โรงเรียนนานาชาติ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตแรง สวนสภาพเศรษฐกิจไทย แต่อีกแง่ อาจสะท้อนได้ว่า ปัจจุบัน กลุ่มคนรวย - คนมั่งคั่ง มีมากขึ้นในสังคมไทย
เมื่ออัตราค่าเล่าเรียนต่อปีที่เริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 125,000 บาท/ปี ไปจนถึงประมาณ 1,000,000 บาท/ปี กลายเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าของเหล่าบรรดาผู้ปกครองที่ต้องการ “ซื้อสังคมให้บุตรหลาน”
สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ระบุว่า ความนิยมโรงเรียนนานาชาติมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด คาดทั้งปี 2567 ตลาดโรงเรียนนานาชาติจะเติบโต 13% จากปีก่อนหน้า และมีมูลค่ามากกว่า 8 หมื่นล้านบาท
ซึ่งนอกจากมาจากกำลังซื้อของคนไทยระดับบนแล้ว กลุ่มผู้ปกครองหลากหลายสัญชาติ ทั้งจีน ญี่ปุ่น อินเดีย เรื่อยไปจนถึงชาว CLMV (ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมาร์) ที่มีฐานะดี ยังเป็นแรงหนุนที่สำคัญอีกด้วย
นี่เองทำให้เริ่มเห็นการขยายตัวของโรงเรียนนานาชาติออกสู่นอกกรุงเทพฯ มากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสำคัญ เช่น เชียงใหม่ ระยอง ชลบุรี เขาใหญ่ และภูเก็ต จนกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่
เจาะข้อมูลเชิงลึก “สุรเชษฐ กองชีพ” กรรมการผู้จัดการ Property DNA บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เผยว่า ปัจจุบัน ตลาดโรงเรียนนานาชาติไทยอยู่ภายใต้การดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ นักธุรกิจ และครอบครัวนักธุรกิจหลายตระกูลดังของเมืองไทย
โดยบางรายมีการลงทุนในโรงเรียนนานาชาติต่อเนื่องมานานกว่า 10 กว่าปีแล้ว ขณะที่บางส่วนมีการแตกไลน์ธุรกิจมายังโรงเรียนนานาชาติเมื่อไม่นานมานี้เอง เพราะถือเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และสามารถสร้างรายได้ได้อย่างชัดเจน
ผ่านทั้งรูปแบบลงทุนพัฒนาเอง และเทกโอเวอร์บางโรงเรียนที่ประสบปัญหาการเงิน โดยกลุ่มธุรกิจหรือตระกูลที่มีการพัฒนาโรงเรียนนานาชาติของตนเอง มีดังต่อไปนี้
Ref thairat
เปิด “13 ตระกูลดัง” เจ้าของโรงเรียนนานาชาติ เมืองไทย เจาะตลาด 8 หมื่นล้านเมื่อเทรนด์ซื้อสังคมให้ลูกมาแรง
โรงเรียนนานาชาติ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตแรง สวนสภาพเศรษฐกิจไทย แต่อีกแง่ อาจสะท้อนได้ว่า ปัจจุบัน กลุ่มคนรวย - คนมั่งคั่ง มีมากขึ้นในสังคมไทย
เมื่ออัตราค่าเล่าเรียนต่อปีที่เริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 125,000 บาท/ปี ไปจนถึงประมาณ 1,000,000 บาท/ปี กลายเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าของเหล่าบรรดาผู้ปกครองที่ต้องการ “ซื้อสังคมให้บุตรหลาน”
สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ระบุว่า ความนิยมโรงเรียนนานาชาติมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด คาดทั้งปี 2567 ตลาดโรงเรียนนานาชาติจะเติบโต 13% จากปีก่อนหน้า และมีมูลค่ามากกว่า 8 หมื่นล้านบาท
ซึ่งนอกจากมาจากกำลังซื้อของคนไทยระดับบนแล้ว กลุ่มผู้ปกครองหลากหลายสัญชาติ ทั้งจีน ญี่ปุ่น อินเดีย เรื่อยไปจนถึงชาว CLMV (ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมาร์) ที่มีฐานะดี ยังเป็นแรงหนุนที่สำคัญอีกด้วย
นี่เองทำให้เริ่มเห็นการขยายตัวของโรงเรียนนานาชาติออกสู่นอกกรุงเทพฯ มากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสำคัญ เช่น เชียงใหม่ ระยอง ชลบุรี เขาใหญ่ และภูเก็ต จนกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่
เจาะข้อมูลเชิงลึก “สุรเชษฐ กองชีพ” กรรมการผู้จัดการ Property DNA บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เผยว่า ปัจจุบัน ตลาดโรงเรียนนานาชาติไทยอยู่ภายใต้การดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ นักธุรกิจ และครอบครัวนักธุรกิจหลายตระกูลดังของเมืองไทย
โดยบางรายมีการลงทุนในโรงเรียนนานาชาติต่อเนื่องมานานกว่า 10 กว่าปีแล้ว ขณะที่บางส่วนมีการแตกไลน์ธุรกิจมายังโรงเรียนนานาชาติเมื่อไม่นานมานี้เอง เพราะถือเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และสามารถสร้างรายได้ได้อย่างชัดเจน
ผ่านทั้งรูปแบบลงทุนพัฒนาเอง และเทกโอเวอร์บางโรงเรียนที่ประสบปัญหาการเงิน โดยกลุ่มธุรกิจหรือตระกูลที่มีการพัฒนาโรงเรียนนานาชาติของตนเอง มีดังต่อไปนี้
Ref thairat