ตอนส่งกฤษฎีกาตีความ ถามว่าเสนอขายได้มั้ยโดยมีกลไกปกป้องผลตอบแทน กฤษฎีกาก็ตอบตรงๆว่าขายได้
แต่พอเสนอขายจริง การปกป้องผลตอบแทนของนักลงทุน ก. เป็นการทำให้ ข. ซึ่งเป็นภาครัฐเสียหายและเสียเปรียบ
ซึ่งไม่ได้ให้กฤษฎีกาตีความตรงนี้ว่าทำได้มั้ย สุดท้ายคงเป็นเหมือนกรณีตั้งรัฐมนตรีถุงขนม ถามแค่ไหนตอบแค่นั้น
ผิดถูกไปว่ากันที่ศาล งงว่าทำไมไม่ถามโดยส่งรายละเอียดทั้งหมดให้กฤษฎีกาไปเลยจะได้ชัดเจน
ปล.ตอนให้ ครม. รับรองก็ไม่มีรายละเอียดในเรื่องกลไกของ ก. และ ข. เป็นแค่การแจ้งว่าจะเสนอขายเพิ่มเฉยๆ
วายุภักษ์ ส่อแววจะเป็นเหมือนกรณีการตั้งรัฐมนตรีถุงขนมซะแล้ว
แต่พอเสนอขายจริง การปกป้องผลตอบแทนของนักลงทุน ก. เป็นการทำให้ ข. ซึ่งเป็นภาครัฐเสียหายและเสียเปรียบ
ซึ่งไม่ได้ให้กฤษฎีกาตีความตรงนี้ว่าทำได้มั้ย สุดท้ายคงเป็นเหมือนกรณีตั้งรัฐมนตรีถุงขนม ถามแค่ไหนตอบแค่นั้น
ผิดถูกไปว่ากันที่ศาล งงว่าทำไมไม่ถามโดยส่งรายละเอียดทั้งหมดให้กฤษฎีกาไปเลยจะได้ชัดเจน
ปล.ตอนให้ ครม. รับรองก็ไม่มีรายละเอียดในเรื่องกลไกของ ก. และ ข. เป็นแค่การแจ้งว่าจะเสนอขายเพิ่มเฉยๆ