‘พริษฐ์’ หวัง ‘นายกฯ’ พูดชัดเดินหน้า แก้ รธน.อย่างไร ชี้ร่างคำแถลงนโยบายกว้างไป ไม่เจาะจง.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4784142
‘พริษฐ์’ หวัง ‘นายกฯ’ พูดชัดเดินหน้า แก้ รธน.อย่างไร ชี้ร่างคำแถลงนโยบายกว้างไป ไม่เจาะจง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 กันยายน ที่รัฐสภา นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายเรื่องอะไรบ้าง ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า ทุกประเด็นที่ประชาชนคิดอยู่จะมีการอภิปรายแน่นอน ซึ่งเราได้เตรียมผู้อภิปรายกว่า 30 คน และจะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุด ทั้งนี้ ตนมองว่าการอภิปรายต้องมองถึงบริบท เรากำลังรับฟังคำแถลงนโยบายที่เรียกว่ารัฐบาลใหม่คงไม่ได้ ฉะนั้น การอภิปรายของ ส.ส.พรรคประชาชนจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ตรวจการบ้าน 1 ปีที่ผ่านมาว่าสิ่งที่รัฐบาลนาย
เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ สัญญาไว้ มีความคืบหน้าไปแค่ไหน แก้ไขปัญหาประชาชนได้แค่ไหน
และ 2.เราคิดว่านโยบายของ น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีบางประเด็นที่ยังไม่ตอบโจทย์และเราอาจเสนอแนะสิ่งที่ดีขึ้นได้เพื่อประชาชน ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดิจิทัลวอลเล็ต การแก้รัฐธรรมนูญ โดยจะเป็นการมองไปข้างหน้าในอีก 3 ปี
เมื่อถามถึงนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนญ ซึ่งถูกถอดออกจากนโยบายเร่งด่วน จากยุคนายเศรษฐา นาย
พริษฐ์กล่าวว่า ตนก็สังเกต ถูกเปลี่ยนหมวดหมู่จากนโยบายเร่งด่วนเป็นนโยบายระยะยาว-กลาง และมีการเปลี่ยนข้อความแต่ในภาพรวมยังเป็นการใช้ข้อความในลักษณะที่กว้างอยู่ ทั้งนี้ ตนมองว่าการแก้ปัญหารัฐธรรมนูญต้องเดิน 2 เส้นทางคู่ขนาน คือต้องจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ให้เร็วที่สุด แต่คำถามที่ตามมาคือตกลงแล้วทางรัฐบาลวางกรอบเวลาไว้เท่าไหร่ หรือหากเดินหน้าทำประชามติ 3 ครั้ง จะมีการทบทวนคำถามประชามติหรือไม่ รวมถึงองค์คณะที่จะมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาจากการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่
นาย
พริษฐ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สิ่งที่ยังไม่เห็นในร่างคำแถลงนโยบาย คือการแก้ไขรายมาตรา ซึ่งตนมองว่าต้องทำคู่ขนานเพื่อแก้ปัญหาที่จำเป็นเร่งด่วน ดังนั้น ตนอยากทราบว่ารัฐบาลจะสนับสนุนแนวทางนี้อย่างไร เราคาดหวังที่จะฟังนายกฯ คนใหม่
สส.ถกปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือ จี้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_773767/
สส.ถกปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือ จี้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือ บรรเทาความเดือนร้อนประชาชนโดยเร็ว ขอให้วางแนวทางป้องกันและรับมือปริมาณน้ำจากภาคเหนือที่จะไหลสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้พร้อม เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (11 ก.ย.67) นาย
วันมูหะมันนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้เปิดให้ สส. นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าหารือ
ทั้งนี้ ปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและการเตรียมรับปริมาณน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มี สส. นำเข้าหารือต่อเนื่อง โดย นาย
นิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน หารือผ่านไปยังรัฐบาลว่า ขณะนี้เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ และสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย
จึงขอให้เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้านำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้ประชาชนโดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้น รวมถึงขอให้รัฐบาลวางแผนแก้ปัญหาอุทกภัยในระยะยาวอย่างยั่งยืนเพราะปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี
เช่นเดียวกับ นาย
รวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย และนาย
กฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี สส. นครสวรรค์ พรรคประชาชน ได้หารือปัญหาความเดือนร้อนประชาชนพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในพื้นที่ภาคเหนือที่ไหลท่วมเข้าบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร
รวมถึงส่งผลให้ตลิ่งริมน้ำพังทลายหลายจุด ซึ่งนอกจากการเร่งจ่ายเงินจ่ายเงินเยียวยาแล้ว ขอให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้จัดสรรงบประมาณซ่อมแซมตลิ่งริมน้ำให้มั่นคงแข็งแรงเพื่อป้องกันน้ำปริมาณที่ไหลผ่านในช่วงฤดูฝนในทุกๆ ปี
ด้านนาย
กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ได้หารือผ่านไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอให้เร่งว่างแนวทางป้องกันและเตรียมรับมือกับปริมาณน้ำจากภาคเหนือที่จะไหลลงมายังลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดอ่างทองที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นประจำทุกปี
ขณะที่ในพื้นที่ภาคใต้ นาย
ร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส. จังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ หารือฝากไปยังรัฐบาลให้เร่งวางแนวทางป้องกันและรับมือสถานการณ์อุกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่เป็นช่วงมรสุมไว้ให้พร้อมเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
เชียงรายวิกฤต น้ำไหลจากเชียงใหม่ ท่วมสูง 6 เมตร เข้าอ.เมืองแล้ว เจอ 2 ศพติดในตึก
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9407172
เชียงรายวิกฤต มวลน้ำจากเชียงใหม่ ผ่านต.ท่าตอน ลึก 6 เมตร ไหลเข้าอ.เมืองเชียงรายแล้ว เจอ 2 ศพ ติดอยู่ในอาคาร เล็งหาเรือยางแล่นฝ่าน้ำเชี่ยว ช่วยคนตามชุมชน
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากกรมทรัพยากรน้ำ โดยส่วนอุทกวิทยาที่ 1 เชียงใหม่ สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 แจ้งว่าระดับน้ำในแม่น้ำกกที่ไหลมาจากประเทศเมียนมาและเข้าสู่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มีความลึกมากขึ้นตามลำดับ โดยเมื่อผ่าน ต.ท่าตอน มีความลึกเกือบ 6 เมตรนั้น
ล่าสุดมวลน้ำไหลเข้าสู่ อ.เมืองเชียงรายแล้ว และส่งผลกระทบไปตลอดริมฝั่ง โดยน้ำเข้าท่วมสำนักงานเทศบาลดอยฮาง ต.ดอยฮาง จนน้ำเข้าท่วมล้อมรอบอาคาร ขณะที่บ้านเรือนตามริมฝั่งถูกน้ำท่วมไปตลอดแนวจนถึงเขตเทศบาลนครเชียงราย
น้ำยังทะลักเข้าท่วมบริเวณเชิงสะพานขัวพญาเม็งราย เชื่อมระหว่างชุมชนบ้านให้กับ สภ.เมืองเชียงราย จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดสะพานงดการสัญจรชั่วคราว น้ำยังเข้าท่วมบริเวณริมฝั่งที่มีบ้านเรือนชุมชน เช่น ชุมชนเกาะลอย ชุมชนรั้วเหล็ก ถนนพหลโยธินขาออกเมืองบริเวณแยกสหมิตร โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียราย ฯลฯ
ชาวบ้านต่างขนย้ายข้าวของไว้บนที่สูงอย่างฉุกระหุก ขณะที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย ได้จัดตั้งโรงครัวบริเวณที่การศูนย์ฯ อาคารอภิสแคว์ อ.เมืองเชียงราย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้อพยพหนีน้ำท่วมมาจาก อ.แม่สาย
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย พบว่าเข้าสู่ภาวะวิกฤตเพราะระดับน้ำไม่ได้ลดลง แต่กลับมีระดับสูงขึ้น โดยบริเวณหน้าด่านพรมแดนจุดผ่านแดนถาวรข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 พบว่าน้ำเข้าท่วมถนนพหลโยธินลึกเข้ามากว่า 400-500 เมตรแล้ว
