JJNY : อังคณานั่งปธ.กมธ.│ปชน.เสนอแก้รธน.ไม่ได้เอื้อประโยชน์│หวั่นร่างสุราก้าวหน้าเลื่อนลงมติ│จีนใช้ยาแรง!หวังกระตุ้นศก.

อังคณา นั่ง ประธาน กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ยันจับมือทุกฝ่ายทำงาน เตรียมสานต่องาน ส.ว.ชุดเก่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_4808239
  
 
อังคณา  เฮ!! นั่ง  ปธ.กมธ.พัฒนการเมืองฯ  ยันจับมือทุกฝ่ายทำงาน เตรียมสานต่องาน ส.ว.ชุดเก่า โดยเฉพาะชั้น 14 ขณะที่”ผู้ว่าฯปู”ตั้งใจเข้ามาประสานรอยร้าวให้ทุกฝ่ายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ชี้สว.ทุกคนมีสิทธินั่งกมธ.วอนอย่าด้อยค่า
 
เมื่อเวลา 10.15 น.วันที่ 24 กันยายน ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร ส.ว. ให้สัมภาษณ์ภายหลัง ได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ว่า ในการเลือกวันนี้ มีการลงคะแนนลับ 2 รอบ ผลปรากฏว่ามีคะแนนเท่ากัน ก่อนที่จะมีการจับฉลาก ซึ่งก็ต้องขอบคุณ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี สว. แคนดิเดตในการเลือกประธานกมธ.ฯ ทั้งนี้ตนยืนยันว่าหลังจากนี้จะเป็นการทำงานร่วมกัน โดยนายวีระศักดิ์ได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุน ซึ่งทั้ง2คนไม่ว่าใครจะได้เป็นประธานกมธ.ฯ ก็ไม่ต่างกัน เชื่อว่าสามารถทำงานสนับสนุนส่งเสริมกันได้ และขอบคุณ กมธ.ทุกคน

เมื่อถามว่าการเริ่มทำงานจะต้องดูงานของสว.ชุดที่แล้วทำอะไรไว้บ้าง มีงานค้างหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า กมธ.ฯ ชุดนี้เป็นการรวม 2 กมธ.เข้าด้วยกัน คือกมธ.พัฒนาการเมือง กับกมธ.สิทธิมนุษยชน หลังจากนี้จะมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาด้วย เพราะเรื่องสิทธิพลเมืองกับสิทธิทางการเมืองไม่สามารถแยกจากกันได้ เช่นเดียวกับสิทธิมนุษยชน ทั้งหมดคือเรื่องเดียวกัน แม้ส่วนตัวจะเห็นว่าควรจะแยกกันก็ตาม
 
ต่อข้อถามว่าสว.ชุดที่แล้ว ได้มีการตามเรื่องการพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทางกมธ.พัฒนาการเมืองฯ จะมีการตามเรื่องนี้ต่อหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า งานที่ สว.ชุดที่แล้วทำค้างไว้ และสว.ชุดปัจจุบันมีมติให้ทำต่อ ก็จะดำเนินการตรวจสอบต่อ

ขณะที่นายวีระศักดิ์ กล่าวถึงการทำงานร่วมกันว่า ส่วนตัวเคารพนับถือนางอังคณา มั่นใจว่าการทำงานจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเห็นว่าทุกคนที่เข้ามาทำหน้าที่นี้ จะต้องมีความสมานฉันท์ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อาจจะมีข้อขัดแย้งกันบ้าง แต่ท้ายที่สุดก็จบลงในที่ประชุม ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าการตั้งกมธ.ครั้งนี้ ส.ว. สายสีน้ำเงินกินรวบประธานกมธ.เกือบทุกคณะ นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นสิทธิ์ของกมธ.แต่ละคณะ

เมื่อถามว่ารายชื่อกมธ. ที่หลายคนมองว่าอาจจะผิดฝาผิดตัว ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า สิทธิพลเมืองต้องมาก่อน ขออย่าไปด้วยค่า เพราะทุกคนมีสิทธิ์ตามความสนใจ อย่างเช่นตน ก็มาอยู่ในกมธ.พัฒนาการเมือง ฯจึงมองว่าเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน ที่สว. จะดำรงตำแหน่งใน กมธ.
 
นายวีระศักดิ์ ยังกล่าวเปิดใจที่ได้เข้ามานั่งใน กมธ.ชุดนี้ว่า ได้แจ้งกับนางอังคณาไว้แล้ว ตั้งใจเข้ามาทำหน้าที่เพื่อลบรอยราวเล็กๆ ที่มีอยู่ และต้องการให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกิดความสมานฉันท์ การเข้ามาชิงตำแหน่งประธานไม่รู้ตัวมาก่อน เพราะมีคนเสนอชื่อ และยินดีที่นางอังคณาได้รับตำแหน่ง
ยืนยันสามารถทำงานร่วมกันได้
 
นางอังคณา กล่าวเสริมว่า เคยพูดคุยกันมาก่อน ว่าไม่ว่าใครก็ตาม ที่ได้เป็นประธานกมธ.ฯ ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ และจะสนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกัน ส่วนความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ ซึ่งต้องเคารพในเสียงข้างมาก ไม่ละเลยเสียงข้างน้อย ทั้งนี้พร้อมรับข้อเสนอแนะ และข้อห่วงใยจากทุกฝ่าย



ณัฐวุฒิ ชี้ พรรคประชาชนเสนอแก้รธน.ไม่ได้เอื้อประโยชน์ใคร ยัน 44 ส.ส. มีคดีจริยธรรมไม่ได้ร่วมลงชื่อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4808247
 
‘ณัฐวุฒิ’ ชี้ พรรคประชาชนเสนอแก้รธน.ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร ยัน 44 ส.ส. ที่มีคดีจริยธรรมไม่ได้ร่วมลงชื่อ หวังสถาบันการเมืองมั่นคง ปชช.ได้ประโยชน์ บอกคุย ส.ว. บางส่วนขอเสียงหนุนแล้ว พร้อมรอถกกรอบเวลาวิป 3 ฝ่ายสัปดาห์นี้
 
เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นมาตรฐานจริยธรรมนักการเมือง ที่ทั้งพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยได้ยื่นร่างดังกล่าว เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา ว่า ขณะนี้ปัญหาจริยธรรมที่ถูกตีความขยายไปเกินกว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ หรือสิ่งที่ประชาชนคาดหวังอยากให้เป็น เช่น เรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ทุกพรรคมองเห็นตรงกันว่ายอมรับไม่ได้
 
แต่เมื่อมีประเด็นรายละเอียดต่างๆ กลับเป็นการเปิดช่องให้องค์กรอิสระพิจารณาตีความขยายเกินกว่าเจตนารมของรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นอันตรายต่อการพัฒนาระบอบสถาบันการเมือง และการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น หากมีการแก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียวไม่แก้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับกฎหมาย ป้องกันและปราบปรามการทุจริตก็จะไม่สมบูรณ์แบบ
 
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ประธานรัฐสภาจะนัดหมายวิป 3 ฝ่าย เพื่อกำหนดกรอบเวลา ในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคประชาชนเสนอไว้ทั้งหมด 4 ร่าง เนื้อหาสาระเชิงหลักการแตกต่างกันแต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน น่าจะพิจารณารวมกันได้แต่แยกลงมติรายฉบับ
 
ทั้งนี้ พรรคประชาชนอยากได้เวลาเต็มที่ในการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราเพราะเป็นเรื่องสำคัญ หากใช้เวลาเพียง 1 วันต้องรอดูว่าจะให้แล้วเสร็จเมื่อใด แต่หากตึงไปอาจจะขอเป็น 2 วัน ซึ่งหากใช้เวลาเต็มที่พิจารณาสาระรายละเอียดได้มากพอสมควรซึ่งจะได้ประโยชน์มากกว่า
เมื่อถามถึงข้อกล่าวหาการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องมาตรฐานจริยธรรม เป็นไปเพื่อประโยชน์ทางการเมืองและพวกพ้อง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ร่างของพรรคประชาชนเสนอนั้น สมาชิกที่เข้าชื่อไม่ใช่คนที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับคดีจริยธรรมคือ ส.ส. 44 คน อดีตพรรคก้าวไกลไม่ได้ร่วมลงชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว เพราะมีเจตจำนงที่จะนำไปสู่การทบทวนรัฐธรรมนูญในหมวดนี้อย่างแท้จริง ไม่ได้ต้องการเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
 
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า การแก้ไขในหมวดจริยธรรมและหมวดที่เกี่ยวข้องไม่ได้เพื่อประโยชน์ของใครแต่เพื่อประโยชน์ความมั่นคงทางสถาบันการเมือง เพราะระบบการตรวจสอบที่สำคัญที่สุดคือการตรวจสอบจากประชาชนที่เป็นผู้ลงคะแนนเลือกตั้ง
 
แม้แต่กรณีที่บุคคลจะหลงผิดไปแต่ละพรรคการเมืองก็มีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้น เช่น ที่อดีตพรรคก้าวไกลได้ดำเนินการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อความมั่นคงและความเหมาะสมทางสถาบันการเมืองและประโยชน์ต่อประชาชน
 
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า จะอาศัยเวทีรัฐสภารวบรวมสิ่งที่ประชาชนสงสัยมาอธิบายชี้แจงข้อสงสัยว่าความต้องการแก้ไขหลักใหญ่ใจความเพื่อต้องการทบทวนรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่เวลาของการแก้ทั้งฉบับเคลื่อนจากเวลาเดิมที่ตั้งใจไว้ เช่น พ.ร.บ.ประชามติที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาก็ล่าช้าในเชิงกระบวนการ และการทำประชามติครั้งแรกก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดในเดือน ก.พ.68 หรือไม่
 
จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยื่นแก้ไขรายมาตรา ซึ่งจริยธรรมเป็นแค่ส่วนหนึ่งยังมีเรื่องยุทธศาสตร์ชาติและโครงสร้างของสิ่งที่ตกค้างจาก คำสั่ง คสช.ที่ต้องการทบทวน และมีอีกหลายประเด็นอยากให้ประชาชนติดตามว่าสิ่งที่ทำทั้งหมดเป็นไปเพื่อคงสถาบันการเมืองที่เหมาะสมในระบอบประชาธิปไตยไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อใครคนใดคนหนึ่งแน่นอน
 
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ได้มีการหารือกับสมาชิกวุฒิสภาอย่างไม่เป็นทางการเพื่อขอเสียงสนับสนุนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเนื่องจากเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องใช้เสียงสนับสนุน ซึ่ง ส.ว.ชุดนี้ มีความหลากหลายมาก ต่างจากส.ว. ชุดก่อนจึงอาจไม่สามารถคุยทุกกลุ่มหรือทุกคนได้ แต่สิ่งสำคัญที่ทำตอนนี้คือทำความเข้าใจต่อสาธารณชน ที่เป็นการยืนยันว่าการแก้ไขไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของใครหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เพื่อคงระบอบพรรคการเมืองที่เป็นหนึ่งในสถาบันหลักทางการเมือง
 
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าวุฒิสภาที่มาจากประชาชนต้องมีความเข้าใจเรื่องการเมือง และการตัดสินใจจะเป็นอิสระไม่ใช่การกดปุ่มชี้แบบใดแบบหนึ่ง จึงยังมั่นใจว่าถ้าเห็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมด ได้พิจารณาฟังเหตุและผลที่สมาชิกแต่ละคนนำเสนอ จะได้เสียงสนับสนุน 1 ใน 3 จาก ส.ว.อย่างแน่นอน
 


‘ณัฐวุฒิ’ ขอ สภาฯ ไม่ตีตกกม.ฝ่ายค้าน หวั่น ร่างสุราก้าวหน้าเลื่อนลงมติ เล็งตั้งกระทู้ถามรบ. ปมภัยพิบัติ-ค่าแรง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4808273

‘ณัฐวุฒิ’ ขอ สภา ไม่ตีตก กม.ฝ่ายค้าน หวั่น ร่างสุราก้าวหน้าเลื่อนลงมติ เล็งตั้งกระทู้ถาม รบ. ปมภัยพิบัติ-ค่าแรง
 
เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 25-26 กันยายนนี้ ว่า วันที่ 25 ก.ย. จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายที่สำคัญหลายฉบับ เช่น ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือกฎหมายไม่ตีเด็ก โดยเป็นการพิจารณาต่อจากที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งในขั้นรับหลักการมีสมาชิกให้ความเห็นชอบถึง 401 เสียง ถือเป็นมติเอกฉันท์ โดยกรรมาธิการมีการแก้ไขเพียงเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนจากการลงโทษอย่างเดียวเป็นการปรับปรุงพฤติกรรม เรื่องของการใช้ความรุนแรง, เรื่องการด้อยค่าและการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งในเรื่องนี้มีกรรมาธิการผู้ทรงคุณวุฒินั่งพิจารณาอยู่ด้วย เช่น นางอภิญญา เวชยชัย ภริยารองนายกรัฐมนตรี จึงคาดหวังว่าสภาจะมีมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายดังกล่าวและส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณา
 
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ส่วนอีกหนึ่งคือร่างกฎหมายที่สำคัญคือร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. … ในเรื่องนี้มีการแก้ไขรายละเอียดค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการเพิ่มคำว่าชนเผ่าพื้นเมืองเข้าไปในร่างกฎหมาย, เรื่องการบริหารพื้นที่พิเศษ, รวมถึงคณะกรรมการ และโครงสร้างต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะต้องใช้ความละเอียดและรอบคอบในการพิจารณาจึงคาดว่าจะไม่แล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ คงจะต้องพิจารณาต่อเนื่องในสัปดาห์ถัดๆ ไป อาจส่งผลต่อการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่ค้างการพิจารณามาจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ในเรื่องนี้จะต้องมาคุยกันว่าจะมีวิธีการดำเนินอย่างไรเพื่อให้การลงมติเร็วขึ้น
 
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ส่วนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 26 ก.ย. จะเป็นการพิจารณาทั้งกระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป ซึ่งขณะนี้โครงสร้างของวิปฝ่ายค้าน ยังไม่ลงตัว เนื่องจากจะไม่มีผู้นำฝ่ายค้าน ดังนั้นโควต้าในการถามกระทู้สดจึงอยู่ที่พรรคประชาชนเป็นหลัก โดยพรรคประชาชนจะตั้งถามในเรื่องของภัยพิบัติและเรื่องค่าแรง หรือความคืบหน้าทางการเมืองต่างๆ โดยได้รับการประสานงานจากวิปรัฐบาลแล้วว่า ในส่วนของการตั้งกระทู้ถามทั่วไปคณะรัฐมนตรีจะพยายามเดินทางมาตอบกระทู้ให้ครบทุกท่าน ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่