เรื่องมีอยู่ว่า เราได้จ้างพนักงานมาคนนึงทำงานตำแหน่งบริการลูกค้า(นั่งเค้าเตอร์) เงินเดือน 20k แต่ด้วยความเอ็นดูเราจึงมีงานเสริมให้ แต่งานเสริมเราให้ไปทำนอกเวลางานนะ คือให้ทำแค่ในวันหยุด แต่ต้องมาทำในที่ทำงานเท่านั้น งานเสริมให้เป็นรายชิ้นทตกเดือนๆนึงน้องพนักงานจะมีรายได้รวมเงินเดือนที่ เดือนละ 50k-100k
แต่ส่วนมากจะอยู่ที่ 70k-100k มากกว่า ตอนแรกๆก็ทำในวันหยุด พอหลังๆเราปล่อยไม่ได้เข้มงวดเพราะก็เอ็นดูน้องคนนี้ สุดท้ายตอนนี้น้องทำงานในส่วนของออฟฟิศน้อยมาก เรียกว่าทำแค่ 4 ชม.ต่อวันเอง แต่เอางานเสริมมาทำในเวลางานหลักแทบจะทั้งวัน เราพยายามเรียกมาพูดอ้อมๆให้น้องได้เข้าใจว่าน้องกำลังเอาเปรียบเราอยู่เพราะเราต้องจ่ายทั้งเงินเดือนและเงินในส่วนของงานเสริมไปอีก แต่งานออฟฟิศเราไม่คืบหน้า แถมเรายังต้องจ้างคนนอกมาทำในส่วนของงานออฟฟิศของน้องคนนี้อีก ทุกคนคิดว่าเราควรทำยังไงดี หรือความคิดนี้เรากำลังเห็นแก่ตัว เราเข้มงวดเกินไป? คือเราสับสนไปหมด คือเป็นนายจ้างที่ถูกเอาเปรียบ
ด้วยความที่เราเป็นคนไม่ชอบเอาเปรียบใคร พอโดนแบบนี้คือเซงมาก
ปล.น้องคนอื่นๆที่ทำงานเสริมส่วนมากทำหลังเวลาเลิกงาน มีแค่คนนี้ที่ทำในเวลางาน
เราควรทำยังไงดี???
แต่ส่วนมากจะอยู่ที่ 70k-100k มากกว่า ตอนแรกๆก็ทำในวันหยุด พอหลังๆเราปล่อยไม่ได้เข้มงวดเพราะก็เอ็นดูน้องคนนี้ สุดท้ายตอนนี้น้องทำงานในส่วนของออฟฟิศน้อยมาก เรียกว่าทำแค่ 4 ชม.ต่อวันเอง แต่เอางานเสริมมาทำในเวลางานหลักแทบจะทั้งวัน เราพยายามเรียกมาพูดอ้อมๆให้น้องได้เข้าใจว่าน้องกำลังเอาเปรียบเราอยู่เพราะเราต้องจ่ายทั้งเงินเดือนและเงินในส่วนของงานเสริมไปอีก แต่งานออฟฟิศเราไม่คืบหน้า แถมเรายังต้องจ้างคนนอกมาทำในส่วนของงานออฟฟิศของน้องคนนี้อีก ทุกคนคิดว่าเราควรทำยังไงดี หรือความคิดนี้เรากำลังเห็นแก่ตัว เราเข้มงวดเกินไป? คือเราสับสนไปหมด คือเป็นนายจ้างที่ถูกเอาเปรียบ
ด้วยความที่เราเป็นคนไม่ชอบเอาเปรียบใคร พอโดนแบบนี้คือเซงมาก
ปล.น้องคนอื่นๆที่ทำงานเสริมส่วนมากทำหลังเวลาเลิกงาน มีแค่คนนี้ที่ทำในเวลางาน