หลังจากคืนที่ผ่านมาเข้าท่วมถึงบริเวณหน้า สภ.แม่สาย เช่นเดียวกับภายในชุมชนต่างๆ พบว่าจากเดิมน้ำเข้าท่วมถึงชั้น 1 ของอาคารปรากฏว่าช่วงคืนที่ผ่านมาได้ท่วมไปถึงชั้น 2 แล้ว ทำให้ชาวบ้านต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลืออพยพออกไปโดยเฉพาะซอย 4 ซอย 6 ฯลฯ ถนนเหมืองแดง ซึ่งน้ำท่วมสูงท่วมศีรษะและยังไหลเชี่ยวกราก
แต่เนื่องจากการเข้าไปถึงเป็นไปด้วยความยากลำบากทำให้ชาวบ้านยังติดอยู่ตามจุดต่างๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ อาหารและน้ำดื่มก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะซอย 4 ที่ชาวเมียนมาติดอยู่ในอาคารกว่า 30 คน และคนไทยตามอาคารต่างๆ ในซอย 6 อีกเป็นจำนวนมากบางคนสูงอายุ 90 ปี ยังอยู่บนอาคารชั้น 2-3 ขณะที่ทีมงานของศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย แจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย หลังจากที่ทั้งหมดติดอยู่ในอาคารตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา
ด้านศูนย์บัญชาการเหตุการณ์น้ำท่วม อ.แม่สาย หารือกันอย่างต่อเนื่อง โดยระดมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าช่วยชาวบ้านให้ออกมาจากจุดวิกฤต และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องจัดหาเรือยางที่มีความเบาสามารถแล่นไปบนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวตามชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาล ต.แม่สาย ได้ จึงอยู่ระหว่างรวบรวมให้ได้เร็วที่สุดต่อไป
ขณะที่ได้จัดสถานที่พักพิงชั่วคราว สำหรับชาวบ้านที่หนีน้ำออกจากบ้านได้ทันบริเวณสำนักงานเทศบาลจำนวน 34 ราย และที่วัดพรหมวิหารอีก 37 ราย รวมทั้งหมด 71 ราย นอกจากนี้ศูนย์ฯ ยังแจ้งว่าจะมีมวลน้ำจากเขต อ.แม่ฟ้าหลวง ไหลลงสู่พื้นที่ ต.โป่งผา และ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมวลน้ำดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย
JJNY : ‘พริษฐ์’ หวังพูดชัด แก้ รธน.อย่างไร│สส.ถกปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือ│เชียงรายวิกฤต เจอ 2 ศพ│ยูเครนเดินหน้าผลิตอาวุธเพิ่ม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4784142
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 กันยายน ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายเรื่องอะไรบ้าง ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า ทุกประเด็นที่ประชาชนคิดอยู่จะมีการอภิปรายแน่นอน ซึ่งเราได้เตรียมผู้อภิปรายกว่า 30 คน และจะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุด ทั้งนี้ ตนมองว่าการอภิปรายต้องมองถึงบริบท เรากำลังรับฟังคำแถลงนโยบายที่เรียกว่ารัฐบาลใหม่คงไม่ได้ ฉะนั้น การอภิปรายของ ส.ส.พรรคประชาชนจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ตรวจการบ้าน 1 ปีที่ผ่านมาว่าสิ่งที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ สัญญาไว้ มีความคืบหน้าไปแค่ไหน แก้ไขปัญหาประชาชนได้แค่ไหน
และ 2.เราคิดว่านโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีบางประเด็นที่ยังไม่ตอบโจทย์และเราอาจเสนอแนะสิ่งที่ดีขึ้นได้เพื่อประชาชน ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดิจิทัลวอลเล็ต การแก้รัฐธรรมนูญ โดยจะเป็นการมองไปข้างหน้าในอีก 3 ปี
เมื่อถามถึงนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนญ ซึ่งถูกถอดออกจากนโยบายเร่งด่วน จากยุคนายเศรษฐา นายพริษฐ์กล่าวว่า ตนก็สังเกต ถูกเปลี่ยนหมวดหมู่จากนโยบายเร่งด่วนเป็นนโยบายระยะยาว-กลาง และมีการเปลี่ยนข้อความแต่ในภาพรวมยังเป็นการใช้ข้อความในลักษณะที่กว้างอยู่ ทั้งนี้ ตนมองว่าการแก้ปัญหารัฐธรรมนูญต้องเดิน 2 เส้นทางคู่ขนาน คือต้องจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ให้เร็วที่สุด แต่คำถามที่ตามมาคือตกลงแล้วทางรัฐบาลวางกรอบเวลาไว้เท่าไหร่ หรือหากเดินหน้าทำประชามติ 3 ครั้ง จะมีการทบทวนคำถามประชามติหรือไม่ รวมถึงองค์คณะที่จะมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาจากการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่
นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สิ่งที่ยังไม่เห็นในร่างคำแถลงนโยบาย คือการแก้ไขรายมาตรา ซึ่งตนมองว่าต้องทำคู่ขนานเพื่อแก้ปัญหาที่จำเป็นเร่งด่วน ดังนั้น ตนอยากทราบว่ารัฐบาลจะสนับสนุนแนวทางนี้อย่างไร เราคาดหวังที่จะฟังนายกฯ คนใหม่
สส.ถกปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือ จี้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_773767/
สส.ถกปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือ จี้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือ บรรเทาความเดือนร้อนประชาชนโดยเร็ว ขอให้วางแนวทางป้องกันและรับมือปริมาณน้ำจากภาคเหนือที่จะไหลสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้พร้อม เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (11 ก.ย.67) นายวันมูหะมันนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้เปิดให้ สส. นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าหารือ
ทั้งนี้ ปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและการเตรียมรับปริมาณน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มี สส. นำเข้าหารือต่อเนื่อง โดย นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน หารือผ่านไปยังรัฐบาลว่า ขณะนี้เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ และสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย
จึงขอให้เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้านำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้ประชาชนโดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้น รวมถึงขอให้รัฐบาลวางแผนแก้ปัญหาอุทกภัยในระยะยาวอย่างยั่งยืนเพราะปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี
เช่นเดียวกับ นายรวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย และนายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี สส. นครสวรรค์ พรรคประชาชน ได้หารือปัญหาความเดือนร้อนประชาชนพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในพื้นที่ภาคเหนือที่ไหลท่วมเข้าบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร
รวมถึงส่งผลให้ตลิ่งริมน้ำพังทลายหลายจุด ซึ่งนอกจากการเร่งจ่ายเงินจ่ายเงินเยียวยาแล้ว ขอให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้จัดสรรงบประมาณซ่อมแซมตลิ่งริมน้ำให้มั่นคงแข็งแรงเพื่อป้องกันน้ำปริมาณที่ไหลผ่านในช่วงฤดูฝนในทุกๆ ปี
ด้านนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ได้หารือผ่านไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอให้เร่งว่างแนวทางป้องกันและเตรียมรับมือกับปริมาณน้ำจากภาคเหนือที่จะไหลลงมายังลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดอ่างทองที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นประจำทุกปี
ขณะที่ในพื้นที่ภาคใต้ นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส. จังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ หารือฝากไปยังรัฐบาลให้เร่งวางแนวทางป้องกันและรับมือสถานการณ์อุกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่เป็นช่วงมรสุมไว้ให้พร้อมเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
เชียงรายวิกฤต น้ำไหลจากเชียงใหม่ ท่วมสูง 6 เมตร เข้าอ.เมืองแล้ว เจอ 2 ศพติดในตึก
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9407172
เชียงรายวิกฤต มวลน้ำจากเชียงใหม่ ผ่านต.ท่าตอน ลึก 6 เมตร ไหลเข้าอ.เมืองเชียงรายแล้ว เจอ 2 ศพ ติดอยู่ในอาคาร เล็งหาเรือยางแล่นฝ่าน้ำเชี่ยว ช่วยคนตามชุมชน
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากกรมทรัพยากรน้ำ โดยส่วนอุทกวิทยาที่ 1 เชียงใหม่ สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 แจ้งว่าระดับน้ำในแม่น้ำกกที่ไหลมาจากประเทศเมียนมาและเข้าสู่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มีความลึกมากขึ้นตามลำดับ โดยเมื่อผ่าน ต.ท่าตอน มีความลึกเกือบ 6 เมตรนั้น
ล่าสุดมวลน้ำไหลเข้าสู่ อ.เมืองเชียงรายแล้ว และส่งผลกระทบไปตลอดริมฝั่ง โดยน้ำเข้าท่วมสำนักงานเทศบาลดอยฮาง ต.ดอยฮาง จนน้ำเข้าท่วมล้อมรอบอาคาร ขณะที่บ้านเรือนตามริมฝั่งถูกน้ำท่วมไปตลอดแนวจนถึงเขตเทศบาลนครเชียงราย
น้ำยังทะลักเข้าท่วมบริเวณเชิงสะพานขัวพญาเม็งราย เชื่อมระหว่างชุมชนบ้านให้กับ สภ.เมืองเชียงราย จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดสะพานงดการสัญจรชั่วคราว น้ำยังเข้าท่วมบริเวณริมฝั่งที่มีบ้านเรือนชุมชน เช่น ชุมชนเกาะลอย ชุมชนรั้วเหล็ก ถนนพหลโยธินขาออกเมืองบริเวณแยกสหมิตร โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียราย ฯลฯ
ชาวบ้านต่างขนย้ายข้าวของไว้บนที่สูงอย่างฉุกระหุก ขณะที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย ได้จัดตั้งโรงครัวบริเวณที่การศูนย์ฯ อาคารอภิสแคว์ อ.เมืองเชียงราย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้อพยพหนีน้ำท่วมมาจาก อ.แม่สาย
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย พบว่าเข้าสู่ภาวะวิกฤตเพราะระดับน้ำไม่ได้ลดลง แต่กลับมีระดับสูงขึ้น โดยบริเวณหน้าด่านพรมแดนจุดผ่านแดนถาวรข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 พบว่าน้ำเข้าท่วมถนนพหลโยธินลึกเข้ามากว่า 400-500 เมตรแล้ว
หลังจากคืนที่ผ่านมาเข้าท่วมถึงบริเวณหน้า สภ.แม่สาย เช่นเดียวกับภายในชุมชนต่างๆ พบว่าจากเดิมน้ำเข้าท่วมถึงชั้น 1 ของอาคารปรากฏว่าช่วงคืนที่ผ่านมาได้ท่วมไปถึงชั้น 2 แล้ว ทำให้ชาวบ้านต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลืออพยพออกไปโดยเฉพาะซอย 4 ซอย 6 ฯลฯ ถนนเหมืองแดง ซึ่งน้ำท่วมสูงท่วมศีรษะและยังไหลเชี่ยวกราก
แต่เนื่องจากการเข้าไปถึงเป็นไปด้วยความยากลำบากทำให้ชาวบ้านยังติดอยู่ตามจุดต่างๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ อาหารและน้ำดื่มก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะซอย 4 ที่ชาวเมียนมาติดอยู่ในอาคารกว่า 30 คน และคนไทยตามอาคารต่างๆ ในซอย 6 อีกเป็นจำนวนมากบางคนสูงอายุ 90 ปี ยังอยู่บนอาคารชั้น 2-3 ขณะที่ทีมงานของศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย แจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย หลังจากที่ทั้งหมดติดอยู่ในอาคารตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา
ด้านศูนย์บัญชาการเหตุการณ์น้ำท่วม อ.แม่สาย หารือกันอย่างต่อเนื่อง โดยระดมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าช่วยชาวบ้านให้ออกมาจากจุดวิกฤต และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องจัดหาเรือยางที่มีความเบาสามารถแล่นไปบนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวตามชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาล ต.แม่สาย ได้ จึงอยู่ระหว่างรวบรวมให้ได้เร็วที่สุดต่อไป
ขณะที่ได้จัดสถานที่พักพิงชั่วคราว สำหรับชาวบ้านที่หนีน้ำออกจากบ้านได้ทันบริเวณสำนักงานเทศบาลจำนวน 34 ราย และที่วัดพรหมวิหารอีก 37 ราย รวมทั้งหมด 71 ราย นอกจากนี้ศูนย์ฯ ยังแจ้งว่าจะมีมวลน้ำจากเขต อ.แม่ฟ้าหลวง ไหลลงสู่พื้นที่ ต.โป่งผา และ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมวลน้ำดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย