นอนกรน เรื่องใหญ่กว่าที่คิด รักษาได้ ไม่ผ่าตัด Update 2024



ปัญหา การนอนกรน นับเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพ ที่พบได้บ่อยมากขึ้นในคนทั่วไป ทำให้สุขภาพโดยรวมแย่ลง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานระหว่าง และอาจเพิ่มโอกาสการเกิดอุบัติเหตุขณะใช้งานยานพาหนะได้ เนื่องจากผู้ที่มีอาการนอนกรน มักมีอาการง่วงนอนระหว่างวันร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุของการนอนกรนอาจเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย ที่ต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างเหมาะสม เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล โดยการรักษาจะมีจุดมุ่งหมาย เพื่อลดภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ ที่เป็นต้นเหตุของเสียงกรน และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพด้านอื่นตามมา ปัจจุบัน การ รักษานอนกรน แบบไม่ผ่าตัด เป็นที่นิยม เพราะ ไม่ต้องพักฟื้นนาน ค่าใช้จ่ายน้อย และเห็นผลลัพธ์ดีในรายที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับยังไม่รุนแรง

การรักษานอนกรน แบบไม่ผ่าตัด  ที่นิยมมากที่สุดรองลงมาจากเครื่องช่วยลดการนอนกรน หรือ เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) เนื่องจากผู้ใช้ CPAP เอง มักนอนหลับไม่สนิทจากเสียงของเครื่อง หรือจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งกับร่างกายขณะนอนหลับ ทำให้ประสิทธิการรักษาไม่สมบูรณ์ หรือ ลดลง อีกทั้งการหย่อนคล้อยของช่องทางเดินหายใจ หรือ ระดับความรุนแรงของการนอนกรน มักจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป หรือ อายุเพิ่มมากขึ้น ทำให้อัตราความสำเร็จในการใช้ CPAP ลดลงเรื่อย ๆ 

การใช้เครื่องมือทันตกรรมรักษานอนกรน จึงเหมาะกับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับและต้องการประสิทธิภาพในการรักษาระยะยาว สวมใส่สบาย อีกทั้งการใช้ Oral Appliance เป็นวิธีที่ง่าย สะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวัน มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ไม่มีเสียง ไม่ใช้ไฟฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับ รวมถึงสามารถลดดัชนีการหยุดหายใจ หรือ Apnea-Hypopnea Index (AHI) และลดดัชนีการหายใจผิดปกติ หรือ Respiratory-Disturbance Index (RDI) ได้จริง ในขณะเดียวกัน เมื่อการหยุดหายใจขณะหลับลดลง จะช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคร้ายแรงต่าง ๆ ได้ เช่น โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต การนอนกัดฟัน เป็นต้น 

วิธีรักษา นอนกรน แบบไม่ผ่าตัด
1. การใช้ เครื่องมือทันตกรรม รักษานอนกรน (Oral Appliance)
เครื่องมือทันตกรรมนอนกรน (Oral Appliance) จะช่วยจัดตำแหน่งของขากรรไกรล่าง (Mandibular Repositioning) ในขณะหลับ ปัจจุบันในไทยเครื่องมือทันตกรรมนอนกรนก็เป็นที่นิยมมากที่สุดในการรักษาอาการนอนกรนหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับในปัจจุบัน หลักการทำงานคือจะเลื่อนตำแหน่งขากรรไกรล่างและโคนลิ้นไปทางด้านหน้าขณะนอนหลับ ทำให้การทางเดินหายใจส่วนต้น (Upper Airway) กว้างขึ้น อีกทั้งเครื่องมือทันตกรรมนอนกรนยังช่วยจัดตำแหน่งของเพดานอ่อนให้เลื่อนมาทางด้านหน้า ทำให้ทางเดินหายใจส่วนบนหลังเพดานอ่อนกว้างขึ้น ทำให้ออกซิเจนเพียงพอต่อการนอนหลับและลดเสียงกรนได้

 

อายุการใช้งานของเครื่องมือทันตกรรมนอนกรน (Oral Appliance) ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุที่สั่งผลิตขึ้นมาเฉพาะรายบุคคลชนิด Custom–made ปัจจุบันมีอายุการใช้งานนานสูงสุด7-8ปี ผลิตชิ้นงานอุปกรณ์แม่นยำและรวดเร็วด้วยเทคนิคเฉพาะของแต่ละทันตแพทย์ผู้ให้การรักษา และสวมใส่สบายมากขึ้น การรักษาด้วยวิธีนี้ต้องได้รับการวินิจฉัยรวมถึงออกแบบเครื่องมือโดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมนอนกรนโดยเฉพาะ และเมื่อได้รับการรักษาควรได้รับการนัดตรวจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าภาวะหยุดหายใจขณะหลับน้อยลง อาการเพลียดีขึ้น  

ข้อดีของการใช้เครื่องมือทันตกรรมนอนกรน 
> มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก 
> เหมาะสำหรับคนนอนกรนเสียงดัง 
> ไม่มีสายอุปกรณ์ ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า 
> สวมใส่ง่าย เพียงใส่ในช่องปากขณะนอนหลับ  
> สามารถใช้เครื่องมือทันตกรรมนอนกรนแทน CPAP 
> ช่วยบรรเทาอาการนอนกัดฟันที่เกิดจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ 
> ทำความสะอาและดูแลรักษาง่าย 
> สั่งผลิตเฉพาะบุคคลเพื่อผลลัพธ์ที่ดีของการรักษา 
> ลดอาการง่วง เพลีย ในระหว่างวัน 

เครื่องมือทันตกรรมนอนกรน (Oral Appliance) รูปแบบชนิดปรับได้ พบว่าผู้ป่วยมีระดับความพึงพอใจในการใช้เครื่องมือมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์และสามารถใช้ต่อเนื่องได้เป็นระยะเวลานานกว่าการใช้เครื่องอัดแรงดันบวก (CPAP) 

เครื่องมือทันตกรรมนอนกรน (Oral Appliance) มีการออกแบบหลากหลายตามวัตถุประสงค์และกลไกของการทำงาน คำนึงถึงความสะดวกสบายในการสวมใส่ในช่องปาก การสั่งทำอุปกรณ์ขึ้น เฉพาะบุคคลจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้นจะต้องวัดจาก การลดเสียงกรน (Snoring) ลดดัชนีการหยุดหายใจ หรือ Apnea-Hypopnea Index (AHI) ลดดัชนีการหายใจผิดปกติ หรือ Respiratory-Disturbance Index (RDI) และต้องเพิ่มระดับออกซิเจนต่ำสุดในเลือดขณะนอนหลับได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 

2. คลื่นวิทยุรักษานอนกรน (Radio frequency: RF BOT)
การรักษานอนกรนด้วยคลื่นวิทยุรักษานอนกรน (Radio frequency: RF BOT) เป็นการรักษานอนกรนและโรคภาวะหยุดหายใจขณะหลับ นิยมมากเฉพาะผู้มีปัญหาเสียงกรนเพียงอย่างเดียวหรือผู้ทีเริ่มนอนกรน และผู้ที่มีปัญหาภาวะหยุดหายใจขณะหลับระดับน้อยถึงปานกลาง สามารถใช้คลื่นวิทยุรักษานอนกรนควบคู่กับทุกการรักษา เช่น เครื่องมือทันตกรรมนอนกรน หรือ เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการรักษานอนกรนอื่น ๆ 



วีธีการรักษานอนกรนด้วยคลื่นวิทยุรักษานอนกรน 
บริเวณที่นิยมรักษาเสียงกรนและโรคภาวะหยุดหายใจขณะหลับด้วยคลื่นวิทยุคือ บริเวณเพดานอ่อน (Soft Palate) เป็นบริเวณที่มีการหย่อนและเกิดการอุดกั้นได้มากที่สุด แพทย์จะนำเข็มชนิดพิเศษปล่อยคลื่นบริเวณที่มีเพดานที่มีการหย่อน จากนั้นจะปล่อยคลื่นวิทยุเข้าไปในเนื้อเยื่อเพื่อให้เกิดความร้อนส่งผลให้บริเวณเพดานอ่อนที่มีการหย่อนนั้นหดตัวและมีพังผืดเกิดขึ้น ทางเดินหายใจจะกว้างขึ้น เสียงกรนจะลดน้อยลงจากพังผืดและการหดตัวด้วยคลื่นวิทยุรักษานอนกรน การใช้คลื่นวิทยุจะช่วยลดการสั่นสะเทือนที่เป็นต้นกำเนิดเสียงกรนได้ดี แผลมีขนาดเล็กมากจากรอยเข็ม พักฟื้นน้อย เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ในระยะเวลาที่รวดเร็ว 

ข้อดีข้อการรักษาด้วยคลื่นวิทยุรักษานอนกรน 
> ลดเสียงกรนได้ดี 
> แผลขนาดเล็กมาก ไม่ต้องพักฟื้น ทานอาหารได้ปกติทันที 
> ขณะทำการรักษาไม่มีอาการเจ็บปวด เนื่องจากใช้ยาชาเฉพาะที่ 
> เป็นการรักษารวดเร็วที่สุดในการรักษาเสียงกรน 
> ไม่ต้องใส่อุปกรณ์ใดๆขณะนอนหลับ 
> สามารถทำการรักษาร่วมกับการรักษาอื่นๆได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาที่ดียิ่งขึ้น 
> มีผลงานวิจัยรองรับการรักษามากกว่าการใช้เลเซอร์ 

การรักษานอนกรนด้วยคลื่นวิทยุรักษานอนกรน (Radio frequency: RF BOT) เป็นการรักษานอนกรนที่รวดเร็วและเห็นผลเร็วที่สุด จากงานวิจัยเสียงกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับจะดีขึ้นภายใน 3-4 สัปดาห์หลังทำ และควรทำต่อเนื่องประมาณ 3-4 ครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ยาวนาน อย่างไรก็ตามผลขึ้นกับบุคคลและการวินิจฉัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

3. การรักษาด้วยการใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก : CPAP
การรักษาด้วยการใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก : CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) คือเครื่องช่วยหายใจประเภทหนึ่ง ซึ่งใช้หลักการอัดแรงดันอากาศให้แก่ผู้ใช้ในขณะหายใจเข้า เพื่อเปิดช่องทางเดินหายใจส่วนต้นให้กว้างขึ้น เป็นการรักษาที่ยอดนิยมระดับโลก ต้องใช้การปรับตั้งค่าจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อใช้ในการรักษาโรคหยุดหายใจขณะหลับ เครื่องช่วยหายใจหรือCPAPตัวนี้ไม่ได้รักษาด้วยการผลิตออกซิเจนหรือเครื่องเพิ่มปริมาณออกซิเจนแต่อย่างใด เครื่องช่วยหายใจหรือCPAP นี้จะนำอากาศจากภายนอกมาสร้างแรงดันบวกเข้าไปในบริเวณที่มีการอุดกั้นในลำคอ ทำให้เวลาที่มีการอุดกั้นกว้างพอที่ให้อากาศเข้าไปได้อย่างเพียงพอ 



เครื่อง CPAP ในปัจจุบัน ที่นิยมใช้เพื่อลดนอนกรน คือ เครื่องช่วยหายใจ CPAP แบบปรับแรงดันอัตโนมัติ (Auto CPAP) และ เครื่องช่วยหายใจ แบบแรงดัน 2 ระดับ (Bilevel PAP หรือ BiPAP) ซึ่งแพทย์เฉพาะทางด้านการรักษานอนกรนจะเป็นผู้แนะนำว่าเครื่องประเภทไหนที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย พร้อมแนะนำความดันลมที่เหมาะสมกับภาวะโรคการหยุดหายใจขณะหลับในช่วงเวลานั้น ๆ และอาจแนะนำการรักษาอื่นเพิ่มเติมที่เหมาะสมร่วมด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา

4. การรักษานอนกรนที่ต้นเหตุ (Myofunctional Therapy)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

tripnote005

อ้างอิงข้อมูลจาก VitalSleep Clinic

พาพันชอบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่