เกริ่นเรื่องก่อนนะคะ ขอเล่าประวัติแฟนปัจจุบันก่อนค่ะ เขาแฟนเราแยกกันอยุ่กับอดีตภรรยา มา 1 ปี ในช่วงปี 65 และเลิกขาด หรือหย่ากันตามกฏหมายเมื่อต้นปีที่ 66 ด้วยหลายๆสาเหตุที่พวกเขาไปต่อกันไม่ได้ ทั้ง 2 มีลูกด้วยกัน 2 คน ที่ต้องดูแลร่วมกัน
หลังจากนั้นชาวงกลางปี 66 ผช. เขาก็มาเจอเราตกลงคบกับมาถึงปัจจุบัน
ทั้ง 2 จะคุยถามไถ่กับเรื่องลูกทั้ง 2 คนเป็นเรื่องปกติ เพราะต้องเลี้ยงดูลูก และวางแผนต่างๆเกี่ยวกับการเติบโต กานเรียนของลูกๆเขาในหน้าที่ของพ่อ และแม่ ซึ่งเรื่องนี้เราเข้าใจ และรับได้ ไม่เคยมีประเด็นนี้เลยที่เป็นปัญหา
ตอนนี้ช่วงหลังเรามีปัญหาทะเลาะกันบ่อยมากขึ้น เรื่องที่เขาวางตัวไม่เหมาะสม เนื่องจากเราอ่านข้อความที่เขาคุยกันในเชิงหยอกล้อ หมาหยอกไก่ แซวกันต่างๆ เล่าเรื่องชีวิตประจำวัน การทำอะไร ปรึกษาเรื่องการทำงาน เรื่องต่างๆ ถ่ายรูปอาหาร สิ่งของ คลิปตลกที่เจอในแต่ละวัน ส่งให้กันและกันดู ในบางครั้งอาจมีส่งลิงก์ หรือคลิปตลกต่อให้เราด้วย
ปัญหามันเกิดจากเราถามเขาเรื่องการคุยกันของเขาระหว่าง 2 คน ที่ไม่ใช่แค่เรื่องลูกอย่างเดียว มันดันเป็นใหญ่โตที่เขามองว่าเราใจแคบ คิดมาก ชวนทะเลาะ และท้าให้เลิกกัน
คือตอนนี้สับสนว่าจะเอายังงัยต่อดี คือเรามันใจแคบจริงๆ ตามที่เขาว่า เพราะเขาต้องคุยกัน และจะให้คุยเเค่เรื่องลูกอย่างเดียวก้ไม่ได้
อยากถามทุกคนว่ามันก็เป็นปกติของคนที่เลิกกันแล้วมีลูกต้องดูแลร่วมกัน เขาทำกันเป็นปกติใช่ไหม หากใช่เราควรทำอย่างไร และหากไม่ใช้ควรมีแนวทางอย่างไรบ้าง
*ปล เรื่องที่เขาปรึกษากันส่วนนึงมาจากที่เราเป็นที่ปรึกษาให้เขาไม่ได้ เหตุเกิดจากเขาบอกว่าเราไม่อินในงานเขาและไม่รุ้สึกความจริงใจในการให้กำลังใจเขา และอีกเรื่องคือเราไม่สปอยลูกเขา ต้องเขาหาหรือซื้ออะไรไม่ฝาก เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาของเรา เราไม่กล้าเข้าหาลูกเขา เนื่องจากเขายังไม่บอกลูกๆเขาว่ามีเรา ให้เหตุผลว่ายังไม่พร้อมที่จะให้ลูกรู้ว่าเขามีแฟนใหม่แล้ว ลูกของเขาทั้ง 2 คนเรายังไม่เคยเจอหรือทำความรู้จักหรือพูดคุย เราควรทำตัวยังงัยดี
ขอบคุณทุกคนที่ให้คำตอบล่วงหน้านะคะ พอเป็นเรื่องความรู้สึกแบบนี้ มันทำให้โง่จริงๆค่ะ ตรรกะ โลจิกที่เคยมีมันไม่ทำงานเลย
ใจมันก็มีคำตอบรอ แต่อยากหาเหตุผลสลับสนุน ว่าจะไปหรือพอแค่นี้ดี
ปัญหาความรัก
หลังจากนั้นชาวงกลางปี 66 ผช. เขาก็มาเจอเราตกลงคบกับมาถึงปัจจุบัน
ทั้ง 2 จะคุยถามไถ่กับเรื่องลูกทั้ง 2 คนเป็นเรื่องปกติ เพราะต้องเลี้ยงดูลูก และวางแผนต่างๆเกี่ยวกับการเติบโต กานเรียนของลูกๆเขาในหน้าที่ของพ่อ และแม่ ซึ่งเรื่องนี้เราเข้าใจ และรับได้ ไม่เคยมีประเด็นนี้เลยที่เป็นปัญหา
ตอนนี้ช่วงหลังเรามีปัญหาทะเลาะกันบ่อยมากขึ้น เรื่องที่เขาวางตัวไม่เหมาะสม เนื่องจากเราอ่านข้อความที่เขาคุยกันในเชิงหยอกล้อ หมาหยอกไก่ แซวกันต่างๆ เล่าเรื่องชีวิตประจำวัน การทำอะไร ปรึกษาเรื่องการทำงาน เรื่องต่างๆ ถ่ายรูปอาหาร สิ่งของ คลิปตลกที่เจอในแต่ละวัน ส่งให้กันและกันดู ในบางครั้งอาจมีส่งลิงก์ หรือคลิปตลกต่อให้เราด้วย
ปัญหามันเกิดจากเราถามเขาเรื่องการคุยกันของเขาระหว่าง 2 คน ที่ไม่ใช่แค่เรื่องลูกอย่างเดียว มันดันเป็นใหญ่โตที่เขามองว่าเราใจแคบ คิดมาก ชวนทะเลาะ และท้าให้เลิกกัน
คือตอนนี้สับสนว่าจะเอายังงัยต่อดี คือเรามันใจแคบจริงๆ ตามที่เขาว่า เพราะเขาต้องคุยกัน และจะให้คุยเเค่เรื่องลูกอย่างเดียวก้ไม่ได้
อยากถามทุกคนว่ามันก็เป็นปกติของคนที่เลิกกันแล้วมีลูกต้องดูแลร่วมกัน เขาทำกันเป็นปกติใช่ไหม หากใช่เราควรทำอย่างไร และหากไม่ใช้ควรมีแนวทางอย่างไรบ้าง
*ปล เรื่องที่เขาปรึกษากันส่วนนึงมาจากที่เราเป็นที่ปรึกษาให้เขาไม่ได้ เหตุเกิดจากเขาบอกว่าเราไม่อินในงานเขาและไม่รุ้สึกความจริงใจในการให้กำลังใจเขา และอีกเรื่องคือเราไม่สปอยลูกเขา ต้องเขาหาหรือซื้ออะไรไม่ฝาก เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาของเรา เราไม่กล้าเข้าหาลูกเขา เนื่องจากเขายังไม่บอกลูกๆเขาว่ามีเรา ให้เหตุผลว่ายังไม่พร้อมที่จะให้ลูกรู้ว่าเขามีแฟนใหม่แล้ว ลูกของเขาทั้ง 2 คนเรายังไม่เคยเจอหรือทำความรู้จักหรือพูดคุย เราควรทำตัวยังงัยดี
ขอบคุณทุกคนที่ให้คำตอบล่วงหน้านะคะ พอเป็นเรื่องความรู้สึกแบบนี้ มันทำให้โง่จริงๆค่ะ ตรรกะ โลจิกที่เคยมีมันไม่ทำงานเลย
ใจมันก็มีคำตอบรอ แต่อยากหาเหตุผลสลับสนุน ว่าจะไปหรือพอแค่นี้ดี