ฤทธิ์มรสุม ขอนแก่น ฝนถล่มหนักทั้งคืน น้ำทะลักท่วมถนนสายหลักแล้ว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9412357
ขอนแก่น ฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง น้ำทะลักท่วมถนนสายหลัก ผู้ว่าฯ สั่งเร่งระบายน้ำ สนามบินขอนแก่น ขอผู้เดินทาง เผื่อเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
วันที่ 14 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่าน จ.ขอนแก่น ทำให้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงเวลา 03.00-05.00 น.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนถนนสายต่าง ๆ
โดยที่ถนนมะลิวัลย์ฝั่งขาเข้าและขาออก บริเวณปากทางเข้าโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น ระดับน้ำท่วมสูง 30-50 เซนติเมตร ทำให้ประชาชนที่สัญจรด้วยรถจักรยานยนต์ ต้องช่วยกันยกรถจักรยานยนต์ข้ามเกาะกลางถนน เพราะไม่ต้องการที่ลุยน้ำ จนทำให้รถเสียหายจากน้ำที่ไหลเข้าเครื่องยนต์
ขอนแก่น ฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง น้ำทะลักท่วมถนนสายหลัก ผู้ว่าฯ สั่งเร่งระบายน้ำ สนามบินขอนแก่น ขอผู้เดินทาง เผื่อเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
โดยเฉพาะฝั่งเข้าเมือง รถทุกชนิดต้องวิ่งเลนขวาเท่านั้น ทำให้เกิดการจราจรติดขัดทั้ง 2 ฝั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น และ สภ.บ้านเป็ด ต้องคอยอำนวยความสะดวกประชาชน ที่สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง และยังเป็นเส้นทางในการเดินทางไปท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น
ส่วนที่ถนนบ้านกอก เจ้าหน้าที่เทศบาลนครขอนแก่น ต้องนำป้าย “น้ำท่วมสูงห้ามรถผ่าน” มาตั้งไว้หน้าวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่ ปภ.เขต 6 ได้นำรถยกสูงและเจ้าหน้าที่กองร้อย อส.ขอนแก่น คอยช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยบริเวณถนนสายบ้านกอก เนื่องจากน้ำยังท่วมสูง 40-50 เซนติเมตร ทำให้น้ำระบายได้ช้า
นาย
ไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนาม ตอนกลาง ประกอบ กับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน จะมีกำลังแรงขึ้นเป็นกำลังค่อนข้างแรง
นาย
ไกรสร กล่าวต่อว่า จึงทำให้มีฝนตกหนัก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา สามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้ 125 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ปริมาณน้ำไม่สามารถระบายได้ทัน เนื่องจากปริมาณน้ำที่จำนวนมาก
นาย
ไกรสร กล่าวอีกว่า ขณะนี้น้ำที่ท่วมบริเวณถนนมะลิวัลย์ ช่วงโรงเรียนการศึกษาคนตอดขอนแก่น ได้ระบายลงบังหนองโคตรแล้ว คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำ ในช่วงเย็นนี้สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
นาย
ไกรสร กล่าวด้วยว่า ส่วนที่บริเวณถนนบ้านกอก ได้มีการเดินเครื่องสูบน้ำระยะไกลช่วยในการระบายน้ำ คาดว่าช่วงเย็นจะสามารถระบายน้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนผู้ที่จะเดินทางด้วยเครื่องบิน จะต้องมีการเดินทางเผื่อเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อจะได้ทันต่อการเดินทางตามตารางเที่ยวบิน
นักวิชาการ ชี้ น้ำท่วมหนองคาย เป็นน้ำท่าจากฝนที่ตกในแม่โขงจากลาว ระบุมีอีกมหาศาลกำลังมา
https://www.matichon.co.th/local/news_4790353
นักวิชาการ ชี้ น้ำท่วมหนองคาย เป็นน้ำท่าจากฝนที่ตกในแม่โขงจากลาว ระบุมีอีกมหาศาล ราว 1 สัปดาห์ถึงจะซา
วันที่ 14 กันยายน นาย
รอยล จิตรดอน ที่ปรึกษา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(สสน.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.)
เปิดเผยกับ มติชนออนไลน์ ว่า สาเหตุหลักของน้ำที่ท่วมพื้นที่ จ.หนองคายเวลานี้ เป็น เพราะ ก่อนหน้านี้ เกิดพายุยางิ นั้น มีฝนตกในพื้นที่ พม่า จีนและ สปป.ลาว ในปริมาณมาก โดย สปป.ลาวนั้น มีพื้นที่รับน้ำของแม่น้ำโขงมากที่สุด ในบรรดาประเทศที่กล่าวมานี้ รองลงมาคือ ประเทศไทย และจีน 10% โดย ฝนที่ตกลงมานั้นสปป.รับไปเต็มๆมากที่สุด และค่อยๆไหลเข้ามายังประเทศไทย เรียกน้ำนี้ว่า น้ำท่า ซึ่งตอนนี้ น้ำท่า จากสปป.ลาว มีปริมาณค่อนข้างเยอะ ค่อยๆไหลเข้ามาเรื่อยๆ คาดว่า อีกประมาณเป็นสัปดาห์ถึงจะค่อยๆซาลง และสถานการณ์จะดีขึ้น
ศ.ดร.
สันติ ภัยหลบลี้ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของเพจ มิตรเอิร์ธ กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นของ แม่น้ำโขงคือ มีความยาวทั้งสิ้น 4,880 กิโลเมตร จากต้นน้ำบริเวณชายขอบเทือกเขาหิมาลัย ไหลผ่านจีน พม่า ลาว ไทย กัมพูชา ไปจนสุดเวียดนาม โดยถ้าแบ่งตามลุ่มน้ำใหญ่ๆ เราจะแบ่งแม่น้ำโขงออกเป็น 2 ท่อน 2 ชื่อ ท่อนบนคนทิเบต พม่าและจีนเรียกแม่น้ำสายนี้ว่า หลานชางเจียง (Lancang Jiang) ส่วนท่อนล่างไล่ตั้งแต่ประเทศลาว ไทย กัมพูชาและเวียดนาม ก็เรียก น้ำโขง บ้าง น้ำของ บ้าง ตามแต่สำเนียง
“
ประเด็นเรื่องการสร้างเขื่อนขวางลำโขงของประเทศจีนและลาวมีการถกกันมาพักใหญ่แล้ว และผมก็เห็นพ้องอย่างยิ่งว่าการสร้างเขื่อนขวางโขงนั้นส่งผลในแทบทุกมิติตลอดทั้งพื้นที่ท้ายน้ำ ทั้งทางสังคม วัฒนธรรม ระบบนิเวศ กุ้ง หอย ปู ปลา ฯลฯ ซึ่งผมไม่ขอก้าวล่วงเพราะไม่ใช่ทางถนัด แต่ผมก็เชื่อเหมือนที่หลายๆ คนเชื่อว่าเขื่อนขวางโขงทำให้เกิดการเปลี่ยน และหลายอย่างจะไม่กลับมาเหมือนเดิม”ศ.ดร.
สันติ กล่าว
ศ.ดร.
สันติ กล่าวว่า สำหรับน้ำที่กำลังท่วมกลายๆพื้นที่ ที่ติดกับแม่น้ำโขงในเวลานี้ ตามภูมิศาสตร์ ลุ่มน้ำคือ ฝนที่ตกหนักในสปป.ลาว และแม่น้ำโขงซึ่งรับน้ำเอาไว้จำนวนมาก ตามธรรมชาติก็จะค่อยๆไหลถ่ายเทไปตามเส้นทาง แต่ในลาวก็มีเขื่อนเล็ก เขื่อนน้อยจำนวนมากที่ขวางทางน้ำเอาไว้
ศ.ดร.
สันติ กล่าวว่า ในจำนวนพื้นที่รับน้ำทั้งหมดของแม่น้ำโขง 795,000 ตารางกิโลเมตร ธรรมชาติได้มอบหมายให้ลาว 202,000 ตารางกิโลเมตร (หรือ 25%) เป็นผู้ดูแลคอยจ่ายน้ำลงโขง ส่วนไทย จีนและกัมพูชา ก็ต้องทำหน้าที่ 23% 21% และ 20% ลดหลั่นกันไปตามลำดับไหล่ จะมีก็แต่เวียดนาม ประเทศปลายน้ำที่ให้น้ำกับโขงน้อยที่สุด 8%
จากรูปที่เห็น ผมแปลความว่าตำแหน่งที่ธรรมชาติมอบหมายให้เป็นคนเลี้ยงระดับน้ำโขง พี่ใหญ่จริงๆ ไม่ใช่จีน แต่กลับเป็นลาวเกือบทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลาวทางตอนเหนือที่ติดกับจังหวัดเลย หนองคาย นครพนม แถบๆ นั้น ในขณะที่ภาคอีสานของไทย พื้นที่ส่วนใหญ่หนักไปทางมีสีส้มและเหลือง หมายความว่า ฟ้าก็ไม่ได้ประธานให้เป็นผู้นำ (น้ำ) สู่โขงเช่นกัน
และถ้าดูในแผนที่ด้านล่าง ซึ่งแสดงตำแหน่งของเขื่อนต่างๆ ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในการเติมน้ำให้โขง จะเห็นว่าวงกลมสีส้มคือแค่บางส่วนของตำแหน่งเขื่อนขนาดใหญ่ที่ขวาง ลำน้ำโขงสายหลัก (Mekong Mainstream) แต่ถ้าลองสังเกตดูดีๆ จุดสีเหลืองคือจุดที่มีการสร้างเขื่อนตามลำน้ำสายรองที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่ไหลมายังประเทศไทย ที่จะผ่าน หนองคาย บึงกาฬ นครพนม อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ก็ยังมาก และค่อยๆลดลงตามระยะทาง
"พิธา" ลั่นอีกรอบ ไม่มี “ฝ่ายแค้น” มีแต่ “คู่แข่ง” หัวเราะ ย้อนถามกลับที่เคยแค้นกัน 20 ปี
https://ch3plus.com/news/political/morning/416834
"พิธา" ลั่นอีกรอบ ไม่มี “ฝ่ายแค้น” มีแต่ “คู่แข่ง” หัวเราะ ย้อนถามกลับที่เคยแค้นกัน 20 ปี ตอนนี้ก็เป็นรัฐบาลเดียวกัน ชี้ปรากฎการณ์ข้ามขั้วรัฐบาลสมานฉันท์แค่ชนชั้นนำกลุ่ม แต่กลับปล่อยประชาชนเคว้งคว้าง
14 ก.ย. 2567 นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นางสาว
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุถึงฝ่ายค้าน อย่าเป็นฝ่ายแค้นว่า เมื่อคืนนี้ขึ้นเครื่องบินไฟล์ทเดียวกับนาย
สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เสียดายที่มีโอกาสพูดคุยกันน้อยไปหน่อย จะได้พูดกับนาย
สมศักดิ์ว่า เป็นคู่แข่ง ไม่ใช่คู่แค้น และตัวเองก็ไม่ได้ไร้เดียงสาทางการเมือง เพราะเห็นที่แค้นกันมาก เมื่อ 20 ปีก่อน ก็เป็นรัฐบาลเดียวกัน หรือที่ผ่านมาที่รัฐประหารครอบครัวตัวเอง ก็กลับมาเป็นคณะรัฐมนตรีเดียวกัน เพราะฉะนั้นสำหรับตัวเอง ถือเป็นคู่แข่ง ที่ไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวซึ่งกันและกัน
นาย
พิธา ยังระบุว่า ขณะนี้เหมือนการสมานฉันท์กันของกลุ่มชนชั้นนำ ที่ไม่ได้ต้องการความเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างตั้งแต่แรก ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าเห็นใจของประชาชน ที่เคยติดตามแกนนำ หรือชนชั้นนำเหล่านั้น ซึ่งน่าจะกำลังรู้สึกเคว้งคว้าง สับสนว่า เกิดอะไรขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งวนลูปมาโดยตลอด และการสมานฉันท์ที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่การสมานฉันท์กันแค่แกนนำ แต่ควรสมานฉันท์กับประชาชน ที่สูญเสียอิสรภาพ สูญเสียชีวิต สูญเสียเวลาไปด้วยเช่นเดียวกัน
นาย
พิธา กล่าวต่อว่า การเสาะหาข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือ การแก้ไขกฎหมายให้เกิดความรับผิดชอบกับผู้ที่สังหารประชาชน และทำให้เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้น หรือ ใบอนุญาตที่จะทำให้เกิดการฆ่าคน จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต แบบนี้ต่างหากที่เป็นการ Set Zero ประเทศ ให้เกิดความสมานฉันท์จริง ไม่มีขั้ว และเดินข้ามกันอย่างตรงไปตรงมา แข่งขันกันบนระบบ มองว่า ควรเป็นเรื่องที่น่าจะเกิดขึ้น และเป็นสิ่งที่รัฐบาลก้าวไกล ในขณะที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีเสียง 312 เสียง และพยายามจะผลักดัน ให้เกิดความเท่าเทียมในการนิรโทษกรรม เสาะหาข้อเท็จจริง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้มีการรัฐประหาร ก็เสียดายที่โอกาสในการสมานฉันท์กันทั้งประเทศ รวมถึงประชาชน กลายเป็นสมานฉันท์กันแค่ 25 - 30 ที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีตอนนี้
JJNY : ฤทธิ์มรสุม ขอนแก่น ฝนถล่มหนักทั้งคืน│ชี้น้ำท่วมหนองคาย│"พิธา"ลั่นอีกรอบไม่มี “ฝ่ายแค้น”│ยุโรปกลางเตรียมรับมือฝนตก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9412357
ขอนแก่น ฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง น้ำทะลักท่วมถนนสายหลัก ผู้ว่าฯ สั่งเร่งระบายน้ำ สนามบินขอนแก่น ขอผู้เดินทาง เผื่อเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
วันที่ 14 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่าน จ.ขอนแก่น ทำให้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงเวลา 03.00-05.00 น.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนถนนสายต่าง ๆ
โดยที่ถนนมะลิวัลย์ฝั่งขาเข้าและขาออก บริเวณปากทางเข้าโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น ระดับน้ำท่วมสูง 30-50 เซนติเมตร ทำให้ประชาชนที่สัญจรด้วยรถจักรยานยนต์ ต้องช่วยกันยกรถจักรยานยนต์ข้ามเกาะกลางถนน เพราะไม่ต้องการที่ลุยน้ำ จนทำให้รถเสียหายจากน้ำที่ไหลเข้าเครื่องยนต์
ขอนแก่น ฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง น้ำทะลักท่วมถนนสายหลัก ผู้ว่าฯ สั่งเร่งระบายน้ำ สนามบินขอนแก่น ขอผู้เดินทาง เผื่อเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
โดยเฉพาะฝั่งเข้าเมือง รถทุกชนิดต้องวิ่งเลนขวาเท่านั้น ทำให้เกิดการจราจรติดขัดทั้ง 2 ฝั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น และ สภ.บ้านเป็ด ต้องคอยอำนวยความสะดวกประชาชน ที่สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง และยังเป็นเส้นทางในการเดินทางไปท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น
ส่วนที่ถนนบ้านกอก เจ้าหน้าที่เทศบาลนครขอนแก่น ต้องนำป้าย “น้ำท่วมสูงห้ามรถผ่าน” มาตั้งไว้หน้าวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่ ปภ.เขต 6 ได้นำรถยกสูงและเจ้าหน้าที่กองร้อย อส.ขอนแก่น คอยช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยบริเวณถนนสายบ้านกอก เนื่องจากน้ำยังท่วมสูง 40-50 เซนติเมตร ทำให้น้ำระบายได้ช้า
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนาม ตอนกลาง ประกอบ กับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน จะมีกำลังแรงขึ้นเป็นกำลังค่อนข้างแรง
นายไกรสร กล่าวต่อว่า จึงทำให้มีฝนตกหนัก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา สามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้ 125 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ปริมาณน้ำไม่สามารถระบายได้ทัน เนื่องจากปริมาณน้ำที่จำนวนมาก
นายไกรสร กล่าวอีกว่า ขณะนี้น้ำที่ท่วมบริเวณถนนมะลิวัลย์ ช่วงโรงเรียนการศึกษาคนตอดขอนแก่น ได้ระบายลงบังหนองโคตรแล้ว คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำ ในช่วงเย็นนี้สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
นายไกรสร กล่าวด้วยว่า ส่วนที่บริเวณถนนบ้านกอก ได้มีการเดินเครื่องสูบน้ำระยะไกลช่วยในการระบายน้ำ คาดว่าช่วงเย็นจะสามารถระบายน้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนผู้ที่จะเดินทางด้วยเครื่องบิน จะต้องมีการเดินทางเผื่อเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อจะได้ทันต่อการเดินทางตามตารางเที่ยวบิน
นักวิชาการ ชี้ น้ำท่วมหนองคาย เป็นน้ำท่าจากฝนที่ตกในแม่โขงจากลาว ระบุมีอีกมหาศาลกำลังมา
https://www.matichon.co.th/local/news_4790353
นักวิชาการ ชี้ น้ำท่วมหนองคาย เป็นน้ำท่าจากฝนที่ตกในแม่โขงจากลาว ระบุมีอีกมหาศาล ราว 1 สัปดาห์ถึงจะซา
วันที่ 14 กันยายน นายรอยล จิตรดอน ที่ปรึกษา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(สสน.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.)
เปิดเผยกับ มติชนออนไลน์ ว่า สาเหตุหลักของน้ำที่ท่วมพื้นที่ จ.หนองคายเวลานี้ เป็น เพราะ ก่อนหน้านี้ เกิดพายุยางิ นั้น มีฝนตกในพื้นที่ พม่า จีนและ สปป.ลาว ในปริมาณมาก โดย สปป.ลาวนั้น มีพื้นที่รับน้ำของแม่น้ำโขงมากที่สุด ในบรรดาประเทศที่กล่าวมานี้ รองลงมาคือ ประเทศไทย และจีน 10% โดย ฝนที่ตกลงมานั้นสปป.รับไปเต็มๆมากที่สุด และค่อยๆไหลเข้ามายังประเทศไทย เรียกน้ำนี้ว่า น้ำท่า ซึ่งตอนนี้ น้ำท่า จากสปป.ลาว มีปริมาณค่อนข้างเยอะ ค่อยๆไหลเข้ามาเรื่อยๆ คาดว่า อีกประมาณเป็นสัปดาห์ถึงจะค่อยๆซาลง และสถานการณ์จะดีขึ้น
ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของเพจ มิตรเอิร์ธ กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นของ แม่น้ำโขงคือ มีความยาวทั้งสิ้น 4,880 กิโลเมตร จากต้นน้ำบริเวณชายขอบเทือกเขาหิมาลัย ไหลผ่านจีน พม่า ลาว ไทย กัมพูชา ไปจนสุดเวียดนาม โดยถ้าแบ่งตามลุ่มน้ำใหญ่ๆ เราจะแบ่งแม่น้ำโขงออกเป็น 2 ท่อน 2 ชื่อ ท่อนบนคนทิเบต พม่าและจีนเรียกแม่น้ำสายนี้ว่า หลานชางเจียง (Lancang Jiang) ส่วนท่อนล่างไล่ตั้งแต่ประเทศลาว ไทย กัมพูชาและเวียดนาม ก็เรียก น้ำโขง บ้าง น้ำของ บ้าง ตามแต่สำเนียง
“ประเด็นเรื่องการสร้างเขื่อนขวางลำโขงของประเทศจีนและลาวมีการถกกันมาพักใหญ่แล้ว และผมก็เห็นพ้องอย่างยิ่งว่าการสร้างเขื่อนขวางโขงนั้นส่งผลในแทบทุกมิติตลอดทั้งพื้นที่ท้ายน้ำ ทั้งทางสังคม วัฒนธรรม ระบบนิเวศ กุ้ง หอย ปู ปลา ฯลฯ ซึ่งผมไม่ขอก้าวล่วงเพราะไม่ใช่ทางถนัด แต่ผมก็เชื่อเหมือนที่หลายๆ คนเชื่อว่าเขื่อนขวางโขงทำให้เกิดการเปลี่ยน และหลายอย่างจะไม่กลับมาเหมือนเดิม”ศ.ดร.สันติ กล่าว
ศ.ดร.สันติ กล่าวว่า สำหรับน้ำที่กำลังท่วมกลายๆพื้นที่ ที่ติดกับแม่น้ำโขงในเวลานี้ ตามภูมิศาสตร์ ลุ่มน้ำคือ ฝนที่ตกหนักในสปป.ลาว และแม่น้ำโขงซึ่งรับน้ำเอาไว้จำนวนมาก ตามธรรมชาติก็จะค่อยๆไหลถ่ายเทไปตามเส้นทาง แต่ในลาวก็มีเขื่อนเล็ก เขื่อนน้อยจำนวนมากที่ขวางทางน้ำเอาไว้
ศ.ดร.สันติ กล่าวว่า ในจำนวนพื้นที่รับน้ำทั้งหมดของแม่น้ำโขง 795,000 ตารางกิโลเมตร ธรรมชาติได้มอบหมายให้ลาว 202,000 ตารางกิโลเมตร (หรือ 25%) เป็นผู้ดูแลคอยจ่ายน้ำลงโขง ส่วนไทย จีนและกัมพูชา ก็ต้องทำหน้าที่ 23% 21% และ 20% ลดหลั่นกันไปตามลำดับไหล่ จะมีก็แต่เวียดนาม ประเทศปลายน้ำที่ให้น้ำกับโขงน้อยที่สุด 8%
จากรูปที่เห็น ผมแปลความว่าตำแหน่งที่ธรรมชาติมอบหมายให้เป็นคนเลี้ยงระดับน้ำโขง พี่ใหญ่จริงๆ ไม่ใช่จีน แต่กลับเป็นลาวเกือบทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลาวทางตอนเหนือที่ติดกับจังหวัดเลย หนองคาย นครพนม แถบๆ นั้น ในขณะที่ภาคอีสานของไทย พื้นที่ส่วนใหญ่หนักไปทางมีสีส้มและเหลือง หมายความว่า ฟ้าก็ไม่ได้ประธานให้เป็นผู้นำ (น้ำ) สู่โขงเช่นกัน
และถ้าดูในแผนที่ด้านล่าง ซึ่งแสดงตำแหน่งของเขื่อนต่างๆ ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในการเติมน้ำให้โขง จะเห็นว่าวงกลมสีส้มคือแค่บางส่วนของตำแหน่งเขื่อนขนาดใหญ่ที่ขวาง ลำน้ำโขงสายหลัก (Mekong Mainstream) แต่ถ้าลองสังเกตดูดีๆ จุดสีเหลืองคือจุดที่มีการสร้างเขื่อนตามลำน้ำสายรองที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่ไหลมายังประเทศไทย ที่จะผ่าน หนองคาย บึงกาฬ นครพนม อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ก็ยังมาก และค่อยๆลดลงตามระยะทาง
"พิธา" ลั่นอีกรอบ ไม่มี “ฝ่ายแค้น” มีแต่ “คู่แข่ง” หัวเราะ ย้อนถามกลับที่เคยแค้นกัน 20 ปี
https://ch3plus.com/news/political/morning/416834
"พิธา" ลั่นอีกรอบ ไม่มี “ฝ่ายแค้น” มีแต่ “คู่แข่ง” หัวเราะ ย้อนถามกลับที่เคยแค้นกัน 20 ปี ตอนนี้ก็เป็นรัฐบาลเดียวกัน ชี้ปรากฎการณ์ข้ามขั้วรัฐบาลสมานฉันท์แค่ชนชั้นนำกลุ่ม แต่กลับปล่อยประชาชนเคว้งคว้าง
14 ก.ย. 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุถึงฝ่ายค้าน อย่าเป็นฝ่ายแค้นว่า เมื่อคืนนี้ขึ้นเครื่องบินไฟล์ทเดียวกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เสียดายที่มีโอกาสพูดคุยกันน้อยไปหน่อย จะได้พูดกับนายสมศักดิ์ว่า เป็นคู่แข่ง ไม่ใช่คู่แค้น และตัวเองก็ไม่ได้ไร้เดียงสาทางการเมือง เพราะเห็นที่แค้นกันมาก เมื่อ 20 ปีก่อน ก็เป็นรัฐบาลเดียวกัน หรือที่ผ่านมาที่รัฐประหารครอบครัวตัวเอง ก็กลับมาเป็นคณะรัฐมนตรีเดียวกัน เพราะฉะนั้นสำหรับตัวเอง ถือเป็นคู่แข่ง ที่ไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวซึ่งกันและกัน
นายพิธา ยังระบุว่า ขณะนี้เหมือนการสมานฉันท์กันของกลุ่มชนชั้นนำ ที่ไม่ได้ต้องการความเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างตั้งแต่แรก ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าเห็นใจของประชาชน ที่เคยติดตามแกนนำ หรือชนชั้นนำเหล่านั้น ซึ่งน่าจะกำลังรู้สึกเคว้งคว้าง สับสนว่า เกิดอะไรขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งวนลูปมาโดยตลอด และการสมานฉันท์ที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่การสมานฉันท์กันแค่แกนนำ แต่ควรสมานฉันท์กับประชาชน ที่สูญเสียอิสรภาพ สูญเสียชีวิต สูญเสียเวลาไปด้วยเช่นเดียวกัน
นายพิธา กล่าวต่อว่า การเสาะหาข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือ การแก้ไขกฎหมายให้เกิดความรับผิดชอบกับผู้ที่สังหารประชาชน และทำให้เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้น หรือ ใบอนุญาตที่จะทำให้เกิดการฆ่าคน จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต แบบนี้ต่างหากที่เป็นการ Set Zero ประเทศ ให้เกิดความสมานฉันท์จริง ไม่มีขั้ว และเดินข้ามกันอย่างตรงไปตรงมา แข่งขันกันบนระบบ มองว่า ควรเป็นเรื่องที่น่าจะเกิดขึ้น และเป็นสิ่งที่รัฐบาลก้าวไกล ในขณะที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีเสียง 312 เสียง และพยายามจะผลักดัน ให้เกิดความเท่าเทียมในการนิรโทษกรรม เสาะหาข้อเท็จจริง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้มีการรัฐประหาร ก็เสียดายที่โอกาสในการสมานฉันท์กันทั้งประเทศ รวมถึงประชาชน กลายเป็นสมานฉันท์กันแค่ 25 - 30 ที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีตอนนี้