปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมทำให้
ประสาทหูเสื่อมหรือพิการได้ ในทางอ้อมมลพิษทางเสียงยังทำให้ความสุขในชีวิตลดลงเป็นต้นเหตุ
ของความรำคาญ ความเครียด ซึ่งเป็นเหตุสำคัญของความเจ็บป่วย เช่น โรคความดันโลหิตสูง
โรคหัวใจ และโรคนอนไม่หลับ รวมทั้งหากมีเสียงรบกวนสมาธิในการทำงานจะมีผลทำให้
ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
ดังนั้นเสียงที่ดังเกินขนาดหรือเสียงที่ดังต่อเนื่องเป็นประจำนั้นย่อม
ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่อย่างแน่นอน และถือได้ว่าเป็นปัญหามลพิษอย่างหนึ่งซึ่ง
เมื่อได้ยินมากๆ ก็เป็นอันตรายต่อหูและอวัยวะอื่น ในลักษณะที่ทำให้เกิดความพิการและถ้าเป็น
เสียงที่ไม่ต้องการฟังจะดังมากหรือน้อยก็ตามจะเป็นลักษณะก่อความรำคาญและรบกวนจิตใจ
ตลอดจนมีผลรบกวนต่อการทำงาน การพักผ่อนนอนหลับ ดังนั้นทั้งเสียงดังเกินไปและ
เสียงรบกวนเป็นเสียงไม่พึงปรารถนาและถือเป็นสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมประการหนึ่งซึ่งต้อง
ได้รับการป้องกันควบคุม และเยียวยาแก้ไขเนื่องจากมลพิษทางเสียงนั้นเป็นปัญหาทางสิ่งแวดล้อม
แต่ทุกรัฐบาล มองข้ามปัญหานี้ไปหรือปล่าว จึงปล่อยให้เกิดขึ้นมาตลอด เพียงอ้างเรื่องเศรษฐกิจ แต่จริงแล้วหากมุมมองทางเศรษฐศาสตร์ ถ้าประชาชนไม่ได้อยู่ดีมีสุข คงได้รับความเดือดร้อนจากนโยบาย โครงการต่างๆของรัฐ เช่นเรื่องเสียงเครื่องบินนี้ แล้วชดเชย(เอาเศษเงินฟาดหัวประชาชน)ให้ทนรับสภาพต่อไปมันคือความเจริญทางเศรษฐกิจเฉพาะกลุ่มใช่ไหม มันคือการแบ่งชั้นวรรณะ หรือปล่าว นี่ยุคไหนแล้ว
ซึ่งเราก็ประสพปัญหานี้เช่นเดียวกันมลพิษจากรันเวย์3 เปิดมา เครื่องบิน บินผ่านหลังคาบ้านทั้งวันทั้งคืน
ทอท.เสนอให้ค่าปรับปรุงป้องกันเสียงไม่ถึง30%ของค่าซ่อมปรับปรุงจริงเลย ทอท.อ้างเป็นหน่วยงานรัฐ กำหนดชดเชยตามกรมบัญชีกลาง แล้วที่สำคัญ สร้างผลกระทบมาหนึ่งปีแล้ว แต่ค่าชดเชยพึ่งเสนอมาและยังไม่รู้ว่าจะจ่างจริงเมื่อใด แต่ผลกระทบเกิดมาปีกว่าแล้ว
อยากฟ้องร้องขอความเป็นธรรม แต่ไม่มีเงินจ้างทนาย ใครมีข้อแนะนำ หรือตัวอย่างคำฟ้องบ้าง กรุณาแบ่งปันได้ไหม
รันเวย์3 ก่อมลพิษทางเสียง ปัญหาทางสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ใครมีประสพการณ์มาแบ่งปัน
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะเสียงและความสั่นสะเทือน จัดเป็นปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมทำให้
ประสาทหูเสื่อมหรือพิการได้ ในทางอ้อมมลพิษทางเสียงยังทำให้ความสุขในชีวิตลดลงเป็นต้นเหตุ
ของความรำคาญ ความเครียด ซึ่งเป็นเหตุสำคัญของความเจ็บป่วย เช่น โรคความดันโลหิตสูง
โรคหัวใจ และโรคนอนไม่หลับ รวมทั้งหากมีเสียงรบกวนสมาธิในการทำงานจะมีผลทำให้
ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
ดังนั้นเสียงที่ดังเกินขนาดหรือเสียงที่ดังต่อเนื่องเป็นประจำนั้นย่อม
ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่อย่างแน่นอน และถือได้ว่าเป็นปัญหามลพิษอย่างหนึ่งซึ่ง
เมื่อได้ยินมากๆ ก็เป็นอันตรายต่อหูและอวัยวะอื่น ในลักษณะที่ทำให้เกิดความพิการและถ้าเป็น
เสียงที่ไม่ต้องการฟังจะดังมากหรือน้อยก็ตามจะเป็นลักษณะก่อความรำคาญและรบกวนจิตใจ
ตลอดจนมีผลรบกวนต่อการทำงาน การพักผ่อนนอนหลับ ดังนั้นทั้งเสียงดังเกินไปและ
เสียงรบกวนเป็นเสียงไม่พึงปรารถนาและถือเป็นสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมประการหนึ่งซึ่งต้อง
ได้รับการป้องกันควบคุม และเยียวยาแก้ไขเนื่องจากมลพิษทางเสียงนั้นเป็นปัญหาทางสิ่งแวดล้อม
แต่ทุกรัฐบาล มองข้ามปัญหานี้ไปหรือปล่าว จึงปล่อยให้เกิดขึ้นมาตลอด เพียงอ้างเรื่องเศรษฐกิจ แต่จริงแล้วหากมุมมองทางเศรษฐศาสตร์ ถ้าประชาชนไม่ได้อยู่ดีมีสุข คงได้รับความเดือดร้อนจากนโยบาย โครงการต่างๆของรัฐ เช่นเรื่องเสียงเครื่องบินนี้ แล้วชดเชย(เอาเศษเงินฟาดหัวประชาชน)ให้ทนรับสภาพต่อไปมันคือความเจริญทางเศรษฐกิจเฉพาะกลุ่มใช่ไหม มันคือการแบ่งชั้นวรรณะ หรือปล่าว นี่ยุคไหนแล้ว
ซึ่งเราก็ประสพปัญหานี้เช่นเดียวกันมลพิษจากรันเวย์3 เปิดมา เครื่องบิน บินผ่านหลังคาบ้านทั้งวันทั้งคืน
ทอท.เสนอให้ค่าปรับปรุงป้องกันเสียงไม่ถึง30%ของค่าซ่อมปรับปรุงจริงเลย ทอท.อ้างเป็นหน่วยงานรัฐ กำหนดชดเชยตามกรมบัญชีกลาง แล้วที่สำคัญ สร้างผลกระทบมาหนึ่งปีแล้ว แต่ค่าชดเชยพึ่งเสนอมาและยังไม่รู้ว่าจะจ่างจริงเมื่อใด แต่ผลกระทบเกิดมาปีกว่าแล้ว
อยากฟ้องร้องขอความเป็นธรรม แต่ไม่มีเงินจ้างทนาย ใครมีข้อแนะนำ หรือตัวอย่างคำฟ้องบ้าง กรุณาแบ่งปันได้ไหม