JJNY : ‘พริษฐ์’ หวังพูดชัด แก้ รธน.อย่างไร│สส.ถกปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือ│เชียงรายวิกฤต เจอ 2 ศพ│ยูเครนเดินหน้าผลิตอาวุธเพิ่ม

‘พริษฐ์’ หวัง ‘นายกฯ’ พูดชัดเดินหน้า แก้ รธน.อย่างไร ชี้ร่างคำแถลงนโยบายกว้างไป ไม่เจาะจง.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4784142

‘พริษฐ์’ หวัง ‘นายกฯ’ พูดชัดเดินหน้า แก้ รธน.อย่างไร ชี้ร่างคำแถลงนโยบายกว้างไป ไม่เจาะจง
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 กันยายน ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายเรื่องอะไรบ้าง ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า ทุกประเด็นที่ประชาชนคิดอยู่จะมีการอภิปรายแน่นอน ซึ่งเราได้เตรียมผู้อภิปรายกว่า 30 คน และจะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุด ทั้งนี้ ตนมองว่าการอภิปรายต้องมองถึงบริบท เรากำลังรับฟังคำแถลงนโยบายที่เรียกว่ารัฐบาลใหม่คงไม่ได้ ฉะนั้น การอภิปรายของ ส.ส.พรรคประชาชนจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 

1.ตรวจการบ้าน 1 ปีที่ผ่านมาว่าสิ่งที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ สัญญาไว้ มีความคืบหน้าไปแค่ไหน แก้ไขปัญหาประชาชนได้แค่ไหน 

และ 2.เราคิดว่านโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีบางประเด็นที่ยังไม่ตอบโจทย์และเราอาจเสนอแนะสิ่งที่ดีขึ้นได้เพื่อประชาชน ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดิจิทัลวอลเล็ต การแก้รัฐธรรมนูญ โดยจะเป็นการมองไปข้างหน้าในอีก 3 ปี

เมื่อถามถึงนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนญ ซึ่งถูกถอดออกจากนโยบายเร่งด่วน จากยุคนายเศรษฐา นายพริษฐ์กล่าวว่า ตนก็สังเกต ถูกเปลี่ยนหมวดหมู่จากนโยบายเร่งด่วนเป็นนโยบายระยะยาว-กลาง และมีการเปลี่ยนข้อความแต่ในภาพรวมยังเป็นการใช้ข้อความในลักษณะที่กว้างอยู่ ทั้งนี้ ตนมองว่าการแก้ปัญหารัฐธรรมนูญต้องเดิน 2 เส้นทางคู่ขนาน คือต้องจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ให้เร็วที่สุด แต่คำถามที่ตามมาคือตกลงแล้วทางรัฐบาลวางกรอบเวลาไว้เท่าไหร่ หรือหากเดินหน้าทำประชามติ 3 ครั้ง จะมีการทบทวนคำถามประชามติหรือไม่ รวมถึงองค์คณะที่จะมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญ​ (ส.ส.ร.) มาจากการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่
 
นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สิ่งที่ยังไม่เห็นในร่างคำแถลงนโยบาย คือการแก้ไขรายมาตรา ซึ่งตนมองว่าต้องทำคู่ขนานเพื่อแก้ปัญหาที่จำเป็นเร่งด่วน ดังนั้น ตนอยากทราบว่ารัฐบาลจะสนับสนุนแนวทางนี้อย่างไร เราคาดหวังที่จะฟังนายกฯ คนใหม่



สส.ถกปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือ จี้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_773767/

สส.ถกปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือ จี้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือ บรรเทาความเดือนร้อนประชาชนโดยเร็ว ขอให้วางแนวทางป้องกันและรับมือปริมาณน้ำจากภาคเหนือที่จะไหลสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้พร้อม เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
 
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (11 ก.ย.67) นายวันมูหะมันนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้เปิดให้ สส. นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าหารือ
 
ทั้งนี้ ปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและการเตรียมรับปริมาณน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มี สส. นำเข้าหารือต่อเนื่อง โดย นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน หารือผ่านไปยังรัฐบาลว่า ขณะนี้เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ และสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย
 
จึงขอให้เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้านำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้ประชาชนโดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้น รวมถึงขอให้รัฐบาลวางแผนแก้ปัญหาอุทกภัยในระยะยาวอย่างยั่งยืนเพราะปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี
 
เช่นเดียวกับ นายรวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย และนายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี สส. นครสวรรค์ พรรคประชาชน ได้หารือปัญหาความเดือนร้อนประชาชนพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในพื้นที่ภาคเหนือที่ไหลท่วมเข้าบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร
 
รวมถึงส่งผลให้ตลิ่งริมน้ำพังทลายหลายจุด ซึ่งนอกจากการเร่งจ่ายเงินจ่ายเงินเยียวยาแล้ว ขอให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้จัดสรรงบประมาณซ่อมแซมตลิ่งริมน้ำให้มั่นคงแข็งแรงเพื่อป้องกันน้ำปริมาณที่ไหลผ่านในช่วงฤดูฝนในทุกๆ ปี
 
ด้านนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ได้หารือผ่านไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอให้เร่งว่างแนวทางป้องกันและเตรียมรับมือกับปริมาณน้ำจากภาคเหนือที่จะไหลลงมายังลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดอ่างทองที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นประจำทุกปี
 
