โลกกำลังร้อนระอุ..ของที่อยู่ในเข่งก็กำลังร้อนระอุ ในท้องก็กำลังร้องโครกคราก!

---

เมื่อวันกุ้งมังกรผ่านไป วันเกี๊ยวก็มาถึง หากเอากุ้งมังกรมาไส้ของเกี๊ยวก็คงจะอร่อยอย่างบอกไม่ถูก แต่ราคาก็คงบอกไม่ถูกด้วยเช่นกัน!


วันเกี๊ยวนี้เพิ่งเริ่มจัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ.2015 ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดถึงที่มาของวันนี้ แต่เกี๊ยวเรียกได้ว่าเป็นอาหารนานาชาติ และถึงขั้นมีการถกเถียงกันว่าใครเป็นต้นกำเนิดของเกี๊ยว เพราะตามข้อมูลโบราณคดีในแต่ระที่ที่มีการบันทึกไว้ อีกทั้งยังมีถึงหลักฐานชี้ไปถึงที่มาของการทำเกี๊ยว

เกี๊ยวเป็นทั้งอาหารแอฟริกัน แคริบเบียน ละตินอเมริกา บราซิล, อาเซอร์ไบจาน, ชิลี, ชาวเฮติ, จาเมกา, เปรู, ชาวเปอร์โตริโก, เอลซัลวาดอร์, เวเนซุเอลา, จีน, มองโกเลีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, ไซบีเรีย, อิตาลี, สแกนดิเนเวีย, สวีเดน เป็นต้นฯ เรียกได้ว่าเป็นอาหารนานาชาติ

หนึ่งในข้อมูลถึงที่มาของเกี๊ยว อาจต้องขอกล่าวถึงที่ประเทศจีน ในสมัยราชวงศ์ฮั่น เมื่อประมาณ 1,800 ปีก่อน มีเรื่องเล่าว่าแพทย์ชื่อจางจงจิง ("張仲景" แพทย์ปรุงยาและนักประดิษฐ์ เป็นหนึ่งในแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก) กลับมาที่บ้านเกิดในช่วงฤดูหนาว และได้พบว่าชาวบ้านที่เป็นโรคใบหูอักเสบ หูบวมจากน้ำแข็ง จึงปรุงเมนูใหม่ขึ้นมาเพื่อช่วยให้พวกเขาอบอุ่นขึ้น 

โดยใช้เนื้อแกะ สมุนไพร และเครื่องเทศส่วนผสมที่ให้ความอบอุ่นและมีคุณสมบัติทางยา นำมาห่อเป็นเกี๊ยวด้วยแป้ง และพับให้มีลักษณะคล้ายๆใบหู นี่จึงอาจเป็นเรื่องเล่าของต้นกำเนิดเกี๊ยวก็เป็นได้ ซึ่งถึงแม้ว่าเรื่องราวเฉพาะนี้ไม่สามารถยืนยันได้ แต่ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเกี๊ยวในประเทศจีนนั้นก็ต้องบอกว่าไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกัน

ตั้งแต่ฮะเก๋า ไปจนถึงเสี่ยวหลงเปา ที่ประเทศจีนมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก อีกทั้งในด้านการพับไส้เกี๊ยวแสนอร่อยลงในห่อแป้ง แต่ก็อีกนั่นแหละว่าต้นกำเนิดของเกี๊ยวมาจากจีนจริงหรือ แล้วเกี๊ยว ตอร์เทลลินี " tortellini" ของอิตาลีและเปียโรจี " pierogi" ของโปแลนด์ ล่ะ!

มีนักประวัติศาสตร์หลายท่านเห็นด้วยว่า เกี๊ยวชิ้นแรกไม่ได้ยัดไส้ เกี๊ยวเหล่านี้น่าจะถูกประดิษฐ์ขึ้นในยุคก่อนประวัติศาสตร์โดยนักล่าสัตว์ และรวบรวมอาหาร และพยายามหาวิธีใหม่ๆ ในการเตรียม และบริโภค การต้มแป้งเป็นก้อนเพื่อทำเกี๊ยวจึงถือเป็นขั้นตอนปกติ

การค้นพบเกี๊ยวยังมีเรื่องราวที่ถือเป็นหลักฐานทางกายภาพที่เก่าแก่ที่สุดของเกี๊ยวที่เคยค้นพบอยู่ ซึ่งเกี๊ยวยัดไส้ได้ถูกค้นพบในหลุมฝังศพที่เขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน และหลุมฝั่งศพนี้มีอายุอยู่ในช่วง ค.ศ. 300 แต่ก็อาจยังไม่ใช่ข้อพิสูจน์ได้ว่าจีนเป็นต้นกำเนิด นักประวัติศาสตร์ด้านอาหารส่วนใหญ่ระบุว่าเกี๊ยวไส้ต่างๆ มีต้นกำเนิดในเอเชียกลาง จากนั้นชนเผ่าเร่ร่อนเติร์กที่อพยพไปทางตะวันตกสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและไปทางตะวันออกเข้าสู่เอเชียอาจได้เผยแพร่สูตรอาหารของพวกเขาไปทั่วโลกโบราณ

ทฤษฎีนี้ได้รับการสนับสนุนจากนิรุกติศาสตร์ แม้ว่าคำเหล่านี้จะอธิบายอาหารที่แตกต่างกันในปัจจุบัน แต่คำในภาษาเติร์กสำหรับเกี๊ยวคือ manti ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นต้นกำเนิดของ mandu ของเกาหลี manti ของกรีก และ mantou ของจีน คำว่า pierogi ในภาษาโปแลนด์และ pelmeni ของรัสเซียอาจมีรากศัพท์มาจากภาษาเติร์กด้วย

ยังมีผู้เชี่ยวชาญบางคนสืบย้อนหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่เก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับเกี๊ยวไปจนถึง "De Re Coquinaria" (หนังสือทำอาหารของชาวโรมันที่ถูกรวบรวมขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 4) ในหนังสือกล่าวถึงสูตรการทำไก่ฟ้าสับผสมกับไขมัน น้ำซุป และเครื่องเทศ แล้วลวกในน้ำปรุงรส ห่อเหมือนเกี๊ยว ปั้นเป็นก้อนแล้วต้ม

อีกตำราอาหารในโลกตะวันตกที่เก่าแก่ที่มีสูตรเกี๊ยว อย่าง  "Apicius" โดย Marcus Gavius ​​Apicus ผู้เป็นนักชิมอาหารชาวโรมัน ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 1 ในรัชสมัยของจักรพรรดิไทบีเรียส (หลักฐานหนังสือเล่มนี้เป็นตามคำบอกเล่า ถึงยังพิสูจน์ความเชื่อมโยงไม่ได้)

คงต้องบอกได้ว่าเกี๊ยวนั้นมีต้นกำเนิด ตำนาน หลักฐาน เก่าแก่อยู่ทั่วโลก หรือก็คือบรรพบุรุษทั่วโลก ต่างก็เคยกินเกี๊ยวในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งในประวัติศาสตร์มาแล้ว

.
เกี๊ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกก็คงหนี้ไม่พ้นเกี๊ยวของจีน (หมี่เกี๊ยวยืนหนึ่ง!) แต่ก็ยังมีเกี๊ยวที่โด่งดังและอร่อยอย่างมากไม่แพ้กันอยู่นะ

1. เกี๊ยวซ่าญี่ปุ่น (แน่นอนที่สุด)
2. Pierogi "ปีแยรอกี" เกี๊ยวของโปรแลนด์
3. Semolina "ซีโมลินา" เกี๊ยวคลาสสิกของชาวโรมาเนีย
4. ravioli "ราวีโอลี" ของอิตาลี
5. Samosas "ซาโมซา" อินเดีย


.
จริงๆ แล้วมีเมนูเกี๊ยวอร่อยๆ อีกมากมายเลยล่ะ แล้วเพื่อนๆ ชอบเมนูเกี๊ยวอะไรกัน..

.
ขอขอบคุณข้อมูล
: spiritoftheholidays
: mentalfloss
: wikipedia

.
Better Day
Green Heart World Green
อยากให้ทุกคนมีวันที่ดีเสมอ มาแบ่งปันกำลังใจ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสุขให้กันและกัน
...
เพื่อนๆ สามารถติดตามเรื่องราวในโลก ความรู้ ข่าวสาร ที่ดีต่อใจ ดีต่อโลกกับ Better Day
ได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/betterdaydotday

ขอบคุณครับ
...