MIXUE ถือเป็นพี่ใหญ่ร้านไอศกรีมและชาผลไม้จากจีนในประเทศไทย ปัจจุบันน่าจะมีกว่า 250 สาขา แต่เมื่อเร็วๆ นี้มีแบรนด์ไอศกรีมและชาผลไม้น้องใหม่จากจีนเข้ามาเปิดตลาดในไทยอีกแบรนด์
คือ Bing Chun (ปิงชุน) เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งในมณฑลเหอหนาน มีมากกว่า 3,000 สาขาทั่วเอเชีย เปิดสาขาแรกที่แฟชั่นไอส์แลนด์ โมเดลร้านแบบเดียวกับ MIXUE แต่โทนสีฟ้าสดใส
หากถามว่าซื้อแฟรนไชส์ MIXUE กับ Bing Chun แบรนด์ไหนน่าสนใจมากกว่ากัน ขึ้นอยู่ความชอบของแต่ละคน ต้องนำองค์ประกอบต่างๆ มาวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจ เพราะทั้ง 2 แบรนด์มีสินค้าและฐานกลุ่มลูกค้าเหมือนกัน
📌 #ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน MIXUE
✅ค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท/ปี (3 ปี = 150,000 บาท)
✅ค่าจัดการ 25,000 บาท/ปี (3 ปี = 75,000 บาท)
✅ค่าอบรม 10,000 บาท/ปี (3 ปี = 30,000 บาท)
✅ค่าค้ำประกัน 100,000 บาท
✅ค่าอุปกรณ์ 450,000 บาท
✅ค่าวัตถุดิบ 250,000 บาท
✅ค่าสำรวจพื้นที่ กรุงเทพฯ 2,500 บาท/ครั้ง, ต่างจังหวัด 5,000 บาท/ครั้ง
สมมติค่าก่อสร้าง+ออกแบบตกแต่งร้านประมาณ 500,000 บาท
#รวมเงินลงทุนเปิดร้านทั้งหมด 1,557,500 บาท
#สมมติให้ยอดขายของ MIXUE เป็น 20,000 บาทต่อวัน เพราะแบรนด์มีชื่อเสียง ลูกค้าอาจใช้บริการเยอะ
▪️ ยอดขาย 20,000 บาทต่อวัน
▪️ หรือ 600,000 บาทต่อเดือน
▪️ คิดกำไรขั้นต้น 40%
▪️ เหลือรายได้ 240,000 บาทต่อเดือน
#ต้นทุนคงที่
▪️ ค่าเช่าประมาณ 50,000 บาท
▪️ ค่าน้ำ+ไฟ 10,000 บาท
▪️ จ้างพนักงาน 4 คน เงินเดือนเฉลี่ยคนละ 13,000 บาท (52,000 บาท)
#รวมต้นทุนคงที่ 112,000 บาทต่อเดือน
#รายได้ต่อเดือน 240,000 บาท – ต้นทุนคงที่ 112,000 บาท
#เหลือกำไร 128,000 บาทต่อเดือน (กำไรที่ได้ยังไม่ได้หักค่าภาษีป้าย+ภาษีโรงเรือน+ค่าซ่อมบำรุงอุปกรณ์)
💰สรุปก็คือ เปิดร้าน MIXUE ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,557,500 บาท ระยะสัญญา 3 ปี
💰ระยะเวลาคืนทุน งบลงทุน 1,557,500 บาท หารด้วยกำไรสุทธิ 128,000 บาท = 12-13 ดือน
------------------------------------------------------
📌
#ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน BingChun
เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยอย่างเงียบๆ สำหรับแฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้จากจีน ก่อตั้งในปี 2555 ที่มณฑลเหอหนาน ก่อนขยายสาขาไปยังมณฑลต่างๆ เช่น เหอเป่ย ซานตง ซานซี ส่านซี อานฮุย กุ้ยโจว ยูนนาน เหลียวหนิง ซินเจียง และเมืองอื่นๆ มีสาขามากกว่า 3,000 สาขาทั่วเอเชีย ทั้งในอินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว ฯลฯ
สำหรับในประเทศไทยนั้น Bing Chun เข้ามาเปิดตลาดเมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2567 ภายใต้การบริหารของบริษัท ปิงฉุน ฟู้ด แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดสาขาแรกที่แฟชั่นไอส์แลนด์ ใกล้กับบันไดเลื่อนชั้น 3 และเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ อุดรธานี (ตรงข้าง รพ.กรุงเทพอุดร), เชียงใหม่ (เข้าซอยยูนิลอฟ) และ ห้างยูเนี่ยนมอลล์ กรุงเทพฯ ติดกับร้าน Mixue
Bing Chun ใช้ตัวมาสคอตเป็น "วัวกระทิง" การออกแบบร้านจะใช้โทนสีฟ้า โมเดลร้านก็จะเหมือนกับ MIXUE, Wedrink และ Ai-cha สไตล์เดียวกัน
เมนูไอศกรีมและชาผลไม้ราคาเริ่มต้น 15-50 บาท แต่หลายๆ เมนูจะไม่เหมือนกันทีเดียว อย่างเมนูน้ำมะนาวที่ร้าน Bing Chun จะใช้มะนาวสีเขียว
ไม่เหมือน Mixue กับ Ai-Cha ใช้สีเหลือง ราคา 20 บาท
เมนูชานมร้าน Bing Chun มีชานม 4 รส คือ ชานมรสดั้งเดิม ชานมวุ้นมะพร้าว ชานมลิ้นจี่มะลิ และชานมไข่มุกค่ะ ราคาเริ่มต้น ที่ 35 - 50 บาท ส่วนเมนูไอศกรีมทางร้าน Bing Chun มี 2 รสชาติ คือ วานิลลา และ ชาเขียว เริ่มต้น 15 บาท
รูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ Bing Chun
ค่าใช้จ่ายในการลงทุนเปิดร้าน Bing Chun จะคล้ายๆ กับ Mixue, Wedrink และ Ai-Cha แต่การเปิดแฟรนไชส์ในประเทสไทยของ Bing Chun ยังไม่มีการรายงานตัวเลขในการลงทุนที่ชัดเจน
📌 #
ขออ้างอิงตัวเลขการลงทุนในประเทศจีน ดังนี้
✅ค่าแฟรนไชส์ 16,800 หยวน (78,898.86 บาท)
✅ค่าจัดการ 3,000 หยวน/ปี (14,075.72 บาท/ปี)
✅ค่าอบรม 2,000 หยวน (9,391.86 บาท)
✅ค่าค้ำประกัน 10,000 หยวน (46,964.27 บาท)
✅ค่าอุปกรณ์ 60,000 หยวน (281,439.48 บาท)
✅ค่าวัตถุดิบ 23,000 หยวน (107,907.35 บาท)
✅ค่าสำรวจพื้นที่ 1,000 หยวน (4,690.52 บาท)
💰#รวมงบลงทุนประมาณ 130,000 หยวน หรือ 609,948.01 บาท
(ยังไม่รวมค่าก่อสร้าง+ตกแต่งร้านราวๆ 4-8 แสน) (อ้างอิงอัตราแลกเงินวันที่ 10 ต.ค. 2567)
สรุปก็คือ ถ้าถามว่าเปิดแฟรนไชส์ Mixue กับ Bing Chun แบรนด์ไหนคุ้มค่า น่าลงทุนมากกว่ากัน ต้องบอกก่อนว่าแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เพราะทั้ง 2 แบรนด์จะมีค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านเท่าๆ กัน รูปแบบโมเดลร้านเหมือนกัน ราคาสินค้าในร้าน 15-50 บาทเหมือนกัน รสชาติของเมนูน่าจะใกล้เคียงกัน อีกทั้งบางสาขาอย่างในห้างยูเนี่ยนมอลล์เปิดติดกันอีกต่างหาก
ข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.ย. 2567
ที่มา : ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ธุรกิจไทย
2 แบรนด์แฟรนไชส์จีนบุกไทย " Mixue vs Bing Chun " ลงทุนแฟรนไชส์ดีไหม?
MIXUE ถือเป็นพี่ใหญ่ร้านไอศกรีมและชาผลไม้จากจีนในประเทศไทย ปัจจุบันน่าจะมีกว่า 250 สาขา แต่เมื่อเร็วๆ นี้มีแบรนด์ไอศกรีมและชาผลไม้น้องใหม่จากจีนเข้ามาเปิดตลาดในไทยอีกแบรนด์
คือ Bing Chun (ปิงชุน) เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งในมณฑลเหอหนาน มีมากกว่า 3,000 สาขาทั่วเอเชีย เปิดสาขาแรกที่แฟชั่นไอส์แลนด์ โมเดลร้านแบบเดียวกับ MIXUE แต่โทนสีฟ้าสดใส
หากถามว่าซื้อแฟรนไชส์ MIXUE กับ Bing Chun แบรนด์ไหนน่าสนใจมากกว่ากัน ขึ้นอยู่ความชอบของแต่ละคน ต้องนำองค์ประกอบต่างๆ มาวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจ เพราะทั้ง 2 แบรนด์มีสินค้าและฐานกลุ่มลูกค้าเหมือนกัน
📌 #ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน MIXUE
✅ค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท/ปี (3 ปี = 150,000 บาท)
✅ค่าจัดการ 25,000 บาท/ปี (3 ปี = 75,000 บาท)
✅ค่าอบรม 10,000 บาท/ปี (3 ปี = 30,000 บาท)
✅ค่าค้ำประกัน 100,000 บาท
✅ค่าอุปกรณ์ 450,000 บาท
✅ค่าวัตถุดิบ 250,000 บาท
✅ค่าสำรวจพื้นที่ กรุงเทพฯ 2,500 บาท/ครั้ง, ต่างจังหวัด 5,000 บาท/ครั้ง
สมมติค่าก่อสร้าง+ออกแบบตกแต่งร้านประมาณ 500,000 บาท
#รวมเงินลงทุนเปิดร้านทั้งหมด 1,557,500 บาท
#สมมติให้ยอดขายของ MIXUE เป็น 20,000 บาทต่อวัน เพราะแบรนด์มีชื่อเสียง ลูกค้าอาจใช้บริการเยอะ
▪️ ยอดขาย 20,000 บาทต่อวัน
▪️ หรือ 600,000 บาทต่อเดือน
▪️ คิดกำไรขั้นต้น 40%
▪️ เหลือรายได้ 240,000 บาทต่อเดือน
#ต้นทุนคงที่
▪️ ค่าเช่าประมาณ 50,000 บาท
▪️ ค่าน้ำ+ไฟ 10,000 บาท
▪️ จ้างพนักงาน 4 คน เงินเดือนเฉลี่ยคนละ 13,000 บาท (52,000 บาท)
#รวมต้นทุนคงที่ 112,000 บาทต่อเดือน
#รายได้ต่อเดือน 240,000 บาท – ต้นทุนคงที่ 112,000 บาท
#เหลือกำไร 128,000 บาทต่อเดือน (กำไรที่ได้ยังไม่ได้หักค่าภาษีป้าย+ภาษีโรงเรือน+ค่าซ่อมบำรุงอุปกรณ์)
💰สรุปก็คือ เปิดร้าน MIXUE ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,557,500 บาท ระยะสัญญา 3 ปี
💰ระยะเวลาคืนทุน งบลงทุน 1,557,500 บาท หารด้วยกำไรสุทธิ 128,000 บาท = 12-13 ดือน
------------------------------------------------------
📌 #ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน BingChun
เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยอย่างเงียบๆ สำหรับแฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้จากจีน ก่อตั้งในปี 2555 ที่มณฑลเหอหนาน ก่อนขยายสาขาไปยังมณฑลต่างๆ เช่น เหอเป่ย ซานตง ซานซี ส่านซี อานฮุย กุ้ยโจว ยูนนาน เหลียวหนิง ซินเจียง และเมืองอื่นๆ มีสาขามากกว่า 3,000 สาขาทั่วเอเชีย ทั้งในอินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว ฯลฯ
สำหรับในประเทศไทยนั้น Bing Chun เข้ามาเปิดตลาดเมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2567 ภายใต้การบริหารของบริษัท ปิงฉุน ฟู้ด แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดสาขาแรกที่แฟชั่นไอส์แลนด์ ใกล้กับบันไดเลื่อนชั้น 3 และเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ อุดรธานี (ตรงข้าง รพ.กรุงเทพอุดร), เชียงใหม่ (เข้าซอยยูนิลอฟ) และ ห้างยูเนี่ยนมอลล์ กรุงเทพฯ ติดกับร้าน Mixue
Bing Chun ใช้ตัวมาสคอตเป็น "วัวกระทิง" การออกแบบร้านจะใช้โทนสีฟ้า โมเดลร้านก็จะเหมือนกับ MIXUE, Wedrink และ Ai-cha สไตล์เดียวกัน
เมนูไอศกรีมและชาผลไม้ราคาเริ่มต้น 15-50 บาท แต่หลายๆ เมนูจะไม่เหมือนกันทีเดียว อย่างเมนูน้ำมะนาวที่ร้าน Bing Chun จะใช้มะนาวสีเขียว
ไม่เหมือน Mixue กับ Ai-Cha ใช้สีเหลือง ราคา 20 บาท
เมนูชานมร้าน Bing Chun มีชานม 4 รส คือ ชานมรสดั้งเดิม ชานมวุ้นมะพร้าว ชานมลิ้นจี่มะลิ และชานมไข่มุกค่ะ ราคาเริ่มต้น ที่ 35 - 50 บาท ส่วนเมนูไอศกรีมทางร้าน Bing Chun มี 2 รสชาติ คือ วานิลลา และ ชาเขียว เริ่มต้น 15 บาท
รูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ Bing Chun
ค่าใช้จ่ายในการลงทุนเปิดร้าน Bing Chun จะคล้ายๆ กับ Mixue, Wedrink และ Ai-Cha แต่การเปิดแฟรนไชส์ในประเทสไทยของ Bing Chun ยังไม่มีการรายงานตัวเลขในการลงทุนที่ชัดเจน
📌 #ขออ้างอิงตัวเลขการลงทุนในประเทศจีน ดังนี้
✅ค่าแฟรนไชส์ 16,800 หยวน (78,898.86 บาท)
✅ค่าจัดการ 3,000 หยวน/ปี (14,075.72 บาท/ปี)
✅ค่าอบรม 2,000 หยวน (9,391.86 บาท)
✅ค่าค้ำประกัน 10,000 หยวน (46,964.27 บาท)
✅ค่าอุปกรณ์ 60,000 หยวน (281,439.48 บาท)
✅ค่าวัตถุดิบ 23,000 หยวน (107,907.35 บาท)
✅ค่าสำรวจพื้นที่ 1,000 หยวน (4,690.52 บาท)
💰#รวมงบลงทุนประมาณ 130,000 หยวน หรือ 609,948.01 บาท
(ยังไม่รวมค่าก่อสร้าง+ตกแต่งร้านราวๆ 4-8 แสน) (อ้างอิงอัตราแลกเงินวันที่ 10 ต.ค. 2567)
สรุปก็คือ ถ้าถามว่าเปิดแฟรนไชส์ Mixue กับ Bing Chun แบรนด์ไหนคุ้มค่า น่าลงทุนมากกว่ากัน ต้องบอกก่อนว่าแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เพราะทั้ง 2 แบรนด์จะมีค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านเท่าๆ กัน รูปแบบโมเดลร้านเหมือนกัน ราคาสินค้าในร้าน 15-50 บาทเหมือนกัน รสชาติของเมนูน่าจะใกล้เคียงกัน อีกทั้งบางสาขาอย่างในห้างยูเนี่ยนมอลล์เปิดติดกันอีกต่างหาก
ข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.ย. 2567
ที่มา : ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ธุรกิจไทย