ขณะที่ในพื้นที่ภาคใต้ นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส. จังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ หารือฝากไปยังรัฐบาลให้เร่งวางแนวทางป้องกันและรับมือสถานการณ์อุกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่เป็นช่วงมรสุมไว้ให้พร้อมเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น



เชียงรายวิกฤต น้ำไหลจากเชียงใหม่ ท่วมสูง 6 เมตร เข้าอ.เมืองแล้ว เจอ 2 ศพติดในตึก
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9407172

เชียงรายวิกฤต มวลน้ำจากเชียงใหม่ ผ่านต.ท่าตอน ลึก 6 เมตร ไหลเข้าอ.เมืองเชียงรายแล้ว เจอ 2 ศพ ติดอยู่ในอาคาร เล็งหาเรือยางแล่นฝ่าน้ำเชี่ยว ช่วยคนตามชุมชน
 
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากกรมทรัพยากรน้ำ โดยส่วนอุทกวิทยาที่ 1 เชียงใหม่ สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 แจ้งว่าระดับน้ำในแม่น้ำกกที่ไหลมาจากประเทศเมียนมาและเข้าสู่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มีความลึกมากขึ้นตามลำดับ โดยเมื่อผ่าน ต.ท่าตอน มีความลึกเกือบ 6 เมตรนั้น
 
ล่าสุดมวลน้ำไหลเข้าสู่ อ.เมืองเชียงรายแล้ว และส่งผลกระทบไปตลอดริมฝั่ง โดยน้ำเข้าท่วมสำนักงานเทศบาลดอยฮาง ต.ดอยฮาง จนน้ำเข้าท่วมล้อมรอบอาคาร ขณะที่บ้านเรือนตามริมฝั่งถูกน้ำท่วมไปตลอดแนวจนถึงเขตเทศบาลนครเชียงราย
 
น้ำยังทะลักเข้าท่วมบริเวณเชิงสะพานขัวพญาเม็งราย เชื่อมระหว่างชุมชนบ้านให้กับ สภ.เมืองเชียงราย จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดสะพานงดการสัญจรชั่วคราว น้ำยังเข้าท่วมบริเวณริมฝั่งที่มีบ้านเรือนชุมชน เช่น ชุมชนเกาะลอย ชุมชนรั้วเหล็ก ถนนพหลโยธินขาออกเมืองบริเวณแยกสหมิตร โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียราย ฯลฯ
 
ชาวบ้านต่างขนย้ายข้าวของไว้บนที่สูงอย่างฉุกระหุก ขณะที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย ได้จัดตั้งโรงครัวบริเวณที่การศูนย์ฯ อาคารอภิสแคว์ อ.เมืองเชียงราย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้อพยพหนีน้ำท่วมมาจาก อ.แม่สาย
 
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย พบว่าเข้าสู่ภาวะวิกฤตเพราะระดับน้ำไม่ได้ลดลง แต่กลับมีระดับสูงขึ้น โดยบริเวณหน้าด่านพรมแดนจุดผ่านแดนถาวรข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 พบว่าน้ำเข้าท่วมถนนพหลโยธินลึกเข้ามากว่า 400-500 เมตรแล้ว
 
หลังจากคืนที่ผ่านมาเข้าท่วมถึงบริเวณหน้า สภ.แม่สาย เช่นเดียวกับภายในชุมชนต่างๆ พบว่าจากเดิมน้ำเข้าท่วมถึงชั้น 1 ของอาคารปรากฏว่าช่วงคืนที่ผ่านมาได้ท่วมไปถึงชั้น 2 แล้ว ทำให้ชาวบ้านต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลืออพยพออกไปโดยเฉพาะซอย 4 ซอย 6 ฯลฯ ถนนเหมืองแดง ซึ่งน้ำท่วมสูงท่วมศีรษะและยังไหลเชี่ยวกราก
 
แต่เนื่องจากการเข้าไปถึงเป็นไปด้วยความยากลำบากทำให้ชาวบ้านยังติดอยู่ตามจุดต่างๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ อาหารและน้ำดื่มก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะซอย 4 ที่ชาวเมียนมาติดอยู่ในอาคารกว่า 30 คน และคนไทยตามอาคารต่างๆ ในซอย 6 อีกเป็นจำนวนมากบางคนสูงอายุ 90 ปี ยังอยู่บนอาคารชั้น 2-3 ขณะที่ทีมงานของศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย แจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย หลังจากที่ทั้งหมดติดอยู่ในอาคารตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา
 
ด้านศูนย์บัญชาการเหตุการณ์น้ำท่วม อ.แม่สาย หารือกันอย่างต่อเนื่อง โดยระดมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าช่วยชาวบ้านให้ออกมาจากจุดวิกฤต และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องจัดหาเรือยางที่มีความเบาสามารถแล่นไปบนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวตามชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาล ต.แม่สาย ได้ จึงอยู่ระหว่างรวบรวมให้ได้เร็วที่สุดต่อไป
 
ขณะที่ได้จัดสถานที่พักพิงชั่วคราว สำหรับชาวบ้านที่หนีน้ำออกจากบ้านได้ทันบริเวณสำนักงานเทศบาลจำนวน 34 ราย และที่วัดพรหมวิหารอีก 37 ราย รวมทั้งหมด 71 ราย นอกจากนี้ศูนย์ฯ ยังแจ้งว่าจะมีมวลน้ำจากเขต อ.แม่ฟ้าหลวง ไหลลงสู่พื้นที่ ต.โป่งผา และ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมวลน้ำดